หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 จีนก็นำเอานวัตกรรมจำนวนมากที่เคยอยู่ในขั้นทดลองไปเริ่มใช้งานจริง จนถือว่าเป็นการใช้ระบบ 5G ในอาณาเขตที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การเรียนหนังสือทางไกลเป็นตัวอย่างแรกที่ผุดออกมา โดยโรงเรียนจัดส่งตารางเรียนพร้อมคู่มือข้อปฏิบัติอย่างละเอียดให้นักเรียนหลังหยุดยาวตรุษจีนในทันที
สำหรับชีวิตคนทำงาน หลังหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน รัฐบาลจีนก็ขอความร่วมมือให้ภาคเอกชนชะลอการเปิดสำนักงานอีกระยะ ให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ก่อนปรับให้ไปทำงานจริงแบบวันเว้นวันเมื่อต้นเดือนมีนาคม พร้อมขอให้บริษัทพ่นยาฆ่าเชื้อก่อนเปิดทำการ ตอนนี้การประชุมทางไกลกลายเป็นเรื่องปกติ
รัฐบาลยังขอให้บริษัทจัดที่นั่งพนักงานให้มีระยะห่าง 1 เมตร รวมไปถึงขอให้สถานที่อื่น อาทิ ร้านอาหาร จุดยืนต่อคิว ลิฟท์ และอื่นๆ ใช้แนวปฏิบัตินี้ด้วย
Alibaba และ WeChat สร้างคิวอาร์โค้ดต่อต้านไวรัส (Anti-Virus Code) ที่ใช้แสดงค่าความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเวลาไปพื้นที่สาธารณะ โดยสีของคิวอาร์โค้ดจะเปลี่ยนไปตามระดับความเสี่ยง ได้แก่ สีเขียว (ผ่าน) สีเหลือง (สังเกตุการณ์) และสีแดง (กักบริเวณ)
ทั้งนี้ ระบบ 5G ยังทำให้การประเมินสถานะดังกล่าวสามารถตรวจจับและปรับเปลี่ยนเชิงลึกถึงระดับห้องและชั้นของอาคารได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ เพื่อลดการตระหนกจากข่าวปลอม ประชาชนสามารถถามตอบหรือค้นหาข้อมูล ผ่าน Any Helper ของทั้งสองค่ายได้อีกด้วย
แว่นตำรวจจีนก็ได้รับการติดตั้งเครื่องสแกนอุณหภูมิด้วยระบบอินฟาเรดที่สามารถตรวจวัดอุณหภูมิฝูงชนได้คราวละ 100 คนในระยะห่าง 5 เมตร มีระบบการจดจำใบหน้า สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้พร้อมสรรพ ราวกับเป็นโรโบคอปในหนังฮอลลีวูด
รถยนต์ไร้คนขับก็ถูกใช้เพื่อการส่งอาหาร เวชภัณฑ์ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นทั้งภายในและภายนอกอาคาร และยังถูกดัดแปลงไปทำความสะอาดถนนและพ่นยาฆ่าเชื้ออาคารบ้านเรือน ขณะที่โดรนก็ถูกใช้อย่างแพร่หลายเพื่อการส่งเวชภัณฑ์และของใช้จำเป็นเร่งด่วน
ขอขอบคุณ แหล่งข้อมูล https://businesstoday.co/columnist/21/03/2020/30060/
และ http://www.china.org.cn/china/2020-03/02/content_75762866.htm