คิฮาจิโร โอนิซึกะ เป็นผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทโอนิซึกะจำกัดขึ้นในปี 1949 โดยเริ่มผลิตรองเท้าบาสเก็ตบอลคู่แรกของญี่ปุ่นตามแบบอย่างของรองเท้ากีฬาที่มีมาแต่เดิมที่บ้านของเขาเองในเขตเฮียวโก เมืองโกเบ ด้วยเหตุที่ว่าชาวญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านพ้นไปแล้ว ประกอบกับพวกเขาเริ่มที่จะเห็นคุณค่าและประโยชน์ของกีฬา จึงทำให้รองเท้ากีฬาเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ซึ่งรองเท้ารุ่นแรกๆ นั้นจะมีตรารูปเสืออยู่บนรองเท้าและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ทางการค้าไปในที่สุด
ต่อมาก็มีการผลิตรองเท้ากีฬาประเภทอื่นๆ ทั้งรองเท้าสำหรับกีฬาฟุตบอล วิ่ง คริกเก็ต กอล์ฟ มวยปล้ำ วอลเลย์บอล และกีฬาอื่นอีกหลายประเภท โดยไม่เพียงชาวญี่ปุ่นเท่านั้นที่เลือกสวมใส่รองเท้ากีฬาตราโอนิซึกะ ไทเกอร์ แต่เมื่อเข้าสู่ทศวรรษที่ 1960 เจ้ารองเท้ากีฬาตราเสือนี้ก็ได้รับเลือกให้เป็นของคู่เท้าของนักกีฬาชั้นนำของต่างชาติด้วย
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 21 เดือนกรกฎาคมปี 1977 บริษัทโอนิซึกะเดิมก็ได้รวมเข้ากับบริษัท GTO และ JELENK และก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัท ASICS แต่ก็ยังคงผลิตรองเท้ากีฬาที่ยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิมในการเป็นผู้เชี่ยวชาญการผลิตรองเท้ากีฬาโดยใช้ไอเดียดั้งเดิมบวกกับเทคโนโลยีการผลิตที่ทันยุคทันสมัย ตามปรัชญาของบริษัทที่จะนำสุขภาพร่างกายที่ดีมาสู่เยาวชนโดยผ่านกีฬา
Onitsuka Tiger ในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือว่าเป็นการการันตีความเป็นที่นิยมของรองเท้าแบรนด์นี้ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจว่าทำไม Onitsuka Tiger ถึงได้รับความนิยมจากทั้งต่างชาติและคนญี่ปุ่น
ก่อนอื่นขอเล่าถึงประวัติความเป็นมาคร่าว ๆ ของ Onitsuka Tiger ก่อนนะคะ เมื่อปี ค.ศ. 1949 คุณคิฮะจิโร่ โอนิซึกะ ได้ก่อตั้งแบรนด์รองเท้ากีฬาภายใต้ชื่อ Onitsuka Tiger ขึ้นมา โดยเริ่มจากการผลิตรองเท้าสำหรับเล่นบาสเก็ตบอล รองเท้าวิ่ง เพื่อขายให้กับชมรมกีฬาของโรงเรียนมัธยมปลาย และต่อมาธุรกิจเติบโตขึ้นจนได้เป็นผู้ผลิตรองเท้าให้กับนักกีฬาโอลิมปิก
ที่มาของชื่อแบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Onitsuka Tiger
เรื่องมีอยู่ว่า ผู้ก่อตั้งแบรนด์เกิดถูกใจใน “มาร์กรูปเสือ” ที่เจ้าของโรงงานผลิตรองเท้าบาสเก็ตบอลรุ่นแรก พิมพ์ใส่ลงไปที่ด้านหลังของรองเท้าเล่น ๆ เขาเชื่อว่าในภูมิภาคเอเชีย เสือถือเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุด หากนำคำว่า Tiger มารวมกับคำว่า Oni ซึ่งแปลว่ายักษ์ ในชื่อ Onitsuka จะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูแข็งแกร่งเหนือคำบรรยายเลย ชื่อแบรนด์ Onitsuka Tiger จึงถือกำเนิดขึ้นมา ณ ตอนนั้น
ในปี 1960 Onitsuka Tiger ขยายตลาดเข้าสู่อเมริกาได้สำเร็จตามคำชักชวนของบริษัท BRS (ชื่อเดิมของ NIKE) และเมื่อถึงปลายฤดูกาลโอลิมปิก ผลประกอบการเริ่มย่ำแย่ Onitsuka Tiger จึงแยกตัวออกจาก BRS และมีการเปลี่ยนชื่อแบรนด์รวมถึงชื่อบริษัทเป็น “ASICS” ทำให้ชื่อของ Onitsuka Tiger เงียบหายไปจากตลาดพักใหญ่
หลังจากหายหน้าหายตาไปเป็นเวลา 25 ปี Onitsuka Tiger ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2002
การปรากฏตัวในภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง Kill Bill ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ Onitsuka Tiger เปลี่ยนไป กลายเป็นแบรนด์ที่มีอิทธิพลด้านแฟชั่น
อูมา เธอร์แมน นักแสดงนำในเรื่อง สวมรองเท้าผ้าใบ Onitsuka Tiger รุ่น Taichi สีเหลือง ซึ่งรุ่นนี้ผลิตออกมาเพียง 3,400 คู่ เท่านั้น ถือเป็นรุ่นหายากเลยทีเดียว
การยกระดับตัวเองจากแบรนด์กีฬาสู่แบรนด์แฟชั่น ทำให้ Onitsuka Tiger กลายเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก
ณ เวลานี้ ไม่เพียงแต่สวมใส่เพื่อเล่นกีฬาเท่านั้น Onitsuka Tiger ยังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่แฟชั่นนิสต้าทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป หรือแม้กระทั่งในญี่ปุ่นเอง Onitsuka Tiger ก็กลายเป็นแบรนด์ที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้ทุกคนคงจะเคยเห็นภาพที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของไทย ทรงสวม Onitsuka Tiger ในสื่อโซเชียล นั่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
-ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://www.sanook.com/men/64985/