ปรากฏการณ์ดาวตก (Meteorหรือ Shooting star) นั้นไม่ใช่ดาวฤกษ์ (Star) แต่เป็นหินก้อนเล็กๆที่เผาไหม้ในขณะที่พุ่งเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก
มีก้อนหินและฝุ่นจากอวกาศเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลก เป็นจำนวนประมาณ 100 ตันในทุกๆวัน โชคดีที่วัตถุจากอวกาศเหล่านี้ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กไป จนถูกเผาไหม้หมดไปในชั้นบรรยากาศก่อนที่จะตกถึงพื้นโลก และไม่ก่อให้เกิดอันตราย
อย่างไรก็ตาม หินจากอวกาศบางก้อนก็ใหญ่เพียงพอที่จะหลงเหลือจากการเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศได้ เศษที่ตกลงมาถึงพื้นจะเรียกว่า “อุกกาบาต” (meteorite) อุกกาบาตจะมีองค์ประกอบเป็นโลหะเจือปนมากกว่าหากเทียบกับก้อนหินบนพื้นโลก ทำให้อุกกาบาตเหล่านี้หนาแน่น หรือหนักกว่าที่เราคาดไว้จากการประเมินด้วยขนาดของมัน
ดาวตกส่วนใหญ่มักจะมาจากดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กที่หลงเหลือจากการก่อตัวของระบบสุริยะ แต่อีกส่วนหนึ่งก็แตกออกมาจากดาวหาง หรือกระเด็นออกมาจากการพุ่งชนบนดวงจันทร์หรือดาวอังคาร ก่อนจะเดินทางมาถึงโลก
ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถเห็นดาวตกเพียงบางดวงในช่วงกลางคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการสังเกตดาวตก คือช่วงที่มีปรากฏการณ์ฝนดาวตก (Meteor shower) ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อโลกโคจรผ่านเข้าไปในสายธารของเศษชิ้นส่วน ที่ดาวหางทิ้งไว้ตามวงโคจรของมัน ในช่วงที่เกิดฝนดาวตกครั้งใหญ่ๆ คุณอาจจะเห็นดาวตกมากถึง 100 ดวงต่อชั่วโมง ขณะที่ในท้องฟ้ายามค่ำคืนโดยทั่วไป มักจะมีอัตราการปรากฏของดาวตกอยู่ที่ประมาณ 6 ดวงต่อชั่วโมง
ฝนดาวตก
เมื่อปลายปีที่แล้วมีข่าวเรื่องฝนดาวตกสิงโตอีก ผู้เขียนอุตสาห์อดหลับอดนอนคอยดูแต่ก็ไม่เห็น คิดว่า ท้องฟ้ากรุงทพมหานครคงสว่างเกินไปไม่เหมาะกับการดูดาว อย่างไรก็ตามเมื่อหลายปีก่อนในคืนวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ เคยมีปรากฏการณ์ฝนดาวตกสิงโต ได้เห็นชัด ๆ บนภูหลวง จังหวัดเลย ไม่แน่ใจว่าคนกรุงเทพฯ ได้เห็นกันหรือไม่
ดาวตก หรือ ผีพุ่งไต้ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้นิยามว่า เทหวัตถุแข็งจากอวกาศ เมื่อเกิดเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ จะแลดูสว่างพุ่งเป็นทางเข้าสู่ผิวโลก ผีพุ่งไต้ ก็เรียก
พจนานุกรมศัพท์ดาราศาสตร์ ของสมาคมดาราศาสตร์ไทยบัญญัติคำ meteor; shooting star; falling star ว่า ดาวตก ผีพุ่งไต้ นิยามว่า แสงสว่างวาบที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าเป็นเวลาสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นจากวัตถุขนาดเล็กตั้งแต่ฝุ่นจนถึงขนาดเท่าก้อนหินจากอวกาศพุ่งเข้าสู่บรรยากาศโลก คำ meteor shower บัญญัติว่า ฝนดาวตก นิยามว่าปรากฏการณ์ที่ดาวตกเกิดขึ้นจำนวนมากในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และแต่ละดวงดูเหมือนกับพุ่งมาจากจุด ๆ หนึ่งบนท้องฟ้า ซึ่งเรียกว่า จุดกระจาย (radiant) อัตราตกของฝนดาวตกอาจสูงถึงหลายร้อยดวงต่อนาที แต่โดยทั่วไป อยู่ที่ประมาณ ๕๐ ดวงต่อนาที
meteor storm บัญญัติว่า พายุดาวตก นิยามว่า ฝนดาวตก (meteor shower) ที่มีอัตราตกสูงมาก พายุดาวตกที่มีชื่อเสียงมากคือ พายุดาวตกสิงโต เมื่อวันที่ ๑๒-๑๓ พฤศจิกายน ค.ศ. ๑๘๓๓ มีอัตราตกเฉพาะที่ตามองเห็นสูงถึง ๑๐๐๐๐ ดวงต่อชั่วโมง
ฝนดาวตกสิงโตเป็นฝุ่นสะเก็ดดาวของกลุ่มดาวสิงโต ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี แต่จะมีมากจนเห็นชัดหรือมีน้อยจนแทบมองไม่เห็นนั้น ต้องติดตามข่าวจากสมาคมดาราศาสตร์ไทย
-ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล http://www.royin.go.th/