อยากเป็นหมอ จบ ม.3 แล้ว ควรเรียนต่อสายสามัญอะไรดี ?
โดยหลัก ๆ แล้ว แผนการเรียนสายสามัญในระบบการศึกษาไทย จะมีประมาณ 4 แผนการเรียน ซึ่งแต่ละแผนการเรียนก็มีเส้นทางในการเข้าศึกษาต่อคณะที่แตกต่างกันไป และถ้าคณะในฝัน คือ “คณะแพทยศาสตร์” แล้วล่ะก็ ควรเลือกเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ หรือวิทย์-คณิต
สำหรับแผนการเรียนวิทย์-คณิต เป็นที่รู้กันว่าแผนการเรียนนี้เรียนค่อนข้างหนัก ทั้งเนื้อหาที่เยอะและการสอบที่เข้มข้นอีก เนื่องจากแผนการเรียนนี้ มุ่งเน้นในวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา ส่วนวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา และวิชาอื่น ๆ ยังคงเรียนอยู่
อยากเรียนหมอ ต้องสอบอะไรบ้าง ?
เมื่อทราบกันแล้วว่า หากต้องการสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยไหนก็ตาม ควรเรียนต่อ ม.4 สายวิทย์-คณิต และตอนนี้ ตามมาดูกันต่อว่า สนามสอบเข้าเรียนต่อคณะแพทยศาสตร์ ต้องใช้คะแนนวิชาอะไรบ้าง ? และสัดส่วนคะแนนที่ใช้ คือเท่าไหร่
O-NET
จะใช้ผลคะแนนสอบ O-NET (วิชาที่ใช้คะแนน ได้แก่ วิทย์ คณิต อังกฤษ ไทย สังคม) คะแนนรวมกันต้องได้ 60 % หรือ 300 คะแนน (ทั้งนี้คะแนน O-NET จะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยว่ามีการกำหนดเกณฑ์เอาไว้อย่างไร โดยผู้สมัครสอบเข้าคณะแพทย์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์คณะแพทยศาสตร์ของแต่ละมหาวิทยาลัยหรือสถาบันได้เลย)
7 วิชาสามัญ รวมสัดส่วนคะแนนที่ใช้ 70 %
- วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา) : 40%
- คณิตศาสตร์ 1 : 20%
- ภาษาอังกฤษ : 20%
- ภาษาไทย : 10%
- สังคมศึกษา : 10%
วิชาความถนัดแพทย์ รวมสัดส่วนคะแนนที่ใช้ 30 %
โดยข้อสอบวิชาความถนัดแพทย์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
ด้านเชาว์ปัญญา
ข้อสอบจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ด้านการคำนวณ+IQ และด้านภาษา โดยที่จะมีโจทย์คณิตศาสตร์ โจทย์อนุกรมเลข โจทย์ตรรกศาสตร์ การวิเคราะห์อนุกรมภาพ การจับคู่ความสัมพันธ์ และการอ่านจับใจความในวิชาภาษาไท
ด้านจริยธรรมทางการแพทย์
แนวโน้มของข้อสอบมักจะออกเป็นมาเป็นกรณีและสถานการณ์ต่าง ๆ ทั่วในสังคม ฉะนั้น เนื้อหาของข้อสอบส่วนใหญ่จะอิงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีส่วนของโจทย์เพื่อวัดความเข้าใจจริยธรรมของแพทย์ทั่วไปอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้เวลาเลือกคำตอบ ไม่ควรเลือกคำตอบที่หลุดจากกรอบจริยธรรมหรือกฏหมายของแพทย์เด็ดขาด
ด้านทักษะการเชื่อมโยง ลักษณะข้อสอบมีความคล้ายคลึงกับการสอบ GAT เชื่อมโยง เพราะเป็นการทดสอบทักษะในการอ่านบทความและการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อความที่โจทย์กำหนดมาให้ แม้หลายคนจะมองว่า ข้อสอบในส่วนที่ง่ายที่สุด แต่อย่าประมาทเด็ดขาด พอเจอโจทย์ก็ควรอ่านให้ละเอียดก่อนตัดสินใจตอบคำถาม
ขอบคุณข้อมูล https://www.tueetor.com/