รวมสมุนไพรที่ช่วยในการดูแลปอด ฟอกปอด ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจาก PM2.5 ก็ได้นะ มีดังนี้
1. หญ้าดอกขาว
ปัจจุบันหญ้าดอกขาวใช้เป็นยาแก้อาการติดบุหรี่ เพราะกินแล้วจะทำให้เหม็นบุหรี่ จนไม่อยากสูบบุหรี่อีก โรงพยาบาลหลายแห่งจึงนำหญ้าดอกขาวมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกเหนือจากจะทำให้เลิกบุหรี่ได้แล้ว ยังช่วยทำให้สมรรถภาพทางกายดีขึ้นอีกด้วย โดยเลือดจะมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น ทำให้มีปริมาณของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่คั่งค้างในปอดลดลงอย่างชัดเจน
เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้ปลอดภัยสูง มีสรรพคุณมากมาย กินง่าย มีรสชาติดี จึงได้มีการพัฒนาเป็นยาในรูปแบบชง แบบแคปซูล แบบลูกอมเม็ดแข็ง แบบลูกกวาดนุ่ม แบบหมากฝรั่ง แบบแผ่นฟิล์มละลายเร็ว และแบบผลิตภัณฑ์กาแฟผสมหญ้าดอกขาว ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย นำไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น
ในปัจจุบันชาหญ้าดอกขาว ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2555 ในส่วนยาพัฒนาจากสมุนไพร สำหรับลดความอยากบุหรี่ในรูปแบบชง และแม้สมุนไพรชนิดนี้จะมีประโยชน์อยู่มากก็ตาม แต่ก็มีข้อเสียอยู่ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ เมื่อกินยาชนิดแล้วจะทำให้ปากแห้ง คอแห้ง ทำให้ไม่อยากอาหาร ด้วยเหตุนี้หญ้าดอกขาวจึงอาจมีประโยชน์ในการนำไปใช้ เพื่อควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย (ควรระวังในการใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคไต เนื่องจากมีโพแทสเซียมสูง)
2. ขมิ้นชัน
ขมิ้นชัน สรรพคุณโดดเด่นในเรื่องช่วยลดการอักเสบ ผลการศึกษาพบว่า ขมิ้นชันมีผลในการปกป้องระบบหัวใจ หลอดเลือด และปอด นอกจากนี้มีการศึกษาพบว่า การรับประทานขมิ้นตามเวลาที่อวัยวะต่าง ๆ กำลังทำงาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของขมิ้นให้มากขึ้น เช่น กินขมิ้นชันในช่วงเวลา 03.00-05.00 น. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาของปอด จะช่วยบำรุงให้ปอดแข็งแรง ช่วยป้องกันการเป็นมะเร็งปากมดลูก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวหนัง และช่วยเรื่องภูมิแพ้ หายใจไม่สะดวก
ทั้งนี้ การหาซื้อขมิ้นมารับประทานเอง ไม่ว่าจะเป็นแบบผงหรือแบบแคปซูล ควรจะซื้อจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน มีความสะอาด ปลอดสารเคมี ไม่มีสารสเตียรอยด์ปลอมปน และในกระบวนการผลิตนั้น ต้องไม่ผ่านความร้อนเกิน 65 องศาเซลเซียส เพื่อคงคุณภาพของขมิ้น
3. รางจืด
รางจืด คือ “ราชาแห่งการถอนพิษ” เป็นสมุนไพรที่กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ให้เกษตรกรหรือบุคคลทั่วไป เลือกใช้เพื่อแก้พิษต่าง ๆ เช่น พิษจากยาฆ่าแมลง ยาเบื่อ สารตะกั่ว ฯลฯ ดังนั้นรางจืดจึงถือเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูงมากชนิดหนึ่ง ซึ่งเราสามารถกินยอดอ่อน ดอกอ่อนเป็นผักได้ โดยจะใช้ลวกกิน แกงกิน ก็ทำได้เหมือนกับผักพื้นบ้านทั่วไป นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมกินน้ำหวานจากดอกรางจืดอีกด้วย
แม้ว่ารางจืดจะสามารถช่วยล้างสารพิษได้จริง แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อมูลในการวิจัยหรือเอกสารใดที่บ่งชี้ได้ว่า หากเราใช้ไปนาน ๆ ติดต่อกัน หรือใช้ในปริมาณที่มากเกินไปจะเกิดผลอย่างไรบ้าง ซึ่งจุดนี้นักวิชาการทางด้านนี้จึงไม่แนะนำที่จะให้รับประทานอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นคุณควรใช้เป็นครั้งคราวในยามที่จำเป็น หรือเมื่อต้องการที่จะรักษาโรค เมื่อได้ผลหรือหายดีแล้วก็ควรจะหยุดใช้ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่เรายังไม่รู้และอาจจะเกิดขึ้นได้
4. มะขามป้อม
หมอยาพื้นบ้านเชื่อว่ามะขามป้อม เป็นยาละลายเสมหะและบำรุงเสียงได้ดีที่สุด ในด้านอายุรเวทใช้แก้ไอ แก้หอบ รักษาหลอดลมอักเสบ จากงานวิจัยพบว่าการกินมะขามป้อม ช่วยลดผลกระทบจากก๊าซพิษซัลเฟอร์ไดออกไซด์ อันเป็นแหล่งกำเนิดของ PM2.5
มะขามป้อมมีรสเปรี้ยว รสฝาด อาจจะรับประทานยากสักหน่อยสำหรับบางคน การรับประทานมะขามป้อมนั้น ควรปรุงรสด้วยการนำมะขามป้อมมาผ่าเอาเมล็ดออก ให้เหลือแต่เนื้อแล้วนำมาใส่ พริก เกลือ น้ำตาล และตำให้พอแหลก ทั้งนี้ ควรรับประทานก่อนนอน หรือช่วงตื่นนอนใหม่ ๆ หรือขณะที่ท้องว่าง สำหรับวิธีลดความฝาดของมะขามป้อมนั้น ทำได้โดยการล้างให้สะอาดและลวกด้วยน้ำร้อน แล้วนำไปแช่ในน้ำเกลือที่เค็มจัด ทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน รสฝาดก็จะหายไป
5. ฟ้าทะลายโจร
ฟ้าทะลายโจร โดดเด่นเรื่องการเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะในระบบทางเดินหายใจ ในทางคลินิกใช้ป้องกันและรักษาหวัด ไซนัสอักเสบชนิดไม่รุนแรง หลอดลมอักเสบ คออักเสบ และทอนซิลอักเสบ สรรพคุณของฟ้าทะลายโจรหลัก ๆ คือช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย รวมไปถึงช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ให้จับกินเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ปัจจุบันได้มีการนำสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาผลิตเป็นแคปซูล จึงทำให้หาซื้อมารับประทานได้ง่าย และสะดวกในการรับประทานมากยิ่งขึ้น ไม่ควรรับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรติดต่อกันนานเกินกว่า 1 สัปดาห์ เพราะอาจจะส่งผลทำให้ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงได้ ผู้ที่ไม่ควรใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ได้แก่ สตรีมีครรภ์ และผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำ เป็นต้น
สำหรับอาหารบำรุงปอด ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน สู้โรคร้าย ต้านมลภาวะ กินระจำดีกับร่างกายแน่นอน..
สุขภาพปอดถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม เป็นเหมือนเพลาล้อรถยนต์หากขาดสิ่งนี้ไปรถยนต์ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ซึ่งหากคุณมีปัญหาเรื่องภาวะการขาดออกซิเจนในร่างกายจะส่งผลให้เกิดโรคทางเดินหายใจต่างๆได้ เช่น ปอดบวม, โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหืด เป็นต้น โรคเหล่านี้ส่งผลเสียต่อปอดโดยตรงทำให้การติดขัดในการหายใจ ทางเลือกที่ง่ายที่สุดในการบำรุงสุขภาพปอดให้แข็งแรง คือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์กับปอดโดยตรง ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอซึ่งถือเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ต่อไปนี้เรามาดูกันว่าอาหาร 9 ชนิด สำคัญในการบำรุงปอดมีอะไรกันบ้าง
1. แอปเปิ้ล
งานวิจัยเผยว่า แอปเปิ้ลอุดมไปด้วยวิตามินซี อี เบตาแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรง นอกจากนั้นยังมีสารต้านเซลล์มะเร็งหลายชนิด รวมไปถึงมะเร็งปอดอีกด้วย
2. แซลมอน
โอเมก้า 3 ที่อยู่ในแซลมอนนั้นมีคุณสมบัติช่วยต้านปอดอักเสบ บำรุงปอดให้แข็งแรง เสริมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ชาเขียว
ชาเขียวร้อนๆ ที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระดื่มแล้วช่วยให้คุณผ่อนคลาย ต้านการอักเสบ แถมยังช่วยให้ระบบหายใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น
4. ขิง
สมุนไพรไทยที่ดีต่อระบบทางเดินหายใจ ช่วยล้างพิษในปอด ทำให้คุณหายใจได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังโดดเด่นเรื่องต้านอาการอักเสบภายในร่างกาย และเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงในโรคมะเร็ง
5. แครอต
ผักสีส้มอาหารโปรดของเจ้ากระต่ายนั้นเต็มไปด้วยเบตาแคโรทีนและวิตามิเอที่ช่วยขับพิษออกจากร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านมะเร็ง นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันอาการหอบหืดและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเสริมการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
6. บร็อคโคลี
บร็อคโคลีมีวิตามินซี บี แคโรทีนอยด์ โฟเลต และไฟโตเคมิคอลที่ช่วยปกป้องปอดของคุณจากมลภาวะทางอากาศต่างๆ ทั้งฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ช่วยบำรุงให้ปอดแข็งแรง
7. เบอร์รี
เบอร์รี่ อาทิ อาซาอิ และบลูเบอร์รี อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงปอดของคุณให้แข็งแรง แถมยังรสชาติดีเป็นที่ถูกใจของใครหลายๆ คน
8. กระเทียม
การศึกษาพบว่า ผู้รับประทานกระเทียมดิบมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งปอดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กินยิ่งไปกว่านั้นผู้สูบบุหรี่ที่กินกระเทียมดิบมีความเสี่ยงมะเร็งปอดลดลง 40% ด้วยฟลาโวนอยด์ที่กระตุ้นการผลิตกลูตาไธโอนซึ่งช่วยเพิ่มการขจัดสารพิษและสารก่อมะเร็งช่วยให้ปอดของคุณทำงานได้ดีขึ้น เป็นสมุนไพรไทยที่มีคุณค่าจริงๆ
9. น้ำเปล่า
แก้กระหายได้ บำรุงปอดเลิศด้วย “น้ำเปล่า” เครื่องดื่มที่หลายคนมองข้าม และเห็นประโยชน์แค่ในชั่วโมงที่หิวกระหาย แต่รู้ไหมว่าน้ำดื่มนี่ล่ะที่ช่วยบำรุงปอดของเราให้มีสุขภาพดีสุดๆ เพราะช่วยทำให้ปอดชุ่มชื้น และไม่ทำให้ปอดแห้ง เพราะหากปอดแห้งเมื่อไรจะเกิดอาการระคายเคืองในปอด อีกทั้งจะดียิ่งขึ้นหากได้ดื่มน้ำแร่ซึ่งมีแร่ธาตุช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ดังนั้นควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว/วัน เป็นการบำรุงปอดได้อีกทาง
10.กาแฟ
จิบกาแฟ เพราะแคร์ปอดสายแฟและสายคาเฟ่คงถูกใจสิ่งนี้แล้วล่ะคะ เพราะการดื่มกาแฟนอกจากจะช่วยเพิ่มการตื่นตัวของสมองและให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าในวันทำงาน ยังมีการศึกษากันว่าคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟอาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหืดได้ด้วย เพราะโรคหืดเป็นโรคที่หลอดลมมีการตีบแคบ เป็นผลจากสภาพอากาศ สารก่อภูมิแพ้ ฯลฯ ซึ่งคาเฟอีนมีส่วนช่วยขยายหลอดลมและเปิดทางเดินหายใจได้อีกทางหนึ่ง
11.ลูกเดือย
ดาวเด่นธัญพืชพลังงานสูงในค่ำคืนที่อากาศหนาวพอตื่นเช้าขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าเสมหะเยอะและเหนียว เจ็บคอ หายใจไม่เต็มปอด สันนิษฐานได้ว่าคุณมีอาการปอดชื้นค่ะ เพราะเมื่ออากาศเย็นลงทำให้ความชื้นในอากาศสูง ไวรัสและแบคทีเรียในอากาศก็แพร่กระจายได้ง่าย ต้องดื่มน้ำอุ่นเพื่อให้ร่างกายปรับอุณหภูมิ และกินอาหารที่ให้พลังงานสูง โดยเฉพาะลูกเดือยซึ่งมีส่วนช่วยขับความชื้นได้ รู้ไหมว่าลูกเดือยต้ม 100 กรัม ให้พลังงาน 378 กิโลแคลอรีเลยนะ และไม่ใช่แค่บำรุงปอด ยังลดคอเลสเตอรอลได้ด้วย
12.วอลนัท
อร่อยทุกนัด ครบครันเรื่องสุขภาพ ใครจะคิดว่าเมล็ดกลมๆ เล็กๆ สีน้ำตาล เมนูโปรดเจ้ากระรอกน้อย จะช่วยบำรุงปอดน้อยๆ แต่เป็นฟันเฟืองชิ้นใหญ่ของร่างกายเราได้ เพราะในวอลนัทอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 สารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมัน ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ที่สำคัญคือมีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ของ “อเมริกันคอลเลจ อ็อฟ นิวทรีชั่น” พบว่า การกินถั่ววอลนัทเป็นประจำช่วยลดอาการหอบหืด และอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปอดได้
13.สาลี่
ผลไม้ฉ่ำน้ำ หวานกรอบ ดีต่อสุขภาพ หากคุณมีอาการร้อนใน แน่นหน้าอก ไอ เจ็บคอ ตัวร้อนระอุ ในทางแพทย์แผนจีนสันนิษฐานว่าคุณอาจมีอาการปอดร้อน นอกจากการดูแลตามวิถีแพทยท์แผนจีนแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ช่วยกระตุ้นสุขภาพคือศาสตร์การกิน กล่าวกันว่าให้นำผลไม้สาลี่ ซึ่งหาง่ายในฤดูฝน นำไปตุ๋นหรือนึ่งให้สุกพร้อมกิน จะช่วยแก้อาการไอแห้ง ละลายเสมหะ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ปอดได้ อีกทั้งกลิ่นหอมหวานชวนกินของสาลียังจิตใจสดชื่นขึ้นได้ด้วยนะ
14.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
อาณาจักรตระกูลเบอร์รี ดีต่อปอด เปิดอาณาจักรยกมาหมดทั้งตระกูลเบอร์รีเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สตรอว์เบอร์รี แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี มัลเบอร์รี และอีกหลากหลายตระกูลเบอร์รี ผลไม้ฤดูหนาวที่ให้รสชาติอมหวานอมเปรี้ยว กินเมื่อไรเป็นต้องเลี้ยวกลับมากินอีกครั้ง ซึ่งไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย แต่ยังให้คุณประโยชน์มากมาย หนึ่งในนั้นคือช่วยบำรุงปอด ขจัดเสมหะ ทำความสะอาดระบบเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยจัดการกับมะเร็งปอด เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
สรุป
นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของยุคนี้ที่ช่วยให้ปอดได้รับสิ่งดีดีเข้าไปนั่นก็คือ “เครื่องฟอกอากาศ” ซักเครื่องก็จะช่วยให้ปอดแข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง
อ้างอิง: https://medthai.com , https://www.dmh.go.th , https://tna.mcot.net และ https://tonkit360.com/