หน้ากากแบบไหนป้องกันไวรัสโคโรนาได้ ?

คลายข้อสงสัยหน้ากากอนามัยแบบไหน ป้องกันไวรัสโคโรนาได้ ชาวเน็ต-หมอเรวัต ระบุหน้ากาก N95 ใช้ป้องกันได้แบบทูอินวันทั้งเชื้อโรคจากการไอจาม และฝุ่น PM2.5 นอกจากนี้ควรจะล้างมือด้วยน้ำสะอาด ทำความสะอาดด้วยเจล เพื่อป้องกันเชื้อโรค

ไทยพีบีเอสออนไลน์ เกาะติดกระแสคนบนโลกออนไลน์กับเรื่องราวการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน หลากหลายประเด็นที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ทำให้

แฮชแท็กคำว่า #ไวรัสโคโรโนา #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรโนาสายพันธุ์ใหม่ ติดเทรนด์แทบทุกวัน

มีทั้งเรื่องราวการให้ความรู้ และมาตรการป้องกัน การติดตามสถานการณ์ผู้ป๋วย และข่าวสารที่เกิดขึ้นจากทั่วโลก

หนึ่งในหลากหลายคำถามที่ชาวโซเชียลอยากรู้ คงหนีไม่พ้นการป้องกันตัวเองแบบง่ายๆ โดยเฉพาะหน้ากากแบบไหน ที่จะใส่ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาได้บ้าง ซึ่งหลายคนเริ่มแสวงหาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ ซึ่งพบว่าบางรุ่นที่มีสรรพคุณในการป้องกันเชื้อโรค เริ่มมีราคาแพงขึ้น และต้องสั่งซื้อทางออนไลน์

#ไวรัสโคโรน่า หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (surgical mask )ที่ด้านหนึ่งเป็นสีเขียวหรือฟ้า กันน้ำได้ จะช่วยป้องกันการแพร่ หรือรับเชื้อต่างๆจากไวรัส/แบคทีเรีย ที่มากับละอองน้ำลาย น้ำมูกซึ่งพุ่งกระจายออกมาในรัศมีวงกว้าง เวลาไอ จาม

วันที่ 28 ม.ค.2563 คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เผยแพร่คำแนะนำในการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โดยการใส่หน้ากากอนามัย ให้เอาด้านมีสี เช่น สีเขียว หรือสีฟ้า ของหน้ากากออกด้านนอก และเอาด้านที่มีขอบลวดขึ้นบน ต้องกดขอบลวดของหน้ากากให้แนบชิดกับสันจมูก หน้ากากอนามัยควรปิดตั้งแต่จมูก ปาก และคาง รวมถึงควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยอย่างสม่ำเสมอ โดยจับที่สายหน้ากากขณะถอดออก ไม่ควรจับที่บริเวณหน้ากาก

อย่างไรก็ตามนอกจากสวมหน้ากากอนามัยแล้วสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติตัวควบคู่กันคือ กินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือ และอย่าแคะจมูก ขยี้ตา หรือเอามือที่ยังไม่ได้ล้างไปสัมผัสใบหน้า

การสวมหน้ากากอนามัย แต่หลายคนยังสงสัยว่าใช้เพียงหน้ากากอนามัยธรรมดาจะเพียงพอหรือไม่ หรือต้องใช้หน้ากากแบบ N95 ชนิดป้องกันฝุ่น PM 2.5 นอกจากนี้มีคำถามถึงวิธีการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องด้วย ทีมข่าวพีพีทีวี จึงรวบรวมคำแนะนำจากสถาบันการแพทย์ชั้นนำของประเทศมาถ่ายทอดให้นำไปใช้อย่างถูกต้อง

สำหรับหน้ากาก แบบ N95 สามารถป้องกันการติดเชื้อโรคได้ 95% โดยเฉพาะโรคที่มากับอากาศ เช่น โรคหัด โรควัณโรค โดยแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยใกล้ชิดต้องใส่หน้ากาก N95 ซึ่งการใส่หน้ากากชนิดนี้ควรมีการทำ Fit Test โดยไม่มีลมรั่วเข้าด้านข้างแม้แต่น้อยเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันสูงสุด แล้วถ้าหาหน้ากากแบบ N95 ไม่ได้ก็สามารถใส่หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาได้ แม้จะป้องกันได้ไม่ดีเท่ากับ N95 แต่ก็ดีกว่าไม่ใส่เลย

ขอบขอบคุณ แหล่งข้อมูล

https://news.thaipbs.or.th/content/288325