Internet of Behavior คืออะไร?
IInternet of Behavior (IoB) เทคโนโลยีใหม่ จาก (IoT)
เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินคำว่า Internet of Things (IoT) มาแล้ว และได้พบเห็น IoT ในชีวิตประจำวันอย่างระบบควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน และอื่น ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน และตอนนี้ก็เริ่มมีคำว่า Internet of Behavior (IoB) เข้ามาบ้างแล้ว สำหรับใครที่สงสัยว่า IoB คืออะไร เราจะมาอธิบายกันในบทความนี้Internet of Behavior หรือ IoB เป็นการรวบรวมและจัดการข้อมูลที่ถูกจัดเก็บโดย IoT และข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ (เช่น สื่อสังคมออนไลน์, ข้อมูลการเดินทาง, ข้อมูลจากการจดจำใบหน้า) และเปลี่ยนข้อมูลเหล่านั้นมาเป็นองค์ความรู้ของเหตุการณ์พฤติกรรม (เช่น การซื้อสินค้าและบริการ) จากการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทางด้าน data science/analytics เทคโนโลยีสมัยใหม่ และความรู้ทางด้าน behavioral science จนนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมใหม่ อาจกล่าวได้ว่า ขณะที่ IoT เป็นการเชื่อมโยงและส่งต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการ IoB จะเป็นการนำข้อมูลทั้งจากอุปกรณ์ IoT แพลตฟอร์มดิจิทัล สื่อสังคมออนไลน์ GPS และ/หรือข้อมูลที่ภาครัฐเปิดเผย มาประมวลผลเพื่อนำไปสู่การทำให้เกิดการตัดสินใจของผู้ใช้บริการที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ตัวอย่างเช่น smart watch ที่เป็นอุปกรณ์ IoT จะเก็บข้อมูลทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ จำนวนการก้าวเดินและรูปแบบการนอนหลับของผู้สวมใส่ ขณะที่ IoB จะประมวลผลข้อมูลเหล่านั้น ให้คำแนะนำผู้สวมใส่ถึงพฤติกรรมที่ควรทำเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นตามที่ผู้สวมใส่ตั้งเป้าหมายไว้
IoB นั้นถูกกล่าวถึงครั้งแรกเมื่อปี 2012 โดยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา Göte Nyman แต่เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อ Gartner บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาระดับโลก ได้กล่าวถึง IoB ในรายงาน Gartner’s Top Strategic Technology Trends for 2021 ว่าเป็นหนึ่งในเทรนด์เทคโนโลยีที่สำคัญในปี 2021 โดย Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2023 กว่า 40% ของประชากรโลกจะถูกดักจับพฤติกรรมจาก IoB และภายในปี 2025 ประชากรโลกมากกว่าครึ่งจะถูก IoB อย่างน้อย 1 โปรแกรมติดตามพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ดี IoB ยังเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังต้องมีการพัฒนาต่อไป ซึ่งการเติบโตของ IoT จะส่งผลให้ IoB นั้นเติบโตตามไปด้วย และในอนาคตอันใกล้ IoB จะกลายเป็น ecosystem ที่สามารถบ่งบอก อธิบาย และชี้นำพฤติกรรมของมนุษย์ในโลกดิจิทัล
IoB สามารถช่วยธุรกิจได้อย่างไรบ้าง?
จากรายงาน Gartner’s Top Strategic Technology Trends for 2021 ระบุว่า องค์ประกอบสำคัญในการวางแผนธุรกิจที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดจนพ้นช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 และเติบโตต่อไปในอนาคตได้ มีดังนี้
- resilient delivery: เทคโนโลยีที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลได้
- people centricity: เทคโนโลยีที่สนับสนุนให้คนเป็นศูนย์กลางของการวางแผนธุรกิจ
- location independence: เทคโนโลยีที่ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินกิจการได้จากที่ใดก็ได้ และ
โดย IoB เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ Gartner กล่าวว่าจะมีบทบาทสำคัญภายใต้องค์ประกอบด้าน people centricity จากการที่ผู้บริโภคมีความต้องการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้น IoB จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจความต้องการรวมไปถึงที่มาของความต้องการของผู้บริโภคได้องค์ความรู้ที่ธุรกิจจะได้จาก IoB จะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการตลาดและดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
-ขอบคุณข้อมูล https://www.marketplus.in.th/