ฟิสิกส์ ม.4 แรง ลักษณะและประเภทของแรง แผนภาพวัตถุอิสระ(Vectors and Free-Body Diagrams)
-เวกเตอร์และแผนภาพวัตถุอิสระ (Vectors and Free-Body Diagrams) เราได้กล่าวไปแล้วว่าปริมาณเวกเตอร์ต้องระบุทั้งขนาดและทิศทาง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราพูดถึงแรง
-เวกเตอร์และแผนภาพวัตถุอิสระ (Vectors and Free-Body Diagrams) เราได้กล่าวไปแล้วว่าปริมาณเวกเตอร์ต้องระบุทั้งขนาดและทิศทาง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราพูดถึงแรง
ปริมาณทางฟิสิกส์ สเกลาร์ เวกเตอร์ เวกเตอร์และสเกลาร์ การเคลื่อนที่เป็นสิ่งที่คนเราสนใจมาตั้งแต่สมัยโบราณ นิวตันเป็นคนแรกที่ศึกษาการเคลื่อนที่ของวัตถุอย่างเป็นระบบจนสามารถอธิบาย และทำนายการเคลื่อนที่ของวัตถุทุกอย่างในจักรวาลว่ามันจะเคลื่อนที่ไปอย่าง ไรก่อน ที่จะศึกษากฎของนิวตันเรามาเริ่มศึกษาการเคลื่อนที่อย่างง่ายที่สุดเสียก่อน คือการเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง ซึ่งต้องเข้าใจปริมาณทางฟิสิกส์ที่ใช้ในเรื่องการเคลื่อนที่นี้ 2 คำคือ
การเคลื่อนที่แบบฮาร์โมนิกอย่างง่าย การเคลื่อนที่แบบฮาร์โมนิกอย่างง่าย (Simple Harmonic Motion : SHM) คือ การเคลื่อนที่กลับไปมาซ้ำทางเดิมโดยผ่านตำแหน่งสมดุล และมีคาบของการเคลื่อนที่คงตัว เช่น การเคลื่อนที่ของวัตถุติดปลายสปริง การสั่นของสายเครื่องดนตรี การแกว่งของลูกตุ้มนาฬิกา เป็นต้น
การเคลื่อนที่แบบวงกลม เป็นการเคลื่อนที่โดยมีแรงกระทำเข้าสู่ศูนย์กลางของวง กลม และจะเกิดความเร่งเข้าสู่ศูนย์กลาง ความเร็วจะมีค่า ไม่คงที่ เพราะมีการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ โดยความ เร็ว ณ ตำแหน่งใดจะมีทิศสัมผัสกับวงกลม ณ ตำแหน่งนั้น
การเคลื่อนที่แบบโปรเจกไตล์(Motion of a Projectile) คือการเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นแนวโค้งในกรณีที่วัตถุเคลื่อนที่อย่างเสรีด้วยแรงโน้มถ่วงคงที่ เช่น วัตถุเคลื่อนที่ไปในอากาศภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลก ทางเดินของวัตถุจะเป็น
งานและพลังงาน งาน หมายถึง แรงที่กระทำต่อวัตถุแล้วทำให้วัตถุเคลื่อนที่ไปตามทิศทางของแนวแรง ถ้าเราออกแรงกระทำต่อวัตถุแล้ววัตถุไม่เคลื่อนที่ แสดงว่าไม่เกิดงาน
1.แรง ในชีวิตประจำวัน ทุกคนออกแรงกระทำต่อวัตถุต่างๆกัน เช่น ดันประตู หิ้วกระเป๋า ยกหนังสือ เข็นรถ เป็นต้น การออกแรงดังกล่าวจะ
ข้างขึ้น-ข้างแรม (The Moon’s Phases) คือ ปรากฎการณ์ที่ผู้สังเกตบนโลกมองเห็นด้านสว่างของดวงจันทร์เปลี่ยนแปลงรูปร่าง บางวันจะ
ไฟฟ้าและแม่เหล็ก (Electromagnets) (Electromagnets) หมายถึง อำนาจแม่เหล็กที่เกิดจากการที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านในวัตถุตัวนำหมายความว่าถ้าปล่อยให้ กระแสไฟฟ้าไหลในวัตถุตัวนำจะทำให้เกิด สนามแม่เหล็กรอบ ๆ ตัวนำนั้น
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เกิดจากการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic disturbance) โดยการทำให้สนามไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็กมีการเปลี่ยนแปลง