กระทรวงสาธารณสุข (Department of Mental Healthม Ministry of Public Health.) เป็นหน่วยงานของรัฐ ที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรง ในการพัฒนางานสุขภาพจิตของประเทศ โดยมีภารกิจหลักเกี่ยวกับ การพัมฒนาวิชาการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีการส่งเสริม ป้องกันปัญหายาเสพติด บำบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมทั้งจัดให้มีบริการด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วย ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและประชาชน โดยมีสถาบันเฉพาะทางพัฒนาและถ่ายทอด วิชาการงานสุขภาพจิตและจิตเวช 7 แห่ง มีหน่วยงานโรงพยาบาลจิตเวชในการให้บริการสุขภาพจิตครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวน 10 แห่ง และมีศูนย์วิชาการในการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินด้านสุขภาพจิตชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบ ครอบคลุมการแบ่งเขต ของกระทรวงสาธารณสุข 12 เขต ของประเทศ
สถาบันเฉพาะทางพัฒนาและถ่ายทอดวิชาการงานสุขภาพจิตและจิตเวช 7 แห่ง ประกอบไปด้วย
1. สถานบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เป็นสถาบันเฉพาะทางนิติจิตเวชและสุขภาพจิตวิกฤต 2. สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เป็นสถาบันเฉพาะทางจิตเวชศาสตร์ และประสาทจิตเวชศาสตร์ 3. สถานบันราชานุกูล เป็นสถาบันเฉพาะทางด้านการบำบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยปัญญาอ่อน รวมทั้งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านพันธุศาสตร์การแพทย์ 4. โรงพยาบาลศรีธัญญา เป็นสถาบันเฉพาะด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางจิตเวช 5. โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ เป็นสถาบันเฉพาะทางออทิสติกและโรคจิตเวชเด็ก 6. สถานบันสุขาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ เป็นสถาบันเฉพาะทางการส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น 7. สถานบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ เป็นสถาบันเฉพาะทางการพัฒนาและส่งเสริมสุขภาพจิตเด็ก
สุขภาพกายและสุขภาพใจเป็นของคู่กัน แม้ว่าเราจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีแล้ว แต่หากสุขภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่ผ่องใส ก็จะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ การจะมีสุขภาพที่ดีโดยสมบูรณ์นั้น จึงจำเป็นต้องรู้จักวิธีดูแลสุขภาพจิตใจควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพร่างกายด้วย เราลองมาดูวิธีดูแลสุขภาพจิตกันดีกว่าค่ะ
1. ฟังเพลง
เพลงจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ลดการหลั่งของฮอร์โมนคอติซอล (cortisol) ซึ่งมีผลโดยตรงกับความเครียด ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่คุณชอบ บทเพลงบรรเลงขับกล่อมหรือเสียงดนตรีจากธรรมชาติ ต่างก็ช่วยให้คุณรู้สึกดี และลดความเครียดได้ทั้งนั้น
2. สัมผัสกับธรรมชาติ
การได้อยู่ใกล้กับธรรมชาติจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากความยุ่งเหยิงต่าง ๆ ในชีวิตได้ ในวันที่อากาศแจ่มใสลองนั่งทานอาหารเช้าที่ระเบียงห้องหรือชานบ้าน ชมสวนสวย ๆ ฟังเสียงนกร้อง หรือเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ที่กำลังจะผลิใบจากตุ่มเล็ก ๆ เป็นใบไม้สีเขียว ๆ เท่านี้ก็ทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจได้แล้วล่ะ
3. อย่าหัดเป็นคนช่างคิด
การเป็นคนฉลาดและรู้จักคิดตรึกตรองในสิ่งต่างๆเป็นเรื่องดี แต่ถ้าคิดมากเกินไป ไม่ว่าอะไรก็เก็บมาคิดหมกมุ่นไปหมดย่อมเกิดผลเสีย อันจะนำไปสู่ความเครียดเปล่าๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยนอกจากเกิดความทุกข์ และสุขภาพจิตเสียแก่เร็ว แต่ไม่ใช่ทำอะไรโดยไม่คิดเสียทีเดียว
4. รู้จักมองโลกในแง่ดี
อาจจะต้องประสบพบเจอกับสิ่งร้ายๆหรือมีความผิดหวังเข้ามาในชีวิต ก็ให้คิดเสียว่าเป็นธรรมดาของสัตว์โลก ช่างมันเถอะ เราไม่ทุกข์ใจก็พอ หัดมองในสิ่งดีของคนอื่นมากๆจะทำให้ชีวิตสดใส เงินไม่พอใช้ก็ลองมองว่า ดีเหมือนกันที่เราจะได้เรียนรู้รสชาติของความยากจน พยายามมองทุกสิ่งในโลกนี้ว่าเป็นเรื่องปกติเสียก็สิ้นเรื่อง
5. ฝึกบริหารจิตใจ ฝึกทำสมาธิ
เป็นการทำให้จิตใจเข้มแข็ง สามารถเข้าใจตนเองและปรับปรุงตนเองได้เสมอ เมื่อมีปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ จะสามารถพิจารณาได้อย่างมีเหตุมีผล ไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง
โรงพยาบาลจิตเวช โดยมีบทบาทภารกิจในการพัฒนาวิชาการ และถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี ตลอดจนบริการสุขภาพจิตและจิตเวชในระดับตติยภูมิในพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวน 10 แห่ง ได้แก่
1. โรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่
2. โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี
3. โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
4. โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น
5. โรงพยาบาลจิตเวชนคราชสีมาราชนครินทร์ จังหวัดนครราชสีมา
6. โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ ราชนครินทร์ จังหวัดนครสวรรค์
7. โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้ว ราชนครินทร์ จังหวัดสระแก้ว
8. โรงพยาบาลจิตเวชนครพนม ราชนครินทร์ จังหวัดนครพนม
9. โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ จังหวัดสงขลา
10. โรงพยาบาลจิตเวชเลย ราชนครินทร์ จังหวัด