การคิดแบบวิจารณญาณ จะเกิดขึ้นเมื่อมีการนำความคิดเห็นมาจัดเป็น ระบบโดยกำหนดมิติแล้วนำข้อมูล มาจัดเป็นกลุ่มตามมิติ แล้วนำมาหาความสัมพันธ์ระหว่างมิติด้วย ความคิดเห็นเหล่านั้นจะถูกจัดการ โดยยึดข้อเท็จจริงที่นำมาพิสูจน์และมีการพิจารณาร่วมกับบุคคลอื่นการพัฒนาลักษณะนิสัยของการจัดลำดับการคิดเป็นวิธีการทางอ้อมไม่ใช่ทางตรง โดยการจัดลำดับการคิดจะกระทำผ่านการจัดลำดับของกิจกรรมการสังเกตต้องมีการดำเนินการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของการกระทำโดยต้องกระทำอย่างถูกต้อง แล้วนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันมาจัดหมวดหมู่และแบ่งแยกออกเป็นกลุ่มเพื่อนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ การสรุปอ้างอิงต้องกระทำโดยทุกคน แล้วนำมาทดสอบเพื่อลงข้อสรุป เนื่องจากการฝึกการคิดเป็นวิธีการทางอ้อมด้วยเหตุผลนี้ปัญหาในการสร้างนิสัยในการคิดแบบวิจารณญาณจึงอยู่ที่
- การสร้างสถานการณ์ในการกระตุ้นและชี้นำให้เกิดความกระตือรือร้น
- การกำหนดความเกี่ยวพันของประสบการณ์เพื่อส่งเสริมการสร้างความคิดเห็น
- การสร้างสรรค์ปัญหาและจุดมุ่งหมายที่จะสนับสนุน ความต่อเนื่องและลำดับของการคิดในการสร้างความสำเร็จของการคิด
การจัดลำดับการคิด หมายถึง การนำความคิดเห็นมาจัดเป็นระบบ การจัดลำดับการคิด เป็นวิธีการทางอ้อม โดยการจัดลำดับการคิดจะกระทำผ่านการจัดลำดับของกิจกรรม
- การสร้างสถานการณ์ในการกระตุ้นและชี้นำให้เกิดความกระตือรือร้น
- การกำหนดความเกี่ยวพันของประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมการสร้างความคิดเห็น
- การสร้างสรรค์ปัญหาและจุดมุ่งหมายที่จะสนับสนุน ความต่อเนื่องและลำดับของการคิดในการสร้างความสำเร็จของการคิด
Basic Ordering Ideas – BOIs หรือการจัดลำดับความสำคัญของความคิด เป็นหัวใจสำคัญของการเขียน แผนที่ความคิด ผลงาน Mind Map ของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป อ่านเข้าใจง่าย สื่อสารได้ตรงตามความต้องการหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการจัดลำดับความสำคัญของความคิด (BOIs) ดังนั้นพื้นฐานในเรื่องลำดับความสำคัญ เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง
สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก็คือ การคิดเชิงกว้าง (The Whole) – การคิดเชิงลึก (The Parts) การคิดทั้งสองมิติ จะทำให้เรามอง เรื่องราวต่างๆ ได้ครบถ้วนไม่ตกหล่น หรือขาดๆ เกินๆ
การคิดเชิงกว้าง (The Whole) หมายถึง การคิดถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ ประเด็น Mind Map® ที่เรากำลังจะเขียน หรือที่เราเรียกว่า Subject of Mind Map เช่น เรากำลังระดมความคิดเรื่อง การมีสุขภาพดี (Healthy) สิ่งที่เราต้องคิดเชิงกว้าง จะเป็นเรื่องของสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนนี้ การออกกำลังกาย (Exercise) อาหาร (Food) อากาศ (Air) อารมณ์ (Emotion) อุจจาระ (การขัยถ่าย) เป็นต้น นั่นแสดงว่า คนที่คิดแบบนี้ กำลังมองเรื่อง
ของการมีสุขภาพดี จะต้องอาศัย องค์ประกอบ 5 อ นั่นเอง โดยเขายังไม่ได้ลงไปในรายละเอียด ว่า แต่ละเรื่อง มี การคิดเชิงลึกอะไรบ้าง พูดง่ายๆ
ก็คือ เขายังไม่ได้ ลงในรายละเอียดว่า ออกกำลังกาย (Exercise) ต้องอย่างไรบ้าง ต้องวิ่ง ต้องเต้นใส้เพลง ต้องว่ายน้ำ การวิ่งต้องกี่นาที แต่งกายอย่างไร ใช้รองเท้าแบบไหน ก็คือ เขายังไม่ได้คิดเชิงลึก (The Parts) และนี่คือ ตัวอย่างของการ จัดลำดับความคิด (BOIs)
กล่าวโดยสรุป BOIs ก็คือ 1) จะใช้คำว่าอะไร 2) คำไหนจะมาก่อนคำใน 3) คำไหนอยู่ระดับเดียวกัน เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจ เรื่องของคำ เรามาลองดูรายละเอียดกัน สมมติ เรากำหนดให้ Subject of Mind Map เป็น การมีสุขภาพดี คำต่อไป ก็คือ การออกกำลังกาย จากนั้น ก็แตกแขนงออกไปเป็น ประเภทกีฬา ความถี่ในการออกกำลังกาย ต่อจากประเภทกีฬา ก็แตกความคิดออกไปเป็น Aerobic Exercise และ Anaerobic Exercise จากนั้นแตกต่อออกไป เป็น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก ด้านซ์ เรียกว่าเชิงลึกแบบมีลำดับคำ และความคิด เพื่อให้ผู้สนใจ เห็นภาพก็ลองดูแผนที่ความคิดด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นการแสดง การคิดเชิงลึก การคิดเชิงกว้างประกอบกันไป ในเรื่องของการมีสุขภาพดี เพื่อให้ท่านมีประสบการณ์ตรง
ก็ลองทำตามไปด้วย หากระดาษเปล่า A4 มาลงเขียนดู แล้วท่านจะเข้าใจ BOIs คืออะไร ดู หรือ อ่าน เฉยๆ ไม่ทำให้ชำนาญและเข้าใจ ต้องลงมือทำไปด้วย ( I hear , I Know – I See, I Remember – When I Do, I Understand)
จากภาพเราได้เรียนรู้เรื่องของคำอะไร ที่เราจะใช้ (Word) ซึ่งต้องเป็นคำสั้นๆ ไม่ต้องยาว ต้องหาคำที่สั้นๆ และสื่อความหมาย ทุกคนเข้าใจตรงกัน บางครั้งอาจจะต้องเลือกที่จะใช้คำในภาษาอังกฤษ เพราะสั้นและเข้าใจง่าย อาจจะเป็น Exercise –> Sport Type –> Aerobic –> Running เป็นต้น
ผลงาน รางวัล ธุรกิจ และเรื่องอื่นๆ ที่แตกต่าง กันออกไปของแต่ละคน จะได้แผนภูมิความคิด ในระดับแรก หรือเรียกว่า การคิดเชิงกว้าง ดังภาพ
ประชาสรรณ์
- การทำงาน
- ผลงาน
- รางวัล
- วิสัยทศน์
- ธุรกิจ
- ความฝัน
- งานอดิเรก
- สังคม
- การศึกษา