7 สุดยอดเทคนิค “แบ่งเวลา” สำหรับนักเรียนที่รู้สึกมีเวลาน้อย เท่าไรก็ไม่เคยพอ
มื่อเทศกาลสอบใกล้เข้ามา สิ่งสำคัญของเหล่าผู้ที่อยู่ในวัยเรียนคือการจัดการเวลาอย่างไรให้ลงตัว ในเมื่อช่วงวัยนี้ล้วนมีหลายสิ่งหลายอย่างล่อตาล่อใจจนมิอาจทนอยู่ติวหนังสืออย่างใจจดใจจ่อตลอดเวลา
ไหนจะเพื่อนฝูง ไหนจะข่าวสารที่น่าดึงดูดจากโซเชียลมีเดีย สำหรับบางคนมันยากเหลือเกินนะที่จะมีสมาธิหรือแบ่งเวลาให้เกิดผลที่สุด
ดังนั้นสำหรับบทความนี้ เราจึงมี 7 สุดยอดเทคนิค “แบ่งเวลา” สำหรับนักเรียนที่รู้สึกมีเวลาน้อย เท่าไรก็ไม่เคยพอมาฝากกันค่ะ
1. อะไรคือสิ่งที่ควรจะทำ
ประการแรกเลย คือลองลิสต์มาว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่ควรจะต้องทำจริงๆ แต่อย่างว่าละนะ แรงบันดาลใจในการทำงานของนักเรียนส่วนใหญ่คือถ้าไฟไม่ลนก้นจริงๆ ก็ไม่มีทางหยิบจับมันแน่ๆ ต้องรอใกล้เดดไลน์ก่อนถึงจะรู้ร้อนรู้หนาว ซึ่งผลที่ออกมามักจะไม่มีประสิทธิภาพทั้งยังกระทบต่อเกรดเฉลี่ยอีกต่างหาก
2. จัดตารางให้ชีวิต
วิธีนี้จะให้ทำเราซึมซับความมีระบบแบบแผนอย่างช้าๆ แล้วจะทำให้เรากลายเป็นคนที่มีวินัยมากขึ้น รู้ว่าควรจัดการอะไรก่อนหลัง แม้ในช่วงเริ่มแรกอาจจะยากสักหน่อยแต่ก็จะชินไปในที่สุด
นอกจากนี้โทรศัพท์มือถือก็ยังมีแอปพลิเคชันมากมายสำหรับการจัดตารางชีวิตให้ง่ายขึ้นอีกด้วย
3. มีความยืดหยุ่นแต่ต้องสมเหตุสมผล
แน่นอนว่าเราไม่สามารถกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างให้ตายตัวได้ โดยเฉพาะเรื่องของเวลา ดังนั้นจึงควรเผื่อเวลาไว้สักนิดสำหรับเรื่องฉุกละหุกที่อาจเกิดขึ้น
4. ให้เวลาสำหรับการวางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงการทำซ้ำๆ
การวางแผนที่มีประสิทธิภาพก่อนทำรายงานหรือการวิจัย คือร่างรายการสำหรับทุกสิ่งที่คุณต้องการค้นหา เพื่อจะได้ทำตามที่กำหนดไว้และหลีกเลี่ยงการเสียเวลาในการอ่านหรือทำซ้ำๆ
5. หลีกเลี่ยงการผัดวันประกันพรุ่ง และเลิกฟุ้งซ่านซะ
การผัดวันประวันพรุ่งมันมีอยู่ในตัวทุกคนสิน่า!! วิธีแก้อย่างหนึ่งคือให้นึกถึงสถานที่ที่แตกต่างกันขณะที่เรียน ที่ซึ่งคุณสามารถโฟกัสและมีสมาธิ หรือที่ไหนที่ทำให้คุณฟุ้งซ่านมากที่สุด และมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้การเรียนดูสนุกสนานขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
6. ออกกำลังกายเพื่อเคลียร์สมองในระหว่างติวหนังสือ
เชื่อหรือไม่ว่า การออกกำลังกายทำงานในลักษณะเดียวกันกับการนอนหลับ สามารถเน้นสภาวะจิตใจของคุณ ทำให้ความคิดแจ่มชัด และเพิ่มพลังสมองระหว่างช่วงเวลาเรียนได้
7. มีการจัดการอย่างเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพหรือไม่
หมั่นทบทวนและประเมินตารางงานของคุณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรจัดการหรือเปลี่ยนแปลง เพื่อขับเคลื่อนให้งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง นอกจากนี้ยังมีเวลาเหลือสำหรับพักผ่อน ให้เพื่อนฝูงและครอบครัวตามที่ใจปรารถนา