Possessive Adjective & Possessive Pronoun คือคำบอกความเป็นเจ้าของ
Possessive Adjective and Possessive Pronoun คือคำบ่งบอกความเป็นเจ้าของ เช่น This is my pen. It’s mine. my เป็น possessive adjective ขยายนาม (pen) ส่วน mine เป็น possessive pronoun ใช้โดดๆ
Possessive Adjective และ Possessive Pronoun ต่างกันอย่างไร
- Possessive Adjective คือคำบ่งบอกหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ใช้ขยายนาม(ต้องมีนามตามหลังเสมอ)
Possessive Adjectives ได้แก่ my, your, our, his, her, its และ their - Possessive Pronoun คือคำบ่งบอกหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ที่ไม่ต้องมีนามตามหลัง สามารถใช้โดดๆ ได้เลย เพราะจะมีการเอ่ยถึงสิ่งที่ถูกเป็นเจ้าของมาก่อนหน้าแล้ว หรือไม่ก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นเจ้าของอะไร ฉะนั้นจึงไม่ต้องวางคำนามไว้ด้านหลัง
Possessive Pronouns ได้แก่ mine, yours, ours, his, hers และ their (คำว่า its จะไม่ใช้เป็น possessive pronoun นะคะ)
ยกตัวอย่างการใช้ Possessive Adjective & Possessive Pronoun เช่น
This is my house. It’s mine.
นี่คือบ้านของฉัน มันเป็นของฉัน
That is his house. It is his.
นั่นคือบ้านของเขา มันเป็นของเขา
His house is bigger than mine.
บ้านของเขาใหญ่กว่า(บ้าน)ของฉัน (mine = my house)
That is our house. It’s ours.
นั่นคือบ้านของพวกเรา มันเป็นของพวกเรา
That is their house. It’s theirs.
นั่นคือบ้านของพวกเขา มันเป็นของพวกเขา
Our house is bigger than theirs.
บ้านของพวกเราใหญ่กว่า(บ้าน)ของพวกเขา (theirs = their house)
That is her necklace. It’s hers.
นั่นคือสร้อยคอของเธอ มันเป็นของเธอ
My necklace is more beautiful than hers.
สร้อยคอของฉันสวยกว่า(สร้อยคอ)ของเธอ (hers = her necklace)
หลักการใช้ Possessive Pronoun และตัวอย่าง
- possessive pronouns ใช้แทนที่ได้ทั้ง possessive adjective และคำนามที่มันขยาย ดังนั้นเมื่อใช้ possessive pronouns จึงไม่ต้องมีคำนามตามหลัง ตัวอย่างเช่น
Our house is there. Theirs is here.
Our house is bigger than theirs.
Our house and theirs are beautiful.
บ้านของพวกเราอยู่นั่น ของพวกเขาอยู่นี่ ทั้งบ้านของพวกเราและของเขาต่างก็สวย (theirs = their house) - possessive pronouns สามารถใช้ในการตอบคำถาม “Whose…?” ดังตัวอย่างเช่น
Whose pen is this? It’s mine.
นี่ปากกาของใคร ของฉันเอง (mine = my pen) - เราสามารถใช้ …noun + of + possessive pronouns ตัวอย่างเช่น
Is this a book of yours? Can I borrow it?
นี่คือหนังสือของเธอหรือเปล่า ฉันขอยืมได้มั๊ย
Surachai is a friend of mine. He is an engineer.
สุรชัยเป็นเพื่อนของฉัน เขาเป็นวิศวกร
A friend of mine has invited me to his birthday party.
เพื่อนคนหนึ่งของฉันชวนฉันไปงานวันเกิดของเขา - Possessive Form of Nouns
ในภาษาอังกฤษ นอกจากจะใช้คำ Possessive Adjectives, Possessive Pronouns แสดงความเป็นเจ้าของ แล้ว ยังมีคำแสดงความเป็นเจ้าของอีกกลุ่มด้วยเช่นกัน ซี่งเราเรียกคำกลุ่มนี้ว่า “Possessive Form of Nouns”
Possessive Form of Nouns เป็นคำนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ มีอยู่ 2 รูป คือ ‘s และ of มีวิธีใช้ดังนี้
1. ‘s อ่านว่า Apostrophe s ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ และใช้กับสิ่งที่มีชีวิต
2. of ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต1. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ โดยวางไว้หลังคำนามที่เป็นเจ้าของ เช่น
ตัวอย่างการใช้ ‘s
ความหมาย Kate’s car
Students’ shoes
My father’s hat
The children’s backpacks
A bird’s wings
His girlfriend’s gloves
Yupa and Yupin’s skirts
รถยนต์ของเคท
รองเท้าของนักเรียน
หมวกของคุณพ่อของฉัน
เป้ของพวกเด็ก ๆ
ปีกของนก
ถุงมือของแฟนเขา
กระโปรงของยุพาและยุพินจากตัวอย่าง…นักเรียนสังเกตการใช้ ‘s จะมีความแตกต่างกัน บางประโยคใช้ทั้ง ‘sบางประโยคใช้เฉพาะ ” ‘ ” เท่านั้น…มีหลักในการใช้อย่างไร…นักเรียนศึกษาตัวอย่างประโยคแสดงการใช้ ” ‘s ” ต่อไปนี้
หลักในการใช้ ‘s
1. นามที่เป็นเจ้าของที่มีรูปเป็นเอกพจน์ ให้ใส่ ‘s หลังคำนามได้เลย เช่นตัวอย่างประโยค ความหมาย ภาพสื่อความหมาย My mother’s dress is very beautiful. ชุดของคุณแม่ของฉันสวยมาก A dog’s tail is short. หางของสุนัขสั้น That girl’s candies are very sweet. ขนมอมของเด็กคนนั้นหวานมาก 2. ชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของลงท้ายด้วย s หรือไม่ได้ลงท้ายด้วย s ให้ใส่ ” ‘s ” หลัง ชื่อบุคคลนั้นได้เลย เช่น
ตัวอย่างประโยค ความหมาย ภาพสื่อความหมาย That is Tommy’s car. นั่นคือรถยนต์ของทอมมี่ Somchai’s dog is very fat. สุนัขของสมชัยอ้วน Those are Kanchana’s sisters. ผู้หญิงเหล่านั้นเป็นน้องสาวของกาญจนา Mrs.Jones’ s sons are very naughty. ลูกชายของนางโจนส์ซนมาก James’s girlfriend is a singer. แฟนสาวของเจมส์เป็นนักร้อง 3. นามที่เป็นเจ้าของมีความหมายเป็นพหูพจน์ แต่รูปเป็นเอกพจน์ คือไม่ได้ลงท้ายด้วย s ให้ใส่ ” ‘s” หลังหลังคำนามนั้นได้เลย เช่น
ตัวอย่างประโยค ความหมาย ภาพสื่อความหมาย People’s cars are at the car park.
รถของประชาชนจอดที่ ๆ จอดรถ The police’s guns are short. ปืนของพวกตำรวจสั้น The women’s blouses are green. เสื้อของผู้หญิงเหล่านั้นสีเขียว 4.นามที่เป็นเจ้าของมีรูปเป็นพหูพจน์และลงท้ายด้วย s ให้ใส่เฉพาะ” ‘ ” เท่านั้น เช่น
ตัวอย่างประโยค ความหมาย ภาพสื่อความหมาย The students’ shoes are very big.
รองเท้าของนักเรียนคู่ใหญ่มาก My parents’ clothes are in the closet.
เสื้อผ้าของคุณพ่อคุณแม่อยู่ในตู้เสื้อผ้า The boys’ desks are big. โต๊ะของเด็กพวกนั้นใหญ่มาก 5. ถ้ามีเจ้าของมากกว่าหนึ่ง และมี and เชื่อม หรือเป็นเจ้าของร่วมกัน ให้วาง ‘ s หลังคำนามตัวสุดท้ายเท่านั้น เช่น
ตัวอย่างประโยค ความหมาย ภาพสื่อความหมาย Bill and Susan’s car is a European car.
รถยนต์ของบิลและซูซันเป็นรถยุโรป Bob and Kate’s father is a policeman.
คุณพ่อของ บ๊อบและเคท เป็นตำรวจ John, Andy and James’s house is green. บ้านของจอห์น แอนดี้และเจมส์สีเขียว 2. ” Of ” มีความหมายว่า ของ ใช้แสดงความเป็นเจ้าของสำหรับสิ่งของและสถานที่ หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต ดังตัวอย่างจากตารางข้างล่างนี้
ตัวอย่างประโยค ความหมาย ภาพสื่อความหมาย The cover of this notebook is blue.
ปกของสมุดเป็นสีฟ้า The cover of this notebook is blue.
เด็กชายคนนั้นยืนบนฝั่งน้ำ The cover of this notebook is blue. พวกนี้เป็นกิ่งก้านของต้นไม้