สั่งงานด้วยความคิด Neuralink
คงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้โดยไม่ต้องเคลื่อนไหว ซึ่งอาจจะฟังดูเหมือนเป็นจินตนาการที่หลุดออกมาจากภาพยนตร์แนวพลังจิต แต่จินตนาการเหล่านั้นอาจจะเกิดขึ้นจริงได้ในไม่ช้าเมื่อ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจ้าของฉายา โทนี่ สตาร์ก ในโลกความจริงได้ออกมาประกาศถึงโครงการใหม่ที่เขากำลังพัฒนาขึ้นภายใต้บริษัทใหม่ชื่อ Neuralink เป็นเทคโนโลยีที่จะเชื่อมสมองของมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์ โดยใช้สายสื่อประสาทที่มีเส้น
ผ่านศูนย์กลางเพียง 4 ถึง 6 ไมโครเมตร ซึ่งเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์มาก อีกทั้งเครือข่ายสายสื่อประสาทของ Neuralink มีขั้วไฟฟ้า (electrodes) สำหรับรับสัญญาณประสาทจากสมองมากถึง 3,072 ขั้ว ในสายสื่อประสาท 96 เส้น ในช่วงเริ่มต้น มัสก์ต้องการจะพัฒนาเทคโนโลยีนี้เพื่อปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยด้านสมอง ผู้ป่วยอัมพาต ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ที่สูญเสียการควบคุมร่างกายซึ่งจะเป็นผลดีต่อการรักษาทางการแพทย์ เพราะเทคโนโลยีสายสื่อประสาทโดย Neuralink มีโอกาสที่จะสร้างความเสียหายใหักับสมองของมนุษย์น้อยกว่าวัสดุที่ใช้ในส่วนต่อประสานระหว่างสมองมนุษย์และคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันทั่วไป ที่สำคัญมันยังสามารถถ่ายโอนส่งต่อข้อมูลขนาดมหาศาลได้อีกด้วย
ภาพที่ 1 สมอง
ที่มา https://pixabay.com, Seanbatty
นอกจากนั้น Neuralink ยังได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่ใช้ฝังสายสื่อประสาทดังกล่าวเข้าศีรษะมนุษย์ได้แล้ว โดยหน้าตาของหุ่นยนต์ตัวนี้จะคล้ายกับกล้องจุลทรรศน์ผสมจักรเย็บผ้า สามารถฝังสายสื่อประสาทได้ 6 เส้นต่อนาที โดยการทำงานจะเป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมดเพื่อความแม่นยำ ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถเลี่ยงเส้นเลือดเพื่อลดความระคายเคืองในสมองได้เองด้วย และในอนาคตนักวิทยาศาสตร์ก็หวังว่าจะใช้ลำแสงเลเซอร์เพื่อฝังเส้นนี้ แทนการเจาะรูกะโหลก โดยที่ผ่านมาได้มีการทดลองเบื้องต้นควบคู่กับนักประสาทวิทยาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มัสก์ก็หวังว่า “เราจะได้มีสิ่งนี้ ในผู้ป่วยมนุษย์ภายในสิ้นปีหน้า”ก่อนหน้านี้ มีมหาวิทยาลัยบราวน์ ที่ได้พัฒนาเส้นเชื่อมประสาทในชื่อ BrainGate แต่ว่า Neuralink จะสามารถส่งข้อมูลได้มากกว่า รวมถึงเส้นสายที่ปลอดภัยต่อสมองในระยะยาวมากกว่า เพราะเป็นเส้นที่อ่อนกว่า อย่างไรก็ตาม Neuralink ก็ยังต้องมีการพัฒนาอีกมาก รวมถึงการขออนุญาตจาก FDA (United States Food and Drug Administration :องค์การอาหารและยาสหรัฐ) ซึ่งจะกินเวลานานมากด้วย แต่ทีมงานก็หวังว่าจะเริ่มทดลองในมนุษย์ได้ภายในสิ้นปีหน้า มัสก์ได้กล่าวว่า “เหตุผลหลักในการทำการนำเสนอครั้งนี้คือการสรรหาบุคลากร” ทั้งในด้านระบบประสาท, ด้านหุ่นยนต์, ด้านวัสดุศาสตร์, ด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์ รวมถึงด้านซอฟต์แวร์และความปลอดภัยและด้านอื่น ๆ อีกมากมาย
เทคโนโลยีใหม่จาก Neuralink นี้จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแก่มนุษย์ 3 ข้อหลักๆคือ
1. สมองมนุษย์จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งในแง่ของความคิดและความจำ เหมือนเป็นการอัพเกรดสมองแบบอัตโนมัติ
2. มนุษย์จะสามารถอัปโหลดและดาวน์โหลดข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เข้าสู่หน่วยความจำและองค์ความรู้ระหว่างกันได้ภายในเวลาสั้นๆ ซึ่งทำให้เราเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่านการดู ฟัง หรืออ่าน
3. มนุษย์จะสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักร และหุ่นยนต์ที่ลิงก์กับระบบ Neuralink ผ่านคลื่นสมองได้โดยไม่ต้องมีการสัมผัสทางกายภาพหรือแม้แต่ไม่ต้องเข้าไปใกล้ด้วยซ้ำ ซึ่งในข้อนี้เราอาจจะเริ่มเห็นความเป็นไปได้จาก อุปกรณ์เทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียง (Voice Technology) ที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้แล้ว
ถ้าหากว่าเทคโนโลยีใหม่จาก Neuralink นี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง การที่เราอยากจะสั่งงานอุปกรณ์เทคโนโลยีภายในบ้าน, โทรทัศน์, คอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน หรือแม้แต่อุปกรณ์สำนักงานในที่ทำงานได้โดยใช้แค่ความคิดก็คงไม่ใช่เรื่องเหนือจินตนาการอีกต่อไป แต่ที่เรามั่นใจได้ตอนนี้คือเทคโนโลยีนี้จะยังไม่สามารถออกมาให้เราได้ทดลองใช้ในเร็ววันนี้แน่นอน
แหล่งที่มา
BlackMiracle. (2562, 17 กรกฎาคม). Neuralink บริษัทลับของ Elon Musk โชว์สายสื่อประสาทเชื่อมสมองเข้ากับคอมพิวเตอร์ ฝังเข้าหัวด้วยหุ่นยนต์. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2562. จาก https://www.blognone.com/node/110887