‘would’ และ ‘could’ เป็น auxiliary verb ที่บางทีก็ทำให้เกิดความสับสน เพราะนอกจากจะเป็น past tense ของ ‘shall’ ‘will’ และ ‘can’ ตามลำดับแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นได้อีกนั่นเอง
Would
สามารถนำไปใช้เพื่อ:
1. ถามเกี่ยวกับ ‘who’‘what’‘where’‘when’‘why’ หรือ ‘how’(ไม่เสมอไปแต่ก็นำไปใช้อยู่บ่อยๆ)
เช่น
How would you do that?
คุณทำอย่างนั้นได้อย่างไร?
What would you do if…
คุณจะทำอย่างไรถ้า…
When would we have time to do that?
เมื่อไรเราจึงจะมีเวลาทำอย่างนั้น?”
Who would want to wait in that line?
ใครอยากจะไปรอในแถวนั้น?
2. ทำการขอร้องอย่างสุภาพ
เช่น
Would you like any tea?
คุณจะรับน้ำชาไหม?
Would you like anything else?
คุณต้องการอะไรเพิ่มหรือไม่?
3. การตั้งสมมุติฐาน
เช่น
If I had a lot of money I would like to own a farm one day.
ถ้าผมมีเงินมากๆ ล่ะก็ ผมอยากมีฟาร์มเป็นของตัวเองในสักวันหนึ่ง
I would love to buy a boat one day.
สักวันหนึ่งผมจะซื้อเรือ
4. สอบถาม
เช่น
Would you like fries or salad?
จะรับเฟร้นช์ไฟรส์หรือสลัดดีครับ?
Would you like to join us tonight?
คืนนี้คุณจะมาร่วมงานกับพวกเราไหม?
Could
สามารถนำไปใช้เพื่อ:
1. บอกถึงความเป็นไปได้
เช่น
Whose journal is this? It could be Nelly’s journal.
นี่เป็นวารสารของใคร? น่าจะเป็นของเน็ลลี่นะ
Could ‘A’ be the answer? It’s definitely not ‘B’ or ‘D.’
คำตอบน่าจะเป็น ‘A’ ใช่ไหม? ‘B’ หรือ ‘D’ นี่ไม่ใช่แน่ๆ
2. ทำการขอร้องอย่างสุภาพ
เช่น
Could you please move this box?
คุณช่วยเลื่อนกล่องนี้หน่อยได้ไหม?
Could you please pass that paper?
คุณช่วยส่งกระดาษนั่นมาให้หน่อยได้ไหม?
การใช้คำว่า ‘could’ ในการตอบคำขอร้องในตัวอย่างสุดท้ายนั้น ทำให้ประโยคมีความหมายไปในทำนองที่ว่าคุณสามารถทำอย่างนั้นได้แต่คุณไม่อยากทำสักเท่าไร แต่ถ้าคุณตกลงใจที่จะทำตามคำขอร้องดังกล่าว ให้ใช้คำว่า ‘can’
เช่น
Could you please move this box?” “I could, but I am really busy right now.
คุณช่วยเลื่อนกล่องนี้หน่อยได้ไหม?”“ได้ แต่ตอนนี้ผมกำลังยุ่งอยู่
Could you please pass that paper. Sure, I can.
“คุณช่วยส่งกระดาษนั่นมาให้หน่อยได้ไหม?” “ได้สิ”
ขอบคุณข้อมูล