รู้ทันความคิด… ฝึกสติในขณะปัจจุบัน
ความคิดในบางครั้งก็เป็นสิ่งที่ไวจนเราแทบจะจับมันไม่ทัน หรือรู้ไม่ทันความคิดที่แล่นออกไป โดยการ ฝึกสติในขณะปัจจุบัน จึงเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้เราทันความคิด
การมีสติหรือ “Mindfulness” คือการรู้กายรู้ใจ การอยู่กับปัจจุบันอย่างที่มันเป็น โดยไม่ตัดสิน ไม่ปรุงแต่ง เพียงแค่รู้ยอมรับและเข้าใจ การฝึกสติทำได้ง่ายๆโดยการอยู่กับลมหายใจเข้าออก เมื่อเผลอไปคิดก็แค่รู้ ไม่โกรธ ไม่ตัดสิน ไม่เพ่งโทษ เมื่อรู้สึกตัวก็กลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าออกเช่นเดิม
เมื่อเราสงบ ความกังวล ความกดดัน และความเครียดจะค่อยๆลดลงและจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามสภาพความเป็นจริง เพราะความคิดจะไม่ปรุงแต่งด้วยอารมณ์ ความโกรธ ความเกลียดหรือความกลัว ถึงแม้การฝึกสติจะเป็นหัวใจสำคัญของศาสนาพุทธแต่จริงๆ แล้วการฝึกสติเป็นสากลคนทุกชาติทุกภาษาสามารถฝึกได้แม้จะไม่ได้เป็นพุทธศาสนิกชน
ในสาขาจิตวิทยาคลีนิกนั้นได้มีการนำการฝึกสติมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการบำบัดคนไข้มานานกว่าสามสิบปีแล้ว นักจิตวิทยาชาวตะวันตกได้ผสมผสานแนวทางการรักษาทั้งแบบตะวันตกและแบบตะวันออกไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งรวมถึง การนั่งสมาธิ การฝึกโยคะ การมีจุดมุ่งหมายในชีวิตและการเข้าใจตนเอง ( Self-Awareness)
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า พระภิกษุมีคลื่นสมองแกมมาในระดับสูงกว่ากลุ่มนักศึกษาแม้ในภาวะปกติ และความแตกต่างยิ่งมีมากขึ้นในระหว่างการนั่งสมาธิ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าสมองได้มีการพัฒนาอย่างถาวรหากได้ฝึกทำสมาธิติดต่อกันมาเป็นเวลานาน โดยผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นด้วยว่าการฝึกสติและนั่งสมาธิ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบประสาทของสมองซึ่งมีผลทำให้ความจำ ความคิดและการตัดสินใจดีขึ้น
นอกจากการนั่งสมาธิเราสามารถฝึกสติได้จากกิจวัตรประจำวันธรรมดา ๆ อย่างการดื่มชาพร้อมกับการรับรู้รสชาติของชาอย่างแท้จริง การเดินพร้อมกับการรับรู้การเคลื่อนไหวของร่างกาย การทำงานที่ซับซ้อนแต่ไม่ใช้ความคิดมากนัก เช่น การวาดรูป การเขียนไดอารี่ การปลูกต้นไม้ หรือเล่นกีฬาเป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้ทำให้ความคิดสงบและจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำ ณ ปัจจุบัน หรือแม้แต่การให้ความช่วยเหลือคนอื่นในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างพาคนตาบอดข้ามถนน เล่นเลโก้กับเด็กๆ ช่วยรับโทรศัพท์และจดโน้ตให้เพื่อนร่วมงานที่ไม่อยู่ที่โต๊ะ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราออกจากความคิดฟุ้งซ่าน การหมกมุ่นกับตนเองและใส่ใจคนอื่นมากขึ้น เมื่อจิตใจสงบความคิดไร้สาระต่าง ๆ ก็จะค่อย ๆ ลดลง
ผู้เขียน : ปาริชาต พัฒนพิบูลย์พงษ์
ที่มา :
www.rcpsych.ac.uk
www.webmd.com
citeseerx.ist.psu.edu
www.mindful.org
chademeng.com
psychcentral.com