วิธีตั้งเป้าหมายให้ประสบความสำเร็จ

การตั้งเป้าหมายที่ดี มีลักษณะอย่างไร

วิธีตั้งเป้าหมาย ที่อย่างชาญฉลาดและได้ผลดีที่สุด ควรตั้งเป้าหมายให้มีลักษณะดังนี้ 

1.ระบุเป้าหมายได้อย่างชัดเจน (Specific)

เป้าหมาย อาจเรียกว่าใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยว เป็นจุดหมายปลายทางที่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการไปให้ถึง ดังนั้นการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจึงสำคัญ เป้าหมายควรมีความเฉพาะเจาะจงเพื่อที่เราจะได้โฟกัสไปที่เป้าหมายได้อย่างตรงจุด ควรระบุให้เห็นภาพชัดเจนว่าผลที่ได้จะเป็นอย่างไรเช่น วางเป้าหมายในการเก็บเงินซื้อคอนโดที่มีขนาดห้อง 40 ตร.ม. ด้วยเงินสดราคา 6 ล้านบาท ให้ได้ภายใน 3 ปี หรือมีเป้าหมายในการซื้อรถยี่ห้อ/รุ่นอะไร สีอะไร ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ ยิ่งระบุชัด เห็นภาพมากเท่าไหร่ยิ่งดีต่อการตั้งเป้าหมายแล้วไปให้ถึง   

2.วัดผลได้ (Measurable)

ลักษณะการวางเป้าหมายที่ดีจะ ต้องสามารถวัดผลได้ มีวิธีวัดผลชัดเจน เพื่อใช้ในการวางแผน และประมวลผลความสำเร็จหรือความก้าวหน้าในการเข้าถึงเป้าหมาย โดยวิธีที่ดีที่สุดในการวัดผลก็คือ ตัวเลข เช่น ถ้าเป้าหมายของคุณคือ เป็นคนที่ร่ำรวย ก็ต้องระบุเป้าหมายเป็นจำนวนเงินให้ได้เช่น 20 ล้าน หรือ 30 ล้าน หรือถ้าเป้าหมายของคุณคือการขยายธุรกิจ ก็ควรที่จะระบุได้ในเชิงตัวเลข เช่น ต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเท่าไหร่เป็นเท่าไหร่ หรือเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ หรือต้องขยายสาขาหรือโรงงานเพิ่มขึ้นกี่สาขา ขนาดโรงงานที่ใหญ่ขึ้นมีขนาดเท่าไหร่ 

ซึ่งเมื่อเป้าหมายสามารถวัดผลเชิงตัวเลขได้ การแบ่งสเตปในการไปถึงเป้าหมายก็จะเป็นรูปเป็นร่างและเข้าใจได้มากขึ้น เช่น ต้องการมีเงิน 20 ล้านบาท ภายใน 8 ปี หมายความว่าคุณต้องมีเงินเก็บให้ได้อย่างน้อยปีละ 2.5 ล้านบาท หรือมีเงินเก็บเดือนละ 208,333 บาท    

3.มีแนวทางปฏิบัติไปให้ถึงเป้าหมายได้ (Achievable)

นอกจากการวางเป้าหมายที่ถือเป็นปลายทางแล้ว ระหว่างทางไปถึงเป้าหมายก็สำคัญไม่แพ้กัน เป้าหมายที่ดีควรมีความสอดคล้องกับความเป็นไปได้ที่เราจะสามารถทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จได้ เราต้องรู้ว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย เช่น วางเป้าหมายมีเงิน 20 ล้านบาท ภายใน 8 ปี 

หมายความว่าต่อเดือน คุณควรจะมีเงินเก็บให้ได้อย่างน้อย 208,333 บาท หากงานที่คุณทำไม่สามารถสร้างรายได้ได้เพียงพอ คุณก็ต้องหาวิธีอื่นในการสร้างรายได้ให้มากขึ้น เช่น หางานเสริมอย่างอื่น ทำธุรกิจ หรือลงทุนเพิ่ม เพื่อที่คุณจะสามารถทำเป้าหมายให้สำเร็จได้ 

4.เป็นจริงได้ (Realistic)

เป้าหมายที่เกินความเป็นจริง นอกจากจะทำให้สำเร็จยากแล้ว อาจทำให้คุณท้อใจจนหมดพลังในการทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ เช่น การตั้งเป้าหมาย 20 ล้านบาทใน 8 ปี ถ้าปัจจุบันคุณมีเงินเก็บต่อเดือนเพียงหลักหมื่นต้น ๆ แล้วการหารายได้เพิ่มก็ยังไม่อาจทำให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ คุณอาจลดเป้าหมายของคุณลงมาให้เอื้อมถึงมากขึ้น ตั้งเป้าให้เล็กลงเพื่อทำให้สำเร็จเสียก่อนแล้วค่อยตั้งเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นเมื่อมีความเป็นไปได้มากขึ้นในอนาคต

5.ต้องกำหนดเวลาชัดเจน (Time based)

การตั้งเป้าหมายที่ดีต้องมีระยะเวลาระบุที่แน่นอน ว่าเป้าหมายจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ เรามุ่งมั่นตั้งใจทำเป้าหมายให้ประสบความสำเร็จเมื่อไหร่ เพราะการทำไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีระยะเวลากำหนด ก็อาจไม่มีแรงดึงดูดหรือผลักดันให้เราทำเป้าหมายให้สำเร็จสักทีนั่นเอง