ในบางครั้งจุดเริ่มต้นของบางสิ่งบางอย่างอาจจะเริ่มต้นขึ้นได้ด้วยความประหลาดใจ เช่นดังตัวอย่างของ บริษัท Casio เป็นต้น ถ้าให้คุณเดาว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของ Casio คืออะไร
คุณอาจจะคิดว่าเป็นเครื่องคิดเลขหรือไม่ก็ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอิเลคทรอนิคส์ทั่วๆ ไป คุณคิดผิด!!! บริษัท Casio ก่อตั้งขึ้นโดย มิสเตอร์ Tadao Kashio ในปี ค.ศ. 1946 ซึ่งเข้าใจได้ว่าก่อตั้งขึ้นนั้นภายหลังประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศเข้าร่วม สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่ง ณ. ตอนนั้นสถานการณ์ทางการเงินในประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างย่ำแย่มาก เมื่อมิสเตอร์ Kashio เริ่มงานในบริษัทของเขา เขาเป็นเพียงวิศวกรประกอบซึ่งคาดหวังว่าอยากหาเวลาพักผ่อนยาวๆ สำหรับตัวเขาเอง
‘คิคุโอะ อิเบะ’ ผู้สร้างตำนาน G-SHOCK กับเรื่องราวตลอด 35 ปี ที่คุณรู้แล้วจะต้องช็อค
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ล้วนเกิดจากความผิดพลาดและล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน ต้องใช้ทั้งความทุ่มเท ความพยายาม และความอดทนมากมาย เพื่อไม่ให้ถอดใจล้มเลิกกลางคัน เพราะคิดว่าเป้าหมายเหล่านั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เรียกว่าต้องเค้นทั้งกำลังกายกำลังใจกันสุดขั้ว กว่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
สุดท้ายแม้จะประสบความสำเร็จ ก็ใช่ว่าเรื่องราวจะแฮปปี้เอนดิ้ง เพราะนั่นอาจจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นที่จะก้าวไปสู่ความท้าทายอื่นๆ ที่จะตามมาหลังความสำเร็จนั้น เพื่อเป็นบทพิสูจน์ใหม่ว่า คุณสตรองมากพอที่จะรักษาความสำเร็จที่สร้างขึ้นมาไว้ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนได้ตลอดไปหรือไม่
หนึ่งแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์เด่นชัดในเรื่องของความทนทาน และไม่ผิดหากจะกล่าวว่าเป็นผู้เข้ามาฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ กลายเป็นคนบัญญัติ New Normal ให้วงการนาฬิกาในยุคที่ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 3 ทศวรรษที่แล้ว อย่าง G–SHOCK ที่ไม่เพียงเป็นผลงานระดับ Master Piece ของค่ายคาสิโอเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมชิ้นเอกของแวดวงนาฬิกาโลกอีกด้วย
แต่การหาเวลาพักผ่อนสำหรับ เขานั้นไม่มีใครเหมือน เพราะ มิสเตอร์ Tadao Kashio ได้ใช้เวลาว่างในการพักผ่อนทำการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเขาเองขึ้นมา ชิ้นแรกเรียกว่า Yubiwa Pipe โดยมันถูกออกแบบมาเพื่อใช้เตือนเวลาบนนิ้วมือคน โดยมันถูกใช้เพื่อคอยคีบบุหรี่ เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่สามารถสูบบุหรี่จนถึงก้นกรองได้โดยไม่ต้องใช้มือคอยจับ บุหรี่อันเนื่องมาจากความร้อน ซึ่งทำให้คนงานสามารถที่จะสูบบุหรี่ได้โดยมือทั้งสองข้างยังคงทำงานได้อย่าง ต่อเนื่อง ไม่ต้องคอยมาจับบุหรี่ซึ่งถือว่าเป็นการลดเวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์มาก
คงจะเห็นได้แล้วว่า Mr. Kashio เป็นนักประดิษฐ์ผู้สร้างสรรค์ เขาจึงมักจะค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ของเขาเสมอ และแล้วที่งานแสดงสินค้าที่ เมือง Ginza ประเทศญี่ปุ่นในปี 1949 เขาก็คิดค้นเครื่องคิดเลขซึ่งมียอดขายตาม yubiwa pipe มาติดๆ ตัวเขาและพี่น้องต่างก็พากันทดลองเพื่อสร้างสรรค์เครื่องคิดเลขของพวกเขาเอง ขึ้นมา และอีกไม่นานนัก Casio ก็เปิดตัวเครื่องคิดเลขสายพันธุ์ใหม่ในปี 1954 ซึ่งเป็นเครื่องคิดเลขแบบแรกที่ใช้ ขดลวด solenoids และยังมีแป้นพิมพ์ของตัวเลข 10 หลัก และมีหน้าจอเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีถึงสามหน้าจอ และในปี 1957 Casio ก็ได้เปิดตัวเครื่องคิดเลขรุ่น Model 14-A ซึ่งเป็นเครื่องคิดเลขอิเลคโทรนิคสมบูรณ์แบบเครื่องแรกที่ใช้เทคโนโนยี relay และในปีเดียวกันนั้นเองยังเป็นปีที่บริษัท Casio Computer ได้รับการก่อตั้งขึ้น
บริษัทฯ เปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่นแรกในตลาดเดือนพฤศจิกายนปี 1974 ในขณะที่ตลาดเองในขณะนั้นเพิ่งจะค้นพบเทคโนโลยีดิจิตอลขึ้นซึ่งทางบริษัทเอง เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถพัฒนานาฬิกาที่จะเป็นผู้นำตลาดได้
นาฬิกาที่เป็นที่จดจำได้ มากที่สุดคงหนีไม่พ้นนาฬิกาเครื่องคิดเลขที่ทางบริษัทผลิตขึ้น ซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีทั้งการทำงานแบบนาฬิกาที่มาพร้อมกับแป้นพิมพ์ตัว เลขขนาดจิ๋วละม้ายคล้ายคลึงเครื่องคิดเลข ซึ่งเหมาะกับความต้องการอย่างมาก สำหรับอาจารย์ที่สอนคณิตศาสตร์ โดยที่จะสามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ทุกทีโดยไม่ต้องพกพาและสามารถที่จะช่วย เหลือนักเรียนที่ไม่ค่อยคล่องกับด้านตัวเลขอีกด้วย
นอกจากนาฬิกา เครื่องคิดเลขแล้วคาสิโอยังพัฒนานาฬิกาข้อมือไปอีกระดับด้วยการสร้างสรรค์ นาฬิกาข้อมือที่สามารถให้ข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการให้กับผู้เป็นเจ้าของ เช่น บอกเวลาที่แตกต่างกันของแต่ละ time zone บอกสภาพอากาศ อุณหภูมิ และความดัน นักปีนเขาก็มักจะชอบรุ่นที่สามารถบอกระดับความสูงได้ ในขณะที่ผู้ผลิตนาฬิการายอื่นยังคงนำเสนอรายละเอียดของนาฬิกาข้อมือในแบบ เดิมๆ คาสิโอก็ยังคงนำเสนอรูปแบบของนาฬิกาที่หลากหลายพร้อมการใช้งานที่น่าสนใจใน รูปแบบนาฬิกาข้อมือแบบดั้งเดิม
จากนาฬิกา G-SHOCK ต้นแบบสู่เรือนจริงที่จับต้องได้ (ปี 1981-1983)
นาฬิกา G-SHOCK เกิดขึ้นโดยวิศวกรหนุ่ม คิคุโอะ อิเบะ หลังจากเขาได้ทำนาฬิกาที่คุณพ่อซื้อให้หล่นตกพื้นจนได้รับความเสียหาย ตั้งแต่นั้นมา อิเบะก็เหมือนได้รับแรงบันดาลใจที่จะคิดค้นและผลิตนาฬิกาที่ทนต่อทุกสภาพ โดยมีปณิธานว่า นาฬิกา G-SHOCK จะต้องมีคุณสมบัติ “Triple 10” คือ รองรับการกันกระแทกจากที่สูงได้ถึง 10 เมตร กันน้ำในความดัน 10 Bar หรือที่ความลึก 100 เมตร และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ปี
บุกเบิกสหรัฐอเมริกา (ปี 1984-1990)
ในปี 1984 G-SHOCK ข้ามน้ำข้ามทะเลบุกแดนสหรัฐอเมริกาเพื่อหวังทำการตลาด โดยทางบริษัทได้นำเอานาฬิกา G-SHOCK รุ่น DW-5200C ใช้ตีแทนลูกพัคในเกมการแข่งขันกีฬาฮ็อกกี้เพื่อทดสอบถึงความแข็งแกร่ง ผลลัพธ์ที่ออกมาได้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชม เพราะมันแทบจะไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เวลายังคงเดินตามปกติ และมีการทดสอบอีกหลายครั้งผ่านทางรายการโทรทัศน์ด้วยการสร้างสถานการณ์จำลอง ผลลัพธ์ก็ยังเป็นเหมือนเช่นเคย จึงทำให้ G-SHOCK ถูกยกว่าเป็นนาฬิกาที่กันกระแทกได้ดีที่สุด
อีกทั้ง ขนาดไซส์ของตัวเรือนยังพอดีกับข้อมือของชาวอเมริกัน มันจึงได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะนักดับเพลิง ตำรวจ และอีกหลายหลากสาขาอาชีพ รวมถึงครองใจชาวสเก็ตบอร์ดด้วย
ตีตลาดบ้านเกิดของตัวเอง (ช่วงต้นปี 1990)
เรียกได้ว่าเป็นยุคขาขึ้นของแบรนด์ G-SHOCK เมื่อภาพสตรีทแฟชั่นจากอเมริกาเริ่มถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่คนญี่ปุ่นเริ่มหันมาสนใจแฟชั่น รวมไปถึงนาฬิกา G-SHOCK ด้วย ในตอนนั้น รุ่น DW-5900C มีจำหน่ายเฉพาะในต่างประเทศ แต่ก็มีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นอิมพอร์ทบางร้านในญี่ปุ่นนำเข้ามาขายบ้าง และมันก็ได้รับการตอบรับที่ดีในหมู่วัยรุ่นที่รักการแต่งตัว ความนิยมของ G-SHOCK ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะมันยังลามไปถึงเหล่านักดนตรี-ศิลปินที่มีชื่อเสียง และในภาพยนตร์แอคชั่นที่เราได้เห็นดาราดังใส่นาฬิกา G-SHOCK แสดง ขณะที่บทความในนิตยสารได้นำนาฬิกา G-SHOCK รุ่นก่อนหน้าแต่ละรุ่นมาทำเป็นภาพกราฟฟิกเล่าถึงความเป็นมาพร้อมรายละเอียด
กระแสความชื่นชอบของนาฬิกา G-SHOCK เติบโตแบบก้าวกระโดด ดูได้จากจำนวนยอดขายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นจาก 10,000 เรือน ในปี 1990 เพิ่มขึ้นเป็น 70,000 เรือนในปี 1995 ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในตัวโปรดักส์ และ G-SHOCK ได้กลายเป็นนาฬิกาดิจิตอลเรือนแรกของกลุ่มวัยรุ่นที่ทุกคนต้องมี
ขยายไลน์อัพ / เข้าถึงวงการกีฬาและกลุ่มคนรุ่นใหม่ (ช่วงกลางจนถึงปลายปี 1990)
คาสิโอ มีเป้าหมายที่จะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้สวมใส่ โดยในปี 1996 รุ่น MRG-1 ตัวแรกในตระกูล MRG ถูกนำออกมาวางขาย มีดีไซน์เหมาะกับผู้ชายที่โตขึ้นมาหน่อย ต่อมา รุ่น MRG-100 ก็ทยอยสู่ตลาดในปีเดียวกัน โดยมีคุณสมบัติตัวเรือนที่ทำมาจากเหล็กและป้องการการสั่นสะเทือน ตรงนี้เองที่ทำให้แบรนด์ G-Shock
หลังขึ้นสู่จุดสูงสุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัท คาสิโอ ก็ถึงคราวหนาวๆ ร้อนๆ เมื่อยอดขายนาฬิกา G-SHOCK ค่อยๆ ตกลง สาเหตุเป็นเพราะการร่วมงาน Collaboration ที่มากเกินไป และโฟกัสการสร้างสัญลักษณ์ในกลุ่มตลาดแฟชั่นจนละทิ้งความเป็นตัวตน ซึ่งนั่นก็คือ คุณสมบัติการสั่นสะเทือน เมื่อเป็นเช่นนั้น คาสิโอได้ตัดสินใจคืนสู่สามัญ โดยเน้นพัฒนาในด้านฟังก์ชั่น ประสิทธิภาพการทำงาน และใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับนาฬิกา อาทิ รุ่น GW-300 (2002) มีระบบที่ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุและใช้พลังงานแสงอาทิตย์ รุ่น GW-9200 (2008) ที่สามารถปรับตั้งเวลาอัตโนมัติโดยใช้คลื่นสัญญาณความถี่รับ-ส่งจากเสาสัญญาณซึ่งมีอยู่ 6 เสาทั่วโลก และ รุ่น GW-4000 (2012) ที่ทนทานต่อแรงที่ก่อให้เกิดความเสียหาย 3 ประเภท ได้แก่ แรงจากการตก การสั่นขั้นรุนแรง และแรงเหวี่ยงจากแรงโน้มถ่วงที่เกิดจากการหมุน
ขอบคุณข้อมูล https://www.gqthailand.com/