การทดลองดังกล่าว สอดคล้องกับผลการทดลองก่อนหน้า ที่ตีพิมพ์ในวารสาร New England Journal of Medicine เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า ผู้ป่วย 36 จาก 53 รายล้วนมีอาการดีขึ้นหลังได้รับยา และ 25 รายดีขึ้นจนสามารถกลับบ้านได้
Remdesvir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่บริษัท กิเลียด ไซอินส์ คิดค้นพัฒนาขึ้นนี้ แม้จะมีผลการทดลองเป็นที่น่าพึงพอใจ แต่ก็ยังมีข้อที่พึงระวังอีกมาก อีกทั้ง ยาตัวนี้ ก็ยังไม่ใช่วัคซีนที่จะมาจัดการกับไวรัสโควิด-19 ได้
ข้อเท็จจริง 10 ประการที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับยา Remdesivir ด้วยกันคือ
- ยังคงมีการทดสอบทางคลีนิกเกี่ยวกับประสิทธิผลของยาในผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งผลลัพธ์ของการทดลองทางคลีนิก คาดว่าจะมีให้เห็นมากขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า
- จนถึงขณะนี้ องค์กรมากกว่า 150 แห่งทั่วโลก รวมถึง องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน ต่างรวมตัวกันเรียกร้องกดดันให้บริษัทยาเจ้าของ Redemsivir อย่าง กิเลียด ไซอึนส์ เดินหน้าพัฒนายาด้วยการยกเลิก exclusive status หรือการพัฒนายาเพียงลำพัง
- ขณะนี้ ยา Remdesivir อยู่ในการควบคุมดูแลของ กิเลียด ไซอึนส์ แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งทำให้หลายฝ่ายวิตกว่า สถานะ Exclusive status หรือ Exclusive control นี้ จะทำให้เกิดการผูกขาดและเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงตัวยาในวงกว้าง
- อย่างไรก็ตาม บริษัทกิเลียด ไซอึนส์ ได้ให้คำมั่นว่า หากตัวยาได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจะผลิตและจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม รวมถึงดำเนินการทุกทางเพื่อให้แน่ใจว่า ตัวยาจะส่งตรงถึงผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับยาดังกล่าวมากที่สุด
- เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ทางองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้กำหนดให้ยา Remdesivir มีสถานะเป็นยากำพร้า (Orphan Drug)
- สำหรับสถานะของยากำพร้า คือ ยาที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพในการรักษา ป้องกัน หรือวินิจฉัยโรคที่พบได้น้อย และจำเป็นต้องได้รับสถานะยากำพร้า เนื่องจากอยู่ในระหว่างการพัฒนา และต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการวิจัยและผลิต
- การทดลองยา Remdesivir ของ กิเลียด ไซอึนส์ ได้เข้าสู่ระยะขั้นที่ 3 แล้ว ซึ่งเป็นขั้นชี้ชะตาตัดสินว่ายาดังกล่าวจะถูกนำไปใช้รักษาโควิด-19ต่อไป โดยขั้นนี้จะทำการสุ่มทดสอบในผู้ป่วยติดเชื้อหลายร้อยคนเพื่อดูประสิทธิภาพของยา โดยจากการประเมินในเบื้องต้น คาดการณ์ว่า ตัวยาจะประสบความสำเร็จในการรักษาอยู่ที่ราว 70-90%
- บรรดานักวิจัยต่างคาดหวังให้ ทาง FDA สหรัฐฯ ใช้ช่องทางเร่งด่วยในการอนุมัติ ยา Remdesivir ออกมาใช้ให้เร็วที่สุด ในกรณีที่ผลการทดลองประสบความสำเร็จด้วยดี โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งกลายเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่มากที่สุดในโลกแล้ว
- อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องประสิทธิผลของยาแล้ว ประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจอย่างมากก็คือราคาขายของตัวยา ในทันที่ยา Remdesivir สามารถผลิตออกมาได้ในเชิงพาณิชย์ โดยขณะนี้ กิเลียด ไซอึนส์ เป็นผู้ถือสิทธิบัตรยาดังกล่าวในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
- องค์การอนามัยโลก (WHO) เคยระบุเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า ยา Remdesivir มีแนวโน้มจะเป็นหนึ่งในตัวยาที่เหมาะสมในการจัดการโควิด-19 เนื่องจากมีคุณสมบัติในการจัดการกับไวรัสได้หลายสายพันธุ์ตามข้อมูลการศึกษาในคนและสัตว์ที่มีอยู่ ซึ่งแรกเริ่มนั้น ยา Remdesivir คิดค้นพัฒนาขึ้นเพื่อจัดการกับไวรัสอีโบลา และทดลองใช้กับผู้ป่วยในคองโลก
ที่มา News18 India , Elemental
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
ทรัมป์ เผยแผน 3 ระยะ เปิดเศรษฐกิจสหรัฐฯบางส่วน
และ https://businesstoday.co