ความรู้รอบด้านสำหรับเด็กยุคใหม่ แบบหลายทักษะให้รอบด้าน และผสมผสานทั้งทักษะ Hard skills และ Soft Skills
ปัจจุบันเราจะเห็นว่าในโลกของการทำงาน Soft Skills (ความสามารถด้านสังคม) นั้นมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า Hard Skills (ความสามารถด้านอาชีพ) ดังคำกล่าวที่บอกว่า “Hard Skill ทำให้คุณได้สัมภาษณ์งาน แต่คุณจะได้งานและรักษางานจนกระทั่งเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ จำเป็นต้องมี Soft Skill” เมื่อ Hard Skill มีความสำคัญต่อการเปิดโอกาสให้คุณ แต่ Soft Skill คือตัววัดว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนโอกาสนั้นเป็นความสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน ตัวอย่างเช่น บางคนเป็นนักวิชาการที่เก่งมาก แต่ไม่สามารถอธิบายหรือสื่อสารให้คนอื่นรับรู้และเข้าใจได้ก็อาจส่งผลกระทบต่อโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เราควรฝึกทักษะทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไปให้สมดุล เลือกที่ถนัดและทำได้ดีที่สุด เพื่อความพร้อม และสร้างโอกาสสำหรับการทำงานของเราในอนาคต
- มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่คุณสนใจก่อน
หลายคนอาจได้ยิน ได้อ่าน ได้รับคำแนะนำว่าคุณควรมีทักษะนั้น ทักษะนี้ แต่คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวคุณเอง คุณต้องเริ่มต้นมองว่าทักษะไหนที่คุณสนใจจริงๆ อยู่ในสายอาชีพที่คุณถนัด และเริ่มเรียนรู้ต่อยอดความรู้ให้ลึกขึ้นจากตรงนั้นจะง่ายกว่า พยายามอย่าเลือกทักษะที่มองว่าน่าจะหางานง่าย หรือเป็นที่ต้องการของตลาดเท่านั้น แต่ควรเป็นทักษะที่เราสนใจด้วย เพราะการเลือกทักษะที่คุณไม่ได้สนใจ มีแนวโน้มว่าคุณจะล้มเลิก และถอดใจกับการเรียนรู้ไปง่ายๆ
- หากไม่แน่ใจ ลองเรียนรู้ทักษะให้หลากหลาย
แต่หากว่าตัวคุณยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน จะเจาะลึกไปที่ทักษะใด หรือยังหาทักษะที่สนใจไม่เจอ ดังนั้น คุณอาจเริ่มต้นเรียนรู้ทักษะต่างๆ ขั้นพื้นฐานก่อน เพื่อที่คุณจะได้มีไอเดียว่าทักษะไหนที่ควรค่าที่จะให้เวลามากขึ้น การทำเช่นนี้ก็คล้ายกับว่านักเรียนนักศึกษาเข้าใหม่ที่ยังไม่รู้จะไปเรียนสายไหน เลือกเรียนอะไร เพราะฉะนั้น ก็ลองเรียนให้มากและหลากหลายเพื่อค้นหาว่าชอบและสนใจอะไร
- อย่าให้กรอบความคิดเดิมๆ มาจำกัดตัวเลือกในชีวิต
การที่คุณเรียนสายเคมี ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องเป็นนักเคมี ตัวคุณอาจรู้สึกสนุกและชอบความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวกับเคมี แต่อย่าจำกัดตัวเองว่าต้องทำแค่สายเคมีเท่านั้น คุณสามารถออกแบบอาชีพในแบบที่คุณต้องการได้
- ฝึกเรียนรู้ให้เป็นนิสัย
หนึ่งพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนควรมีคือ ความสม่ำเสมอในการเรียนรู้ จะเห็นได้ชัดว่า จากวิกฤตโควิด-19 คนไม่ได้รอการผลักดันให้เข้าเรียนอีกต่อไป แต่กลับกระตุ้นตนเองขึ้นมาอัพเดตทักษะใหม่ๆ คิดสิ่งใหม่ ลองทำสิ่งใหม่ๆ ดังนั้น เทรนด์การเรียนรู้ที่กำลังมาแรงและตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้ คือ การเรียนรู้ให้เร็ว เรียนเดี๋ยวนี้ ใช้พรุ่งนี้ (Just in time Learning) การเรียนที่เพิ่มทักษะใหม่ เปิดโอกาสรับอาชีพใหม่ที่ตอบโจทย์อนาคต( purpose-driven) และสุดท้าย คนในยุคทุกวันนี้ไม่เชื่อว่าการเรียนรูปแบบเดียวจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนเดิมแล้ว แต่ต้องเป็น Blended Learning การเรียนรู้ที่ผสมผสานหลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกันถึงจะตอบโจทย์และโดนใจที่สุด
- เข้าสังคมได้ (Social Skills)
ต่อเนื่องจากข้อ 6 นอกจากการสื่อสารแล้ว เด็กยุคใหม่จำเป็นต้องมีทักษะในการเข้าสังคม ปรับตัว และสามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะในโรงเรียน หรือแม้แต่ในที่ทำงานเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
- มีคุณธรรม (Integrity)
คุณธรรมเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ให้พวกเค้ารู้จักผิดชอบชั่วดี อะไรควร อะไรไม่ควร โดยการทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูก ให้พวกเค้าได้ซึมซับถึงความคิดและพฤติกรรมที่เหมาะสมจนกลายเป็นนิสัย ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันที่ดีในการใช้ชีวิตในสังคมได้
- ริเริ่มสร้างสรรค์ (Initiative)
การมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จะสร้างความแตกต่างได้ จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทักษะที่มีความจำเป็นไม่น้อยไปกว่าทักษะอื่น และพ่อแม่สามารถฝึกทักษะนี้ได้โดยหมั่นกระตุ้นให้ลูกได้คิดอยู่เสมอ ๆ
ขอบคุณข้อมูล https://www.seasiacenter.com/