1.มีหนังสือภาษาอังกฤษติดมือ และอ่านทุกวัน และ หาความหมายของคำใหม่เสมอ
อาจฟังดูง่าย ชัดเจน เป็นคำแนะนำที่คุณคงได้ยินมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่นั้นเป็นเพราะวิธีนี้ทำแล้วได้ผลครับ อ่านภาษาอังกฤษทุกวัน แม้ว่าจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม คำนวนง่ายๆ หากคุณอ่านหนังสือวันละ 20 นาที ในหนึ่งปี
2.การเรียนรู้ทุกอย่างใช้เวลา ดังนั้นคุณต้องใจเย็นๆ
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากเก่งภาษาอังกฤษเร็วๆ แต่ทักษะบางอย่างคุณต้องปล่อยให้พัฒนาไปอย่างช้าๆ ให้เวลากับตัวคุณเพื่อทำความคุ้นเคยกับศัพท์ใหม่ๆ ที่คุณได้เรียนรู้ ก่อนที่คุณจะนำคำศัพท์ใหม่ๆ ไปใช้งานจริง
3.ฟังภาษาอังกฤษผ่าน Podcasts และ Audiobooks หรือ youtube และ facebook
แทนที่คุณจะฟังเพลง หรือ เล่นเกมในตอนที่คุณเดินทางบนรถไฟฟ้า หรือโดยสารรถประจำทาง ลองเปลี่ยนมาฟัง podcasts สนุกๆ ที่จะทำให้คุณมีความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ รวมถึงฝึกฟังสำเนียงได้อีกด้วย
4.การสร้างรหัสช่วยจำ Mnemonic Device
Mnemonic Device คือ การใช้รหัสช่วยจำ ซึ่งเราคุ้นเคยกันดี ในตอนที่ร้องเพลงเพื่อช่วยจำสิ่งต่างๆ ซึ่งหากคุณสร้างวิธีการจำของคุณขึ้นมาจะช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
5.เขียนศัพท์ใหม่ลงบนกระดาษ
เมื่อคุณไม่สามารถสร้างรหัสช่วยจำได้ อีกวิธีหนึ่งคือเขียนลงบน post it และนำมันไปแปะไว้กับสถานที่ๆ เกี่ยวข้องกับความหมายของคำนั้นๆ เช่น คำว่า toast ติดไว้ข้างเครื่องปิ้งขนมปัง การที่คุณจดคำศัพท์ที่คุณต้องการจำเอาไว้และทบทวนทุกๆ เช้า จะช่วยให้คุณจำได้ดีขึ้น ซึ่งผมจะอธิบายในข้อถัดไปว่าเพราะเหตุใด
6.ทุกศัพท์ใหม่ที่คุณอ่าน คือการเพิ่มความจำให้กับเซลล์ประสาทมากขึ้น
สมองของเราใช้เซลล์ประสาทเพื่อการจำสิ่งต่างๆ เมื่อคุณเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ สัญญาณประสาทจะเดินทางไปยังสมองส่วนเก็บความจำ หากสัญญาณประสาทไม่เคยเดินผ่านเส่นประสาทใหม่มาก่อน ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ ดังนั้นการส่งสัญญาณประสาทไปยังเส้นประสาทนี้อย่างสม่ำเสมอจะทำให้สมองของคุณสามารถดึงความหมาย
ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://www.wallstreetenglish.in.th