พ.ศ. 2477 Mary Crowell และ คลิฟ แมคเคย์ Clive MacCay แห่งมหาวิทยาลัย คอร์เนลล์ มลรัฐนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สังเกตว่า กลุ่มหนูตัวอย่างที่มีการอดอาหารโดยให้เลี้ยงอาหารด้วยการควบคุมลดปริมาณแคลอรี่ในสารอาหารอย่างต่อเนื่อง ผลปรากฏว่าหนูที่ควบคุมลดปริมาณแคลอรั้นมีอายุยืนกว่าหนูที่กินตามปรกติเกือบ 2 เท่าตัว
ภาพที่ 1 กราฟแสดงหนูที่ไม่ควบคุมอาหาร (สีเขียว) มีอายุขัยสั้นกว่าหนูที่ควบคุมแคลอรี่ 65% เกือบ 2 เท่าตัว (สีแดง)
พ.ศ. 2529 Weindruch ได้รายงานการอดอาหารแบบควบคุมปริมาณแคลอรี่ในหนูนอกจากจะพบว่าสามารถเพิ่มอายุขัยตามสัดส่วนในการควบคุมอาหารของหนูแล้ว ยังพบว่าหนูที่อดอาหารแบบควบคุมปริมาณแคลอรี่ยังมีรูปลักษณ์ที่อ่อนวัยกว่าหนูที่กินตามปรกติอีกด้วย
พ.ศ. 2531 ภาควิชาสูตินารีเวชวิทยา ศูนย์การแพทย์แห่งโรงพยาบาล Mount Sinai มหานครชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้นำหนูทดลองมา 48 ตัว แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 24 ตัว กลุ่มแรกให้อดอาหารแบบวันเว้นวัน อีกกลุ่มหนึ่งให้กินอาหารทุกๆวัน จากนั้นได้มีการฉีดเซลล์มะเร็งเต้านมให้กับหนูทุกตัว เมื่อผ่านไป 10 วันพบว่า หนูที่อดอาหารตายไป 12 ตัว (คิดเป็นอัตราการรอดใน 10 วัน ร้อยละ 50) ในขณะที่หนูที่ไม่ได้อดอาหารตายไปถึง 21 ตัว (คิดเป็นอัตราการรอดใน 10 วัน เพียงร้อยละ 12.5)
แต่งานวิจัยที่หลายคนเฝ้ารอนั้นคือการทดลองในลิง เพราะถือว่าลิงมีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด และต้องติดตามผลระยะเวลายาวนานที่สุด นั่นก็คือการทดลองของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน มลรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ได้ทดลองในกลุ่มลิงวอก (Rhesus monkeys) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 โดยแบ่งเป็นลิงที่กินอาหารปกติ 9 ตัว และ อีก 11 ตัว ควบคุมและให้อดอาหาร โดยให้อาหารน้อยกว่าลิงอีกกลุ่มหนึ่ง 30% และการทดลองดังกล่าวได้ใช้เวลาติดตามผลนานถึง 23 ปี จึงได้ออกรายงานเมื่อ ปี พ.ศ. 2552 ว่าการอดอาหาร พบว่าลิงที่มีการอดอาหารมีอายุยืนกว่าลิงที่กินอาหารตามปกติ
ภาพที่ 2 ภาพ A กับ B (ด้านซ้ายบนและล่าง) คือสภาพตัวอย่างลิงที่อยู่ในห้องทดลองอายุ 27.6 ปี ซึ่งเป็นอายุขัยเฉลี่ยของลิง กับ ภาพ C และ D คือตัวอย่างสภาพลิงในวัยเดียวกันแต่มีการอดอาหารร้อยละ 30
ในการอดอาหารมีศัพท์ที่ใช้กันอยู่ 2 คำ คือ การอดอาหารแบบการควบคุมปริมาณแคลอรี่ (Calorie restriction) กับอีกคำหนึ่งทีเรียกว่า การอดอาหารแบบไม่มีการย่อยอาหารเป็นช่วงเวลา (Intermittent Fasting) ซึ่งมีงานวิจัยที่น่าสนใจหลายชิ้นที่คิดว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีคุณค่าเหล่านี้
ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆจาก https://mgronline.com/daily/detail/9560000044602