อีคอมเมิร์ซจีน ผู้นำนวัตกรรมของโลก เรารวมนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นโดยชาวจีนและโด่งดังไปทั่วโลก จวบจนถึงทุกวันนี้ มีอะไรบ้าง
- baidu.com (ไป่ตู้) Search Engines อันดับหนึ่งของประเทศจีนและเป็นเว็บไซต์ติดอันดับคนใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก (ข้อมูลเดือน ส.ค.2562) โดยมีผู้เข้าชม 9.77 ล้านคน/เดือน ไป่ตู้มีดัชนีข้อมูลมากกว่า 740 ล้านเว็บเพจ 80 ล้านภาพ และ 10 ล้านไฟล์เพลงและภาพยนตร์ ได้รับการจัดอันดับจาก MIT Technology Review ให้เป็น 1 ใน 50 บริษัทผู้ผลิตและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีอิทธิพลของโลกอีกด้วย
- Taobao เว็บไซต์ขายปลีกที่ใหญ่ที่สุดในจีน หลังเปิดตัวปี 2546 โดยกลุ่ม Alibaba ก็สามารถแย่งตลาดจากเว็บไซต์ประมูลอันดับ 1 ของโลกอย่าง ebay.com มาได้ภายในเวลา 3 ปี เป้าหมายของเถาเป่าคือการเป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในประเทศจีนได้อย่างสมบูรณ์แบบ เน้นให้บริการฟรีในทุกฟังก์ชั่น และสร้างกำไรด้วยการเก็บค่าโฆษณาจากบริษัทใหญ่ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์สินค้าของตนเอง ปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 70% และมีสินค้าในเว็บไซต์มากถึง 800 ล้านชิ้น มีผู้สมัครเป็นสมาชิก 370 ล้านคน และเป็น 1 ใน 20 เว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมสูงที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังถือเป็นเว็บไซต์ที่บรรดาพ่อแม่ค้าออนไลน์ นิยมสั่งซื้อสินค้าจากจีนเพื่อมาจำหน่ายในเมืองไทย เนื่องจากเมื่อซื้อในปริมาณมากๆ ก็จะได้ในราคาที่ถูกลง แต่ยังคงคุณภาพดี คลิกอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์
- Tmall แหล่งรวมแบรนด์ดังอันดับต้นๆ ของประเทศจีน เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2551 โดยกลุ่ม Alibaba เช่นเดียวกัน ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 50% จากการสำรวจล่าสุดของ iResearch นโยบายหลักของ tmall.com มุ่งเน้นไปที่การกระจายสินค้าแบรนด์เนมให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค โดยไม่มีสินค้าเลียนแบบลิขสิทธิ์ ปัจจุบันมีร้านค้าชื่อดังเข้าร่วมมากกว่า 70,000 ร้านค้า ทั้งบริษัทต่างชาติและของจีน สินค้ามีหลากหลาย ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ของจุกจิก เสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าแบรนด์เนม ซึ่งถูกคัดเลือกมาจากบริษัทกว่า 50,000 แห่งทั่วประเทศจีน อาทิ UNIQLO, L’Oréal, adidas, P&G, Benefit, Unilever, Gap, Ray-Ban and Levi’s
- Alipay.com เป็นช่องทางการชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2547 โดยบริษัทอาลีบาบา การใช้งานง่าย สามารถชำระเงินผ่านธนาคารได้เกือบทุกธนาคารในจีน ทำให้กลายเป็นที่ยอมรับในผู้บริโภคชาวจีนและมีผู้สมัครใช้บริการมากกว่า 650 ล้านคนทั่วประเทศ ปัจจุบัน Alipay.com มีพาร์ตเนอร์เป็นสถาบันการเงินมากถึง 100 แห่ง โดยให้บริการผู้ขายถึง 460,000 ราย ครอบคลุมการซื้อขายสินค้าบนโลกออนไลน์ เกมออนไลน์ ตั๋วเครื่องบิน ค่าน้ำค่าไฟ ฯลฯ
- Wechat โปรแกรมแชทอันดับ 1 ของจีน ที่ครอบคลุมการใช้งานหลายมิติ ทั้งด้านธุรกรรมการเงิน E-Payment การส่งคลิปวีดีโอ การใช้ชำระค่าบริการต่างๆ ในปี 2018 สถิติของผู้ใช้งานหรือ User ของ WeChat ทั้งหมดอยู่ที่ 1,000 ล้านคน และมีผู้ใช้งานทุกวันอยู่ที่ 600 กว่าล้านคน การทำตลาดจีนผ่านทาง WeChat จึงมีโอกาสที่เราจะสามารถแชร์หรือกระจายเนื้อหาให้เข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรงและทั่วถึงที่สุด มือถือเครื่องเดียวก็ใช้งานได้ครบ การเงิน ธนาคาร การอัพโหลดดาวโหลดข้อมูล โซเชียล ฯลฯ
- Face Recognition นวัตกรรมสแกนใบหน้าเพื่อความปลอดภัยในการ Log in, จ่ายเงินออนไลน์ คิดค้นขึ้นโดย Megvi บริษัทจีน ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสแกนใบหน้าให้กับ Lenovo Group ปัจจุบันชาวจีนนิยมใช้ Facial Recognition ในการชำระเงินอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในเมืองหลักๆ เช่น ปักกิ่ง เซินเจิ้น เซี่ยงไฮ้ หางโจว ข้อดีอยู่ตรงที่มีความปลอดภัยสูง ปลอมแปลงยาก เนื่องจากใบหน้าของแต่ละคน มีองค์ประกอบที่แตกต่างกันอย่างจำเพาะ ซึ่งไม่สามารถทำการก๊อปปี้หรือลอกเลียนแบบกันได้
- นวัตกรรมหุ่นยนต์ AI อีกหนึ่งผลงานที่จีนได้สร้างสรรค์คือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ที่โด่งดังคือหุ่นยนต์ผู้ประกาศข่าว AI คู่แรกของโลก ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสำนักข่าวซินหัวและบริษัท com บริษัทเสิร์ชเอนจิ้นของจีน โดยหุ่นยนต์ผู้ประกาศข่าวถูกออกแบบเพื่อให้สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมง พูดได้ภาษาอังกฤษและภาษาจีน รายงานข่าวทั้งบนเว็บไซต์และช่องทางออนไลน์ของสำนักข่าว เพื่อมุ่งหวังในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอข่าวได้
ทำไมจีนเป็นผู้นำของโลกในด้านโลจิสติกส์ และการจัดส่งภายในวัน
1. จีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าประเทศอื่น ๆ
จีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาประชากรจีนกว่าหนึ่งในสามของประเทศหันมาใช้บริการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทางแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ ผลักดันให้ธุรกิจขนส่งเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่สวนทางกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในจีนที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อไป
2. เทคโนโลยีการสื่อสาร 5G
เทคโนโลยีการสื่อสาร 5G สนับสนุนให้กระบวนการสั่งซื้อและจัดส่งเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ร้านค้าปลีกออนไลน์เริ่มขายและจัดส่งถึงปลายทางเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น
3. การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์
จีนถือเป็นผู้นำระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อนที่สังคมไร้เงินสดจะแพร่หลายไปทั่วโลก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสะดวกสบายของการซื้อของผ่านสมาร์ทโฟนง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเป็นปัจจัยสนับสนุนการซื้อของออนไลน์จากจีน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของจีนเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายทั่วโลกง่ายขึ้น
4. ในจีนประมาณ 70% เป็นการจัดส่งวันเดียวถึง
การขนส่งพัสดุในจีนประมาณ 70% จัดส่งในวันเดียวกัน ตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่ชอบรอนาน หรือสั่งซื้ออาหารสดที่เน่าเสียได้ การ ขนส่งอาหารแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง รวดเร็วทันใจแสดงให้เห็นว่าโลจิสติกส์ในจีนมีมาตรฐานระดับโลก
5. มีแผนกลยุทธ์การจัดการโลจิสติกส์
เปรียบเทียบความสำเร็จของ Alibaba และ JD.com จะเห็นว่าแต่ละบริษัทวางแผนกลยุทธ์การจัดการโลจิสติกส์แตกต่างกัน ดังนี้
- ฝ่าย Alibaba เข้าลงทุนหุ้นของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชื่อว่า Cainiao ซึ่งมีความร่วมมือในด้านคลังสินค้า การกระจายและขนส่งสินค้าถึงที่หมาย เรียกว่าอาศัยโครงสร้างพื้นฐานและพนักงานของหุ้นส่วนธุรกิจเป็นหลัก
- ขณะที่ JD วางกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยลงทุนทำเองทั้งหมด มีคลังสินค้ามากกว่า 515 แห่งและเครือข่ายการขนส่งครอบคลุมทั่วประเทศ ยอดขนส่งพัสดุกว่า 90% จัดส่งในวันเดียวกันหรือวันถัดไป นอกจากนี้ยังลงทุนด้านนวัตกรรมในการจัดส่งใช้โดรนช่วยขนส่งพัสดุในพื้นที่ชนบทได้เร็วขึ้น รวมทั้งลงทุนหุ่นยนต์ขับเคลื่อนภาคพื้นดินขับเคลื่อนระบบอัตโนมัติสามารถจัดส่งพัสดุได้สูงสุด 30 ชิ้นต่อครั้ง จุดเด่นคือเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าช่วยให้ส่งพัสดุได้ถูกต้อง ง่ายดายและปลอดภัย
6. พัฒนาระบบการขนส่งในพื้นที่ชนบท
บริษัทโลจิสติกส์ในจีนเร่งพัฒนาระบบการขนส่งในพื้นที่ชนบทห่างไกล เป้าหมายคือส่งมอบพัสดุได้ในวันถัดไป รับออเอร์สั่งซื้อแล้วพร้อมส่งถึงมือผู้รับปลายทางใน 48 ชั่วโมง
7. ระบบจัดการแบบอัตโนมัติ
ระบบจัดการแบบอัตโนมัติลดต้นทุนการจ้างพนักงานและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น ทางบริษัทขนส่งในประเทศตะวันตกหันมาใช้แอปพลิเคชั่นและระบบเช็คสถานะทางอินเทอร์เน็ตให้ลูกค้าติดตามพัสดุได้ แต่บริษัทขนส่งในจีนยังคงโทรศัพท์หาลูกค้าเพื่อแจ้งนัดหมายส่งพัสดุล่วงหน้า แม้จะดูล้าสมัยขัดแย้งกับเทคโนโลยีชั้นสูงในระบบโลจิสติกส์ แต่จีนยังคงเน้นบริการที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ให้ความสำคัญกับการส่งมอบพัสดุครั้งแรกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ คาดว่าจะเริ่มใช้แอปพลิเคชั่นเช็คสถานะและการแจ้งเตือนล่วงหน้ามากขึ้นเพราะต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้นในอนาคต
ที่มาข้อมูล
- https://www.makesend.asia/
- https://www.facebook.com/MakesendTH/
- https://global.chinadaily.com.cn/a/202009/15/WS5f601ce9a3101ccd0bee0659.html
- https://technode.com/2020/08/21/insider-chinas-e-commerce-giants-are-about-to-overtake-us-logistics/
- https://www.makesend.asia/