คอเลสเตอรอล คือไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้ และสามารถพบได้ในอาหาร เป็นไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายโดยเฉพาะในกระบวนการสร้างเซลล์ในร่างกาย ซึ่งร่างกายต้องการคอเลสเตอรอลในการช่วยให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเป็นปกติ
การป้องกันตัวเอง หากสาเหตุต้องรักษาภาวะคลอเลสเตอรอลสูง ในร่างกาย การจัดการ และรักษาภาวะคลอเลสเตอรอลสูงในร่างกาย
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทุกท่าน ดังนี้
• ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทานอาหารไม่มากเกินจำเป็น ลดบริโภคประเภทไขมันอิ่มตัว เช่น เนื้อสัตว์ เนย มะพร้าว กะทิ เป็นต้น และอาหารที่มีคลอเลสเตอรอลสูง เช่น ปลาหมึก ไข่ กุ้ง หอย ร่วมทั้งอาหารมีน้ำตาลปริมาณมาก เป็นต้น
• และ เพิ่มการบริโภคอาหารพวกพืชผักผลไม้ ที่มีเส้นใย (fiber) ให้มาก
• และ ลดน้ำหนักด้วยวิธีที่เหมาะสม เพิ่มการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 ครั้งต่อสัปดาห์ เช่น การออกกำลังกาย การเดินเร็ว ซึ่งควรเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล
• และ เลิกบุหรี่
• ลดความเครียด ความวิตกกังวล เนื่องจากทำให้ร่างกายผลิตคลอเลสเตอรอลขึ้นมาเกินความจำเป็น
2. ผู้ที่ต้องรับประทานยาลดไขมันตามแพทย์สั่ง ต้องไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้เหมาะสม
3. ผู้ที่ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินการรักษาที่เหมาะสม และเพื่อติดตามผลการรักษา
ข้อควรทราบ
1. หากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
2. เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีที่มีน้ำหนักเกิน (Overweight) หรืออ้วน (Obesity) ควรพิจารณาตรวจติดตามค่าคลอเลสเตอรอลอย่างน้อยทุก 2 ปี โดยเกณฑ์ในเด็กหรือในวัยรุ่นอาจมีความแตกต่างจากในผู้ใหญ่ ดังนั้นพิจารณาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
3. ท่านควรแจ้งแพทย์ก่อนหากท่านได้รับยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรอยู่ ซึ่งอาจมีผลเพิ่มระดับ คลอเลสเตอรอลได้
4. ท่านควรแจ้งแพทย์ก่อน หากท่านมีภาวะติดเชื้อ, เจ็บป่วยเฉียบพลัน (acute illness), อยู่ในระหว่างการผ่าตัดหรืออุบัติเหตุ (stress like from surgery or an accident) ผลการตรวจอาจผิดพลาดจากความจริงได้ ท่านควรรออย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังอาการต่างๆหายไป
5. ผู้หญิงตั้งครรภ์ อาจจะมีค่าคลอเลสเตอรอลสูงขึ้นได้ ดังนั้นอาจจะพิจารณารออย่างน้อย หลังคลอด 6 สัปดาห์เพื่อตรวจอีกครั้ง
หากระดับคอเลสเตอรอลมีมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงขึ้น เนื่องจากคอเลสเตอรอลจะไปเกาะตัวกันบนผนังหลอดเลือดทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก คอเลสเตอรอลแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ได้แก่
- คอเลสเตอรรอลชนิดที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) ทำหน้าที่ในการนำคอเลสเตอรอลส่วนเกินจากเซลล์กลับไปยังตับ เพื่อทำลายหรือขับออกในรูปของเสียจากร่างกาย
- คอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ทำหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอลไปยังเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย หากมีมากกว่าที่เซลล์ต้องการก็จะไปสะสมที่บริเวณผนังหลอดเลือด เป็นชนิดที่อันตรายและส่งผลร้ายต่อสุขภาพได้
อาการคอเลสเตอรอลสูง
โดยปกติแล้วจะไม่มีอาการแสดงให้เห็น แต่ในกรณีที่ระดับคอเลสเตอรอลสูงมาก ๆ ก็อาจทำให้เสี่ยงกับปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ ทั้งนี้ภาวะดังกล่าวจะสามารถระบุได้ก็ต่อเมื่อได้รับการตรวจเลือดวินิจฉัย
สาเหตุของคอเลสเตอรอลสูง
เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหารที่รับประทาน หรือแม้แต่โรคร้ายแรงต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลโดยตรง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้แก่
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
การมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผิด ๆ ก่อให้เกิดภาวะคอเลสเตอรอลสูงได้ โดยพฤติกรรมที่กระตุ้นให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้นคือ
- การรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ส่งผลโดยตรงต่อระดับคอเลสเตอรอล ไม่ว่าจะเป็นเครื่องในสัตว์หรือไข่ ก็ล้วนแต่มีคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในปริมาณที่สูง
- ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อย การเคลื่อนไหวร่างกายที่น้อยลงจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) สูงขึ้น จนทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูง
- โรคอ้วน ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางสุขภาพ และทำให้แนวโน้มที่ระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และไตรกลีเซอไรด์จะสูงขึ้น รวมถึงทำให้ระดับคอเลสเตอรอลที่ดีลดต่ำลงอีกด้วย
- ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป นอกจากทำลายตับแล้ว การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักก็ยังส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ได้
- การสูบบุหรี่ สารเคมีจากบุหรี่เป็นตัวการสำคัญที่เข้าไปขัดขวางการทำงานของคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี ทำให้คอเลสเตอรอลเตอรอลส่วนเกินไม่สามารถลำเลียงไปยังตับได้ เป็นเหตุให้หลอดเลือดตีบเนื่องจากการสะสมของคอเลสเตรอลที่ผนังหลอดเลือดและกลายเป็นโรคหลอดเลือดแดงแข็งในที่สุด
ขอบคุณข้อมูล https://calculator.teenee.com/ และ https://www.pobpad.com/