ความเป็นมาของ ‘กาแฟขี้ชะมด’ มีความผูกพันธ์กับการผลิตกาแฟในประเทศอินโดนีเซียมาอย่างยาวนาน ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 ชาวดัตช์เริ่มทำไร่กาแฟ ซึ่งประกอบด้วยหมู่เกาะอินเดีย , หมู่เกาะชวาและเกาะสุมาตรา โดยกาแฟที่นำมาปลูกเป็นครั้งแรกคือ อาราบิกาจากประเทศเยเมน สมัยกฎหมายยังบังคับปลูกพืชรัฐบาลดัชต์มีกฎข้อห้าม ในการเก็บผลกาแฟเพื่อบริโภคเอง แต่ทว่าถึงแม้กฎหมายจะมีข้อห้าม แต่ความต้องการในการที่จะลิ้มรสขมก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกวัน ต่อมาคนอินโดนีเซียจึงเรียนรู้ว่า ตัวอีเห็นข้างลายนั้นกินผลกาแฟ แต่กลับถ่ายเมล็ดออกมาทั้งก้อนแทบไม่ผ่านกระบวนการย่อยเลย พวกเขาจึงเก็บเมล็ดจากมูลของชะมด แล้วนำมาล้าง ตามด้วยคั่วแล้วบดเพื่อนำมาทำกาแฟร้อนๆกิน ในเรื่องความหอมของกาแฟชนิดนี้นั้น เริ่มกระจายไปไกลจนเจ้าของไร่ที่เป็นชาวดัชต์รู้ จนได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง กาแฟขี้ชะมดจึงมีราคาแพงแม้ในสมัยล่าอาณานิคมก็ตาม
กาแฟมันมาจากตัวชะมดได้ยังไง?
กาแฟ ชนิดนี้มาจากไร่บนเกาะสุมาตรา โดยเริ่มต้นจากชาวไร่กาแฟจะเลี้ยงชะมดพันธุ์พื้นเมืองนี้ไว้ในไร่กาแฟและ ปล่อยให้มันกินผลของกาแฟสุกที่อยู่ในไร่ เมื่อชะมดถ่ายมูลของมันออกมาก็จะมีเมล็ดกาแฟติดออกมาด้วย
ใครคิดเอาขี้ชะมดมากินเนี่ย?
กาแฟ ขี้ชะมดเนี่ย แต่เดิมเป็นกาแฟสายพันธุ์ โรบัสต้า ราคาถูก มีชาวอินโด ไปเดินป่า แล้วพบเห็นขี้ชะมด มีกาแฟที่ไม่ถูกย่อย ยังคงเป็นรูปเมล็ดอยู่ จึงเกิดความเสียดาย เอามาล้าง และลองคั่วชงทานดู ปรากฏว่าได้รสชาติและกลิ่นที่หอมหวน แปลกใหม่ เข้มข้น แบบที่โรบัสต้าเดิมให้ไม่ได้ [กาแฟโรบัสต้า ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้นของ Body แต่อ่อนหรื่อกลิ่นและรสชาติ] ต่อมาจึงเกิดการเพาะเลี้ยงชะมด ในไร่กาแฟเป็นล่ำเป็นสันขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าโรบัสต้า
ทำไมมันราคาแพงที่สุดในโลก?
คอ กาแฟหลายคนเล่าว่ามีราคาแพงและหายากที่สุดก็เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ซับ ซ้อนกว่าการปลูกกาแฟทั่วไป ชะมดเป็นสัตว์ที่กินยาก เลือกกินเฉพาะเมล็ดกาแฟที่สุกดีแล้วเท่านั้น ขณะที่ ผลกาแฟอยู่ในท้องของตัวชะมดนั้นเมล็ดจะผสมกับเอมไซม์และสารเคมีที่อยู่ใน กระบวนการย่อยของมัน ทำให้กาแฟชนิดนี้มีกลิ่นและลักษณะเฉพาะตัว ผู้เชี่ยวชาญกาแฟบางรายระบุว่ากาแฟที่เก็บจากมูลชะมดทำได้ยากกว่าเก็บจากต้นจึงทำให้กาแฟชนิดนี้มีราคาสูง
รสชาติ
การที่รสชาติจะมีความแตกต่าง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดและแหล่งกำเนิดของเมล็ดกาแฟ รวมทั้งปัจจัยกระบวนการผลิตหลังจากเก็บ , คั่ว , บ่ม , ต้ม รวมทั้งปัจจัยสุขภาพของตัวชะมด ทั้งสุขภาพทางกาย และสุขภาพทางจิต เช่น ระดับความเครียด สิ่งเหล่านี้ล้วนมีอิทธิพลต่อการผลิตและรสชาติ ในวงการกาแฟ กาแฟขี้ชะมดจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใช้เรียกร้องความสนใจจากผู้คน หรือสร้างความแปลกใหม่ มีบทความของสมาคมกาแฟพิเศษของอเมริกา หรือ Specialty Coffee Association of America กล่าวว่า มีมติออกมาร่วมกันในธุรกิจนี้ว่า ความจริงแล้ว กาแฟชนิดนี้มีรสชาติที่ไม่ดี โดยบทความนี้ กล่าวอ้างถึงผู้เชี่ยวชาญในรสชาติ มีการเปรียบเทียบระหว่างเมล็ดจากชะมดและเมล็ดธรรมดา
คนอินโดนีเซียเรียกว่า Kopi Luwak ในปัจจุบันนี้มีราคาซื้อขายสูงมาก เมื่อนำมาทำเป็นกาแฟต้มขายถ้วยละ 500-1,500 บาท สำหรับเมล็ดกิโลกรัมละ 100,000 บาท
ที่มา : http://variety.teenee.com/foodforbrain/33917.html และ https://www.caffeinedestiny.com/