Engagement ในทางการตลาดออนไลน์ จึงหมายถึงได้ว่า การที่คนออนไลน์ หรือคนที่ติดตามคุณอยู่บนโลกออนไลน์ “มีส่วนร่วม” กับแบรนด์ หรือร้านของคุณในช่องทาง Social Mediaต่างๆ
“มีส่วนร่วม” ที่โซอี้พูดถึงจะเกิดขึ้นเมื่อเกิดการ Like ,Comment ,Share บนSocial Media ดังนั้นก่อนที่เพจ หรือร้านของคุณจะมี Engagement ที่ดีก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างเช่น
- การทำContentให้แปลกใหม่ น่าสนใจ
- การTreatลูกค้าให้เค้าเกิด Brand Royaltyให้ได้ คุณก็จะได้ผู้ติดตามคุณภาพ ที่จะช่วยให้ในแต่ละโพสของ
5 ประเภทของการสร้าง Engagement การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น นักการตลาดจะใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายมาผสมผสานกัน เพื่อรักษาฐานลูกค้าและสร้าง Engagement ให้ลูกค้าเกิดปฏิสัมพันธ์และความรู้สึกเชิงบวกที่ดี (หรือที่นักการตลาดเรียกว่า Engagement Marketing) ข้อดีของการใช้กลยุทธ์ที่ผสมผสานกันนี้ จะสามารถช่วยให้แบรนด์ปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า และเกิดการตอบสนองในการบริโภคสินค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง Engagement สามารถแยกออกมาได้ 5 ประเภท ดังนี้
1. Active Engagement ตัวอย่างการสร้าง Poll บน Instagram Story วิธีนี้ นักการตลาดจะนำเสนอช่องทางที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายและสะดวก และใช้วิธีการกระตุ้นให้ลูกค้าอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์ ตัวอย่างเช่น แบรนด์ตั้งคำถามผ่าน เว็บเพจเพื่อขอความคิดเห็นจากลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เคยใช้ หรือสินค้าที่ลูกค้าอยากแนะนำบอกต่อให้เพื่อน วิธีนี้ลูกค้าจะมีการตอบคอมเมนต์เกี่ยวกับความเห็นส่วนตัวและการแท็กเพื่อนเพื่อร่วมเล่นเกมส์
2. Ethical Engagement ตัวอย่างแบรนด์ที่มีจริยธรรมหรือแบรนด์รักษ์โลก จากการสำรวจโพล Nielsen พบว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดในช่วงระหว่างปี 1980 ถึง 2000 (หรือที่เรียกว่า กลุ่ม Millennials หรือ Gen Me) ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีจริยธรรมหรือแบรนด์รักษ์โลก โดยการที่แบรนด์มุ่งเน้นความสำคัญของหลักจริยธรรม การผลิตสินค้ารีไซเคิล หรือการใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้ม ทำให้กลยุทธ์ Ethnical Engagement สร้างความรู้สึกประทับใจแก่ลูกค้าในกลุ่ม Gen Me เป็นอย่างมาก
3. Contextual Engagement วิธี Contextual Engagement คือการที่แบรนด์ได้ข้อมูลของลูกค้า โดยใช้ระบบเพื่อวิเคราะห์รายละเอียดเกี่ยวกับ พฤติกรรมและความชอบส่วนตัวของกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าชิ้นหนึ่งจากทางแบรนด์ ระบบจะจดจำเกี่ยวกับสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อ เมื่อมีโปรโมชั่น หรือสินค้าล็อตใหม่ออกมา แบรนด์อาจจะแนะนำสินค้าโดยการส่งการแจ้งเตือนไปให้ เพื่อแนะนำสินค้าใหม่ๆ
4. Convenient Engagement ปุ่ม dash button ของ amazon ที่สร้างความสะดวกให้ลูกค้า ที่มา amazon.com Convenient Engagement คือวิธีที่แบรนด์สร้างโอกาสให้ลูกค้า สามารถบริโภคสินค้าและบริการได้อย่างสะดวก โดยที่มุ่งเน้นวิธีการสร้างประสบการณ์ เช่น เว็บไซต์ Amazon สร้างปุ่ม dash button แบบกราฟฟิคขึ้น ลูกค้าแต่ละคนจะเห็นหน้าตาของปุ่มแตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อก่อนหน้านี้ เมื่อลูกค้าที่เห็นปุ่ม Dash Button ลูกค้าก็อาจจะกดสั่งซื้อสินค้าอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำไปซ้ำมา แต่ทาง Amazon จะทำการจัดส่งสินค้าให้ถึงบ้าน โดยใช้ข้อมูลที่ลูกค้าเคยกรอกเอาไว้ก่อนหน้านี้
5. Emotional Engagement การสร้างอารมณ์ให้อยู่เหนือเหตุผล มีผลเป็นอย่างมากต่อการทำการตลาด เนื่องจากการสร้างความรู้สึกให้ลูกค้ารู้ชอบต่อตัวแบรนด์ หรือสินค้า ทำให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ในเชิงบวก และรู้สึกเต็มใจซื้อ ยกตัวอย่างเช่น การที่แบรนด์นำรายได้ส่วนนึงไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือองค์กรยากไร้ การสร้าง Engagement ลักษณะแบบนี้ ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีที่ได้มีส่วนช่วยเหลือสังคม
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://stepstraining.co/