สรุปข้อควรปฏิบัติทั่วไปในการเก็บน้ำสรุปข้อควรปฏิบัติทั่วไปในการเก็บตัวอย่างน้ำ
ขวดที่ใช้เก็บตัวอย่างน้ำควรเป็นขวดพลาสติก (Polyethylene) เพราะขนส่งสะดวก ไม่ทำปฏิกิริยากับสารอื่นในน้ำ ข้อสำคัญต้องล้างให้สะอาดก่อนใช้ คือล้างด้วยกรดโครมิคแล้วตามด้วยน้ำประปาและน้ำกลั่นตามลำดับ และก่อนทำการเก็บให้ล้างด้วยน้ำตัวอย่างที่จะเก็บ 2-3 ครั้ง
เขียนฉลากติดที่ขวดตัวอย่างให้เรียบร้อย บอกชื่อผู้เก็บ เวลา สถานที่ วันที่เก็บ อุณหภูมิของน้ำ ชนิดของสารช่วยรักษา
ควรวัดอุณหภูมิความเป็น กรด-ด่าง (pH) ของก๊าซที่ละลายน้ำ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจนทันทีที่เก็บเพราะค่าเหล่านี้เปลี่ยนแปลงได้ง่าย
บางกรณีการเก็บตัวอย่างไว้มีผลต่อการวิเคราะห์มาก เช่น อิออนบางตัวจะสูญหายไปโดยการดูดซับ (Adsorption) หรือโดยการแลกเปลี่ยนของอิออน (Ion Exchange) กับผิวของภาชนะที่ทำด้วยแก้ว อิออน บวกเหล่านั้น ได้แก่ Al, Cd, Cr, Cu, Fe, Pb, Mn, Ag และ Zn จึงควรทำการเก็บแยกต่างหากโดยใช้ขวดที่สะอาด และทำให้เป็นกรดด้วยกรดเกลือเข้มข้น หรือกรดดินประสิวเข้มข้นจนค่าความเป็น กรด-ด่าง (pH) ต่ำกว่า 2 เพื่อลดการตกตะกอนและการดูดซับบนผิวภาชนะ
แอมโมเนียมไนโตรเจน (NH4-N) ในน้ำ ถ้าค่าความเป็น กรด-ด่าง (pH) สูงไปจะเปลี่ยนไปอยู่ในรูป แอมโมเนียไนโตเจน (NH3-N) ทำให้ค่าลดลง ฉะนั้นควรเก็บแยกขวดและปรับค่าความเป็น กรด-ด่าง (pH) ให้ต่ำลง
น้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม ให้เก็บตัวอย่างน้ำทิ้งจากทุก ๆ จุดที่ปล่อยน้ำออกมาหรือที่จุดรวมของน้ำทิ้ง
น้ำเสียจากอาคารบ้านเรือน ให้เก็บตัวอย่างจากท่อระบายน้ำโสโครก
น้ำทิ้งจากระบบกำจัดน้ำเสียให้เก็บจากจุดต่าง ๆ ตามขั้นตอน
น้ำประปาให้ไปทิ้งสักครู่ก่อนเก็บ
น้ำบ่อควรเก็บภายหลังจากบ่อนั้นถูกดูดน้ำขึ้นระยะหนึ่งแล้วควรจดอัตราเร็วของการดูดน้ำด้วย
แม่น้ำและลำธาร ควรเก็บน้ำจากผิวจนถึงก้นแม่น้ำตรงใจกลางแม่น้ำ แล้วนำมารวมกันเป็นตัวอย่างรวมแบบ Integrated ถ้าจะเก็บเป็นตัวอย่างแยก ให้เก็บจากใจกลางแม่น้ำ ที่จุดกึ่งกลางของความลึก จึงจะนับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด
น้ำในทะเลสาปมักจะมีการแปรผันในคุณภาพทั้งในแนวดิ่งและแนวนอน แต่ในสภาพทั่วไปแล้วจะไม่สนใจค่ารวมหรือค่าเฉลี่ยของสภาพเหล่านี้ สนใจแต่การเปลี่ยนแปลงในแต่ละจุดเท่านั้น ดังนั้นจึงควรใช้ตัวอย่างแยกมากกว่า
ขอบคุณแหล่งข้อมูล http://webdb.dmsc.moph.go.th