ข่าวดีสำหรับผู้ใช้แท็บเล็ตก็คือ มันไม่ต้องการดูแลเท่ากับคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีรอบการดูแลบำรุงรักษาให้มันมีประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็ว และแข็งแรงอยู่เสมอ เนื่องจากแท็บเล็ตใช้หน่วยความจำแฟลช ในขณะที่โน้ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ใช้ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งต้องมีการจัดระเบียบข้อมูลอยู่เป็นประจำ หากไม่ดูแลจัดการเรื่องนี้ เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ระบบการทำงานจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการบนแท็บเล็ตส่วนใหญ่จะจัดการล้างไฟล์ชั่วคราวออกจากสตอเรจเองโดยอัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้เองยังไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ
ลบแอพพลิเคชันที่ไม่ใช้ออกไป: แม้แอพพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเร็วในการทำงานของแท็บเล็ตโดยตรง แต่พวกมันทำให้พื้นที่ของสตอเรจลดลง ดังนั้นหากคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip พบว่า แอพฯ บางตัวบนแท็บเล็ตไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้อีกต่อไปแล้ว แนะนำให้ถอดถอนการติดตั้ง (uninstall) ออกไปจากเครื่องซะจะดีกว่าครับ
ทำความสะอาดเครื่อง: หน้าจอสัมผัสที่เป็นกระจกแก้วสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายด้วยผ้าเช็ดไมโครไฟเบอร์ และน้ำยาเข็ดหน้าจอ LCD นอกจากนี้ คุณต้องไม่ลืมส่วนทีมักจะถูกละเลยในการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำอย่างเช่น พอร์ตเชื่อมต่อ ด็อคกิ้ง และช่องเสียบหูฟัง การใช้แปรงทำความสะอาดที่พ่นลมออกมาได้จะเป็นแบบสเปรย์ หรือลูกยางที่ใช้บีบก็ได้ ด้วยวิธีนี้มันจะช่วยเป่าสิ่งสกปรก หรือเศษฝุ่นชิ้นเล็กๆ ที่ติดอยู่ในพอร์ตให้หลุดออกมาได้ นอกจากนี้ คุณอาจจะใช้เทปใสในการกำจัดคราบ หรือสิ่งสกปรกที่อยู่รอบๆ ปุ่มต่างๆ ของแท็บเล็ตได้อีกด้วย
อย่าปล่อยให้แบตฯ หมดโดยไม่ถูกชาร์จนานเกินไป: แบตเตอรี่ทีใช้ในแท็บเล็ตส่วนใหญ่จะเสื่อมประสิทธิภาพได้หากปล่อยให้มันมีระดับของประจุไฟฟ้าทีอยู่ภายในต่ำเกินไป หากคุณมีโอกาสที่จะไม่ได้ใช้แท็บเล็ตเป็นเวลานาน ควรจะแน่ใจว่า มันมีแบตฯ อยู่อย่างน้อย 50% ตอนที่ปิดเครื่อง (turn off ไม่ใช่ standby นะครับ)
สำหรับแท็บเล็ต Android ควรจะต้อง…… ระวังเรื่องเกี่ยวกับการติด”มัลแวร์” และ “ไวรัส” ให้มากๆ ดังนั้น ผู้ใช้แท็บเล็ตแอนดรอยด์ควรจะติดตั้ง และรันแอพพลิเคชันสแกนไวรัสไว้ในเครื่องด้วย ตัวเลือกสำหรับคนชอบของฟรีที่นิยมใช้กันพอสมควรก็จะมี AVG Antivirus Free for Android ดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store…
-ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://www.techhub.in.th/