การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่น้ำเปล่ามีประโยชน์มากกว่าที่คิด ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
1.ช่วยลดน้ำหนัก
การดื่มน้ำเปล่าช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้สูงขึ้น ทำให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น การดื่มน้ำเปล่ายังช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้ทานอาหารได้น้อยลง ช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น
2.ช่วยเพิ่มเมตาบอลิซึม
การดื่มน้ำเปล่าในตอนเช้า ประมาณครึ่งลิตรจะช่วยเพิ่มระบบเมตาบอลิซึมในร่างกายได้มากถึง 24 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้ร่างกายสามารถขจัดไขมันได้เพิ่มขึ้น ทำให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นนั่นเอง
3.กระตุ้นสมอง
การดื่มน้ำเปล่าในตอนเช้าหลังจากตื่นนอน เป็นวิธีการปลุกร่างกายให้ตื่น ทำให้ระบบต่าง ๆ เริ่มทำงาน ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น การดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ จะทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น เพราะสมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 75 – 85 เปอร์เซ็นต์ การดื่มน้ำเปล่าจึงทำให้รู้สึกมีสมาธิมากขึ้น
4.ทำให้ทานอาหารได้น้อยลง
การดื่มน้ำเปล่าก่อนการทานอาหารประมาณ 30 นาที จะทำให้ทานอาหารได้น้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยลดความอยากทานขนมของหวาน การดื่มน้ำเปล่า จึงช่วยทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5.กระตุ้นระบบการขับถ่าย
สำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูก การดื่มน้ำเปล่าเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่ายให้เป็นปกติ ลองเพิ่มปริมาณการดื่มให้มากขึ้น จะทำให้ขับถ่ายได้คล่อง เพราะการดื่มน้ำเปล่าจะช่วยขับสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรงไม่ป่วยง่าย
6.ลดความเสี่ยงต่อโรคร้าย
การดื่มน้ำในปริมาณที่พอดี จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคร้าย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งลำไส้ และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
7.ทำให้หัวใจทำงานดีขึ้น
การดื่มน้ำเปล่าเพียงแค่ 5 แก้วใน 1 วัน ก็ช่วยทำให้การทำงานของหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอย่างน้อยควรดื่มน้ำให้ได้ 8 แก้วต่อวัน
8.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
การดื่มน้ำน้อยส่งผลเสียต่อผิวหนัง ทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื่น ดูแห้งกร้าน การดื่มน้ำเปล่าจะทำให้ผิวสดใส ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี
9.ประหยัดค่าเครื่องดื่ม
การดื่มน้ำเปล่านั้นมีประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายและมีราคาถูก เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ จึงช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้น
10.ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย
หากรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ให้ลองเพิ่มการดื่มน้ำให้มากขึ้น เพราะสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เกิดจากภาวะที่ร่างกายขาดน้ำ
สำหรับเรื่องน้ำในประเทศไทยบริเวณที่มีปัญหาเรื่องน้ำมีอยู่ไม่น้อยกว่า 1ใน 3ของเนื้อที่ทั้งหมดของประเทศ บริเวณนี้อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้กระจายอยู่ทั่วไปในบริเวณเงาฝน (Rain shadow) ถ้าพิจารณาน้ำฝนเฉลี่ยในประเทศทั่วไปมีไม่ต่ำกว่า 50นิ้ว ปริมาณฝนนี้มีพอที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องน้ำ แต่อย่างไรก็ตาม การพิจารณาถึงความแห้งแล้งในประเทศไทยอาจพิจารณาได้ดังนี้
1. การกระจายของฝน ส่วนใหญ่ฝนที่ตกในประเทศ มักจะตกอยู่ในช่วงระยะ 6-7เดือน หลังจากนั้นอาจกล่าวได้ว่าไม่มีฝนเลย จึงทำให้เกิดแห้งแล้งได้
2. ความสม่ำเสมอของฝน ส่วนมาก ฝนที่ตกในประเทศไทย มักจะไม่สม่ำเสมอบางทีอาจตกเป็นปริมาณมาก บางทีตกน้อย ขึ้นอยู่กับภาวะของอากาศ
-ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://www.sanook.com