มีเคสสุดคลาสสิคอยู่หนึ่งเรื่องที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนมากว่า การตลาด คือ การตอบสนองความต้องการของลูกค้า คือเรื่องของ ปั๊มน้ำมัน
ในยุคหนึ่งก่อนหน้านี้ การโฆษณาปั๊มน้ำมัน พยายามสื่อสารออกไปว่าน้ำมันของชั้นดี ใช้แล้วเครื่องแรง เน้นไปที่สินค้าน้ำมันเป็นหลัก เพราะนักการตลาดสมัยนั้นเชื่อว่าถ้าสินค้าดี คนก็จะมาใช้บริการปั๊มของเรา.. นึกๆดูแล้วมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่!! เมื่อมีนักวิจัยไปทำวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้ผู้ขับรถเลือกใช้ปั๊มน้ำมัน สาเหตุอันดับต้นๆคือ “ห้องน้ำสะอาด” ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำมันแต่อย่างใด!
คดีจึงพลิกกลับมาว่า ปั๊มไหนขึ้นป้ายว่า “ห้องน้ำสะอาด” ก็จะเป็นจุดขายที่ Trigger ลูกค้าให้มาใช้บริการได้นั่นเอง
จากเคสนี้สอนให้เรารู้ว่า ไม่สำคัญว่าเราจะภูมิใจ มั่นใจ หรือชอบ อยากบอกอะไรให้กับลูกค้ามากแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญที่สิ่งที่ลูกค้าต้องการจากการซื้อสินค้าหรือบริการ (Gain) หรือเป็นสิ่งที่ลูกค้าเกิดปัญหาจากการใช้สินค้าหรือบริการนั้นๆ (Pain)
สรุปง่ายๆว่า กลยุทธ์การตลาดที่สำเร็จ ก่อนที่จะคิดว่าจะทำอะไร ต้องเริ่มต้นจาก
- กำหนดลูกค้าเป้าหมายว่าเป็นใคร
- ศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายว่า มีพฤติกรรมใช้สินค้าหรือบริการนั้นอย่างไร
- ศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายว่า มีปัญหาหรือความต้องการที่เกิดจากการใช้สินค้าหรือบริการนั้นอย่างไร
- เปรียบเทียบจุดที่เป็นโอกาสที่ลูกค้าต้องการเหล่านั้น กับคู่แข่ง ว่ามีช่องว่างตรงไหนบ้าง
- วางกลยุทธ์การสื่อสารช่องว่างนั้นไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่กำหนด
อาจดูเป็นคอนเซปต์ที่กว้าง แต่ก็สามารถใช้กำหนดกรอบความคิดให้ง่ายขึ้นได้บ้าง กับการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารที่เริ่มต้นจากความต้องการของลูกค้าจริงๆ
1.) วางแผน
ขั้นตอนแรกดูเหมือนเบสิคและใครๆก็ทำกัน จริงหรือ!!? ผมอยากให้ลองตั้งวัตถุประสงค์ขึ้นมาก่อน คุณกำลังต้องการอะไร เอาที่มันวัดได้ด้วยนะครับ เช่น
– อยากได้ยอดขาย 20,000 บาทต่อวัน
– อยากให้สินค้าขายได้วันละ 50 ชิ้น
– ต้องการสมาชิกเพิ่ม 20%
เริ่มจากวัตถุประสงค์และไปหาวิธีการที่จะถึงเป้าหมาย ตามลำดับ ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ เครื่องมืออะไรบ้าง และวัดผลอย่างไร
2.) อดทน
ความสำเร็จไม่ใช่ครีมหน้าใส ที่จะสร้างได้ในข้ามคืน ขอให้ตระหนักเรื่องนี้ให้มาก เพราะคนส่วนใหญ่มักมีความคิดผิดๆว่า แค่เริ่มทำก็ควรจะเห็นผลเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นธุรกิจหน้าใหม่ เริ่มต้นคุณควรเผื่อใจไว้อดทนซัก 2-3 เดือนในการเซ็ตตัว อาจมีขาดทุนบ้าง ฝืดๆบ้าง แต่ช่วงนี้แหละคุณจะได้ข้อมูลที่ดีมากๆ ว่าอะไรที่เหมาะกับธุรกิจของคุณจริงๆ
3.) หมั่นอัพเดทข่าวสาร
ผลกระทบภายนอกเป็นปัจจัยที่ละเลยไม่ได้ บางครั้งมีโอกาสครั้งใหญ่ที่คุณสามารถใช้กับธุรกิจของคุณได้ แต่ก็พลาดมันไปด้วยข้ออ้างว่า “ไม่มีเวลา”
ลองดูนะครับ เผื่อเวลาอย่างน้อยซัก 15-30 นาทีต่อวัน อ่านข่าวสารภายนอกบ้าง บางทีคุณอาจได้ไอเดียใหม่ๆที่คาดไม่ถึงก็ได้
4.) ติดตาม และวัดผลอย่างต่อเนื่อง
การตลาดคือการลงทุน และการลงทุนย่อมต้องมีการวัดผลที่จับต้องได้ เรื่องนี้จะล้อไปกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ตั้งแต่ข้อแรกนะครับ ถ้ารู้ว่าเครื่องมือที่คุณใช้ไม่สามารถวัดผลได้ ต้องรีบประยุกต์เครื่องมือให้วัดได้ เช่น โฆษณานิตยสาร อาจต้องมีกิจกรรม หรือคูปอง เพื่อวัดการตอบรับหากโฆษณาในนิตยสารน่าสนใจจริงๆ
5.) สร้างทัศนคติที่ดี อย่าท้อ
ธุรกิจเป็นเรื่องของความเสี่ยง ย่อมมีคนสำเร็จและมีคนล้มเหลว แต่คุณจะเป็นคนล้มเหลวและยอมแพ้ หรือล้มเหลวแล้วเรียนรู้ เพื่อพัฒนาไปข้างหน้าอีก
คนประสบความสำเร็จต้องมีความเชื่อ ว่าเราสามารถทำมันได้ และเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัดสินใจ อย่าลังเล อย่ารีรอ หากมองเห็นโอกาสจงรีบคว้า
ขอขอบคุณ http://www.unicronet.com