หลักการอ่านคำกริยาปกติที่เติม -ed
การออกเสียง (Pronunciation)
Regular Verbs เมื่อต้องการทำเป็นรูปอดีตกาลด้วยการเติม ed จะออกเสียงแตกต่างกันได้ 3 เสียง คือ /t/ /d/ /id/
1. เมื่อคำกริยานั้นลงท้ายด้วยเสียงไม่ก้อง (Voiceless) f, k, p และ s จะออกเสียง ed เป็น /t/ “เทอะ” เช่น
cooked, kissed, watched, finished, stopped, laughed เป็นต้น
2. เมื่อคำกริยานั้นลงท้ายด้วยเสียงก้อง(Voice) b, g, v, m, n, r, l (เมื่อลองเอามือสัมผัสที่ต้นคอดูเสียงจะสั่น) จะออกเสียง ed เป็น /d/ “เดอะ” เช่น rubbed, arrived, opened เป็นต้น
3. เมื่อคำกริยานั้นลงท้ายด้วย t หรือ d ออกเสียง ed เป็น /id/ “อิด/ทิด” เช่น wanted, needed, visited เป็นต้น
หลักในการอ่านคำกริยาปกติที่เติม -ed มี 3 ข้อดังนี้
1. | ถ้ากริยาลงท้ายเสียงด้วย /t/ ถึ เมื่อเติม -ed ท้ายคำแล้ว ให้อ่านเป็น “ทิด” หรือ “เท็ด” | |||||||||
และถ้าคำกริยาลงท้ายด้วยเสียง /d/ ดึ เมื่อเติม -ed ท้ายคำแล้วให้ออกเสียงเป็น “ดิด” หรือ “เด็ด” เช่น | ||||||||||
wanted | ว้อนเท็ด | ต้องการ | ||||||||
deleted | ดีเลีทเท็ด | ลบล้าง | ||||||||
acted | แอ็คเท็ด | แสดง | ||||||||
needed | นีดเด็ด | ต้องการ | ||||||||
handed | แฮนเด็ด | ส่ง | ||||||||
faded | เฟดเด็ด | จาง,เลือนราง | ||||||||
2 | . คำกรึย่าที่ลงท้ายด้วยเสียง /f/, /k/,/p/,/s/,/sh/,/ch/ และ /x/ เมื่อเติม -ed แล้ว อ่านออกเสียงเป็น “ถึ” เช่น | |||||||||
laughed | ลาฟถึ | หัวเราะ | ||||||||
picked | พิคถึ | เก็บ | ||||||||
chopped | ช็อพถึ | ตัด,สับ,หั่น | ||||||||
decreased | ดีครีสถึ | ลดลง | ||||||||
crashed | แครชถึ | ชน,ปะทะ | ||||||||
hatched | แฮทชถึ | กก,ฟักไข่ | ||||||||
relaxed | รีแล็กซถึ | ผ่อนคลาย | ||||||||
3. | คำกริยาที่มีเสียงท้ายนอกเหนือจากข้อ 1 และ 2 เมื่อเติม -ed แล้วให้อ่านออกเสียงเป็น “ดึ” เช่น | |||||||||
bloomed | บลูมดึ | เบ่งบาน | ||||||||
stabbed | สแต็บดึ | แทง | ||||||||
stared | สแตร์ดึ | จ้องมอง | ||||||||
smiled | สไมล์ดึ | ยิ้ม | ||||||||
signed | ไซน์ดึ | เซ็นชื่อ |
วิธีการเปลี่ยนคำกริยาให้สื่อถึงอดีตกาลนั้นมี2รูปคือ
1. กริยาที่เปลี่ยนรูปเป็นอดีตกาลได้ด้วยวิธีเติม ed ต่อท้ายโดยตรง(regular verbs) โดยมีกฎเกณฑ์การใส่ ed ดังนี้
- คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e ก็เติมแค่ d ต่อท้าย
- คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y แต่หน้า y เป็นสระ ให้เติม ed ได้เลย
- คำกริยาที่ลงท้างด้วยy แต่หน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยนyเป็น i แล้วเติม ed เช่น carried (carry)
- คำกริยา1พยางค์ที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ และหน้าพยัญชนะเป็นสละ(a,e,i,o,u) ให้เพิ่มพยัญชนะท้ายอีก1ตัว แล้วเติม ed เช่น stopped, planned เป็นต้น ยกเว้น tax –> taxed, tow –> towed
- คำกริยา2พยางค์ที่เน้นเสียง(stress)พยางค์หลัง และพยัญชนะหน้าพยางค์หลังเป็นสละ(a,e,i,o,u) ให้เพิ่มพยัญชนะท้ายอีก1ตัว แล้วเติม ed เช่น refer –> referred, permit –> permitted เป็นต้น ยกเว้นคำกริยานั้นออกเสียงหนักที่พยางค์แรกให้เติม ed ได้เลย เช่น open –> opened, cover –> covered เป็นต้น
- คำกริยาที่ลงท้ายด้วย c ให้เติม ked เช่น panicked เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น
- love –> loved
- work –> worked
- worry –> worried
- cry –> cried
- play –> planned
2. คำกริยาที่เปลี่ยนรูปเป็นอดีตกาล ที่อยู่นอกเหนือกฎการเติมด้วยed (irregular verbs) ซึ่งมีรูปแบบที่แน่นอน (ดูเพิ่มเติม ในกริยา3ช่อง) ตัวอย่างเช่น
- sleep –> slept
- sit –> sat
- run –> ran