หลักการใช้ Past Simple Tense
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่ เกิดขึ้นในอดีตและสิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งมักจะมีคำหรือวลีที่บ่งบอกถึงเวลาในอดีตในประโยคเสมอ
เช่น yesterday, last…, …
ago, once, this morning, when I was… และอื่นๆ เช่น
☆ I met a beautiful girl last night.
(ฉันเจอผู้หญิงสวยคนหนึ่งเมื่อคืนนี้)
2. ใช้แสดงถึงการกระทำที่เป็นนิสัยหรือเกิดขึ้นเป็นประจำในอดีต ซึ่งสิ้นสุดลงแล้ว โดยมักมี Adverbs of Frequency (กริยาวิเศษณ์แสดง
ความถี่)
อยู่ในประโยคด้วย เช่น often, always, sometimes และอื่นๆ ซึ่งมักจะมี Adverb of Time (กริยาวิเศษณ์แสดงเวลา)
ระบุถึงเวลาในอดีตด้วย
เช่น last month, last year และอื่นๆ เช่น
☆ I cooked every night last month.
(ฉันทำอาหารทุกคืนเมื่อเดือนที่แล้ว)
☆ He always cried when he was young.
(เขาร้องไห้เป็นประจำ ตอนเขายังเด็ก)
3. เราสามารถใช้ “used to + Verb 1” เพื่อให้ความหมายว่า “เคย” เพื่อแสดงถึงการกระทำในอดีตได้ เช่น
☆ I used to eat a lot.
(ฉันเคยกินเยอะมาก่อน)
☆ He used to be naughty.
(เขาเคยเป็นคนเกเรมาก่อน)
ยกตัวอย่างประโยค
- I saw him a few days ago
แปลว่า ฉันเห็นเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน
อธิบาย ถ้าสังเหตุจากประโยคนี้ เราไม่ใช้คำว่า see ที่เป็นกริยาปกติ แต่เราใช้ saw ที่เป็นช่อง2 ของ see เพื่อเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตว่า เห็นเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน
- She went to market last week.
แปลว่า เธอไปตลาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อธิบาย อย่างในประโยคนี้ เราไม่ใช้คำว่า go เพราะเป็นการพูดถึงอดีตที่ผ่านมาในสัปดาห์ที่แล้ว แต่เราใช้คำว่า went แทน ซึ่งเป็นกริยาช่องที่2 ของคำว่า go
ตาราง Irregular verbs กริยาเปลี่ยนรูปที่ใช้บ่อย
กริยา 3 ช่องมี 2 แบบอย่างที่เรารู้กัน ถ้าใครกำลังหาคำที่ใช้บ่อยเรียงตามลำดับ Top 10 คำ, Top 50 คำ ไปดูกันได้ ตามประเภทของคำกริยา 3 ช่อง ดังนี้เลย
กริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อย 10 คำ – Irregular Verbs (เปลี่ยนรูป)
ช่อง 1 | ช่อง 2 | ช่อง 3 | ความหมาย |
---|---|---|---|
Buy | bought | bought | ซื้อ |
Beget | begot | begot / begotten | ก่อให้เกิด |
Get | got | gotten | ได้ |
Send | sent | sent | ส่ง |
Read | read | read | อ่าน |
Take | took | taken | นำไป |
Forget | forgot | forgotten | ลืม |
Beat | beat | beat | ตี |
Eat | ate | eaten | กิน |
Write | wrote | written | เขียน |
กริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อย 10 คำ – Regular Verbs (เติม -ed)
ช่อง 1 | ช่อง 2 | ช่อง 3 | ความหมาย |
---|---|---|---|
Answer | answered | answered | ตอบ (คำถาม) รับ (โทรศัพท์) |
Arrive | arrived | arrived | มาถึง ไปถึง |
Attend | attended | attended | (เข้าร่วม) ประชุม |
Beg | begged | begged | ขอ |
Call | called | called | เรียก โทรหา |
Change | changed | changed | เปลี่ยน |
Clean | cleaned | cleaned | ทำความสะอาด |
Cook | cooked | cooked | ทำอาหาร |
Cry | cried | cried | ร้องไห้ |
Dance | danced | danced | เต้นรำ |
กริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อย 50 คำ – Irregular Verbs (เปลี่ยนรูป)
ช่อง 1 | ช่อง 2 | ช่อง 3 | ความหมาย |
---|---|---|---|
Be | was, were | been | เป็น,อยู่,คือ |
Be able | was able | been able | สามารถ |
Be down | were down | been down | อ่อนตัว |
Bear | bore | born | ทน |
Beat | beat | beat | ตี |
Beat up | beat | beaten | ซ้อม |
Become | became | become | กลายเป็น |
Beget | begot | begot / begotten | ก่อให้เกิด |
Begin | began | begun | เริ่ม |
Bend | bent | bent | หัก, งอ |
Beseech | besought | besought | วิงวอน |
Beset | beset | beset | โอบล้อมรอบด้าน |
Break | broke | broken | แตก, หัก |
Bring | brought | brought | นำมา |
Buy | bought | bought | ซื้อ |
Catch | caught | caught | จับ |
Come | came | come | มา |
Do | did | done | ทำ |
Drink | drank | drunk | ดื่ม |
Drive | drove | driven | ขับรถ |
Eat | ate | eaten | กิน |
Fall | fell | fallen | ล้ม |
Feel | felt | felt | รู้สึก |
Find | found | found | พบ |
Fly | flew | flown | บิน, นั่งเครื่องบิน |
Forget | forgot | forgotten | ลืม |
Get | got | gotten | ได้ |
Give | gave | given | ให้ |
Go | went | gone | ไป |
Have | had | had | มี |
Hear | heard | heard | ได้ยิน |
Know | knew | known | รู้จัก |
Learn | learned/learnt | learned/learnt | เรียน |
Leave | left | left | ออกจาก |
Lose | lost | lost | ทำหาย |
Make | made | made | ทำ |
Meet | met | met | พบ |
Read | read | read | อ่าน |
Ride | rode | ridden | ขี่ |
See | saw | seen | เห็น |
Sell | sold | sold | ขาย |
Send | sent | sent | ส่ง |
Sleep | slept | slept | นอน |
Spend | spent | spent | ใช้จ่าย |
String together | strung together | strung together | พูดรวมกัน |
Take | took | taken | นำไป |
Teach | taught | taught | สอน |
Tell | told | told | บอก |
Wear | wore | worn | สวม |
Write | wrote | written | เขียน |
กริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อย 50 คำ – Regular Verbs (เติม -ed)
ช่อง 1 | ช่อง 2 | ช่อง 3 | ความหมาย |
---|---|---|---|
Abandon | abandoned | abandoned | ละทิ้ง |
Abase | abased | abased | ลดตัว |
Abbreviate | abbreviated | abbreviated | ตัดทอน |
Abdicate | abdicated | abdicated | ทำให้ถอนตัว |
Aberrate | aberrated | aberrated | เถลไถล |
Abet | abetted | abetted | ให้กำลังใจ |
Abhor | abhorred | abhorred | เกลียด |
Abjure | abjured | abjured | สละ |
Answer | answered | answered | ตอบ (คำถาม) รับ (โทรศัพท) |
Arrive | arrived | arrived | มาถึง ไปถึง |
Attend | attended | attended | (เข้าร่วม) ประชุม |
Beg | begged | begged | ขอ |
Call | called | called | เรียก โทรหา |
Change | changed | changed | เปลี่ยน |
Clean | cleaned | cleaned | ทำความสะอาด |
Cook | cooked | cooked | ทำอาหาร |
Cry | cried | cried | ร้องไห้ |
Dance | danced | danced | เต้นรำ |
Deliver | deliverd | deliverd | ส่งถึงที่ |
Die | died | died | ตาย |
Drop | dropped | dropped | (น้ำ) หยด |
End | ended | ended | จบ |
Fix | fixed | fixed | ซ่อม |
Hate | hated | hated | เกลียด |
Help | helped | helped | ช่วย |
Kiss | kissed | kissed | จูบ |
Lift | lifted | lifted | ยก |
Listen | listened | listened | ฟัง |
Live | lived | lived | อาศัยอยู่ |
Look | looked | looked | มอง |
Love | loved | loved | รัก |
Move | moved | moved | ย้าย ขยับ |
Need | needed | needed | ต้องการ |
Paint | painted | painted | วาดภาพ ระบายสี |
Plan | planned | planned | วางแผน |
Play | played | played | เล่น |
Rain | rained | raind | ฝนตก |
Return | returned | returned | กลับคืน |
Serve | served | served | เสิร์ฟ |
Shop | shopped | shopped | จ่ายตลาด |
Smoke | smoked | smoked | สูบบุหรี่ |
Sneeze | sneezed | sneezed | จาม |
Snow | snowed | snowed | หิมะตก |
Stay | stayed | stayed | พักอาศัย |
Stop | stopped | stopped | หยุด |
Study | studied | studied | เรียน |
Talk | talked | talked | สนทนา |
Travel | travelled | travelled | ท่องเที่ยว |
Visit | visited | visited | เยี่ยม เที่ยว |
Wait | waited | waited | รอ |
การตั้งคำถามใน Past simple Tense
สำหรับการตั้งคำถามใน Past simple ที่เกี่ยวกับอดีตที่ผ่านมาแล้วนี้ เราจะใช้ Did สำหรับ Positive questions และ Didn’t สำหรับ Negative questions ตามด้วย Subject และ Verb infinitive (go, see, buy etc.) หรือกริยาที่เราใช้กันปกตินั่นเอง ไม่ต้องมีการเติม -ed หรือเปลี่ยนรูปใดๆทั้งสิ้น ตามโครงสร้างด้านล่างนี้
สรุป : Did / Didn’t + Subject + Verb infinitive (go, see, buy etc.)
โครงสร้างประโยคของการตั้งคำถามใน Past Simple Tense
ยกตัวอย่าง
- A: Did you enjoy the film last night?
B: I didn’t enjoy much. So, I went to the party instead.
A: หนังที่คุณดูเมื่อคืนสนุกไหม
B: ฉันไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ฉันก็เลยไปปาตี้แทน
อธิบาย ในประโยคคำถามที่นาย A ถามนั้น เมื่อพูดถึงอดีตหรือในกรณีนี้คือ เมื่อคืนที่ผ่านมา นาย A จะใช้ Did นำหน้าประโยค + Subject + Verb ปกติ เพราะ Did ได้เป็นอดีตไปแล้ว เราจะไม่ใช้ Verb ที่เป็นอดีตซ้ำนะครับ
- A: Didn’t you do anything at the weekend?
B: Yes, I didn’t do anything.
A: คุณไม่ได้ทำอะไรในวันหยุดเลยหรือ
B: ใช่แล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย
อธิบาย เมื่อนาย A ถามนาย B ว่า นายไม่ได้ทำอะไรในวันหยุดเลยใช่ไหมในวันหยุด แต่ในประโยคนี้มีการใช้ Didn’t แสดงว่า ต้องเป็นวันหยุดที่ผ่านมาแล้ว และตามโครงสร้างประโยคคือ Did/didn’t + Subject + ด้วย Verb Infinitive นั่นก็คือ do นั่นเอง เราไม่สามารถพูดว่า Didn’t you did อันนี้ผิดนะครับ ไม่สามารถใช้ได้
ประโยคปฏิเสธ หรือ Negative sentences ใน Past simple Tense
พูดถึงเรื่องประโยคปฏิเสธ ในประโยคชนิดนี้ จะเป็น Subject + didn’t + verb infinitive ตลอดเวลานะครับ
สรุป : Subject + didn’t + verb infinitive
โครงสร้างประโยคของ Negative sentence ใน Past simple Tense
ยกตัวอย่าง
- They didn’t invite her to the party, so she didn’t go.
แปลว่า พวกเขาไม่ได้ชวนเธอไปปาตี้ ดังนั้น เธอจึงไม่ได้ไป
อธิบาย ในประโยคนี้พูดถึงอดีตที่ผ่านมาแล้วและเป็น negative sentence หรือ ประโยคปฏิเสธ จึงใช้ didn’t และตามด้วยกริยาแบบธรรมดาก็คือ invite และ go นั่นเอง
- I called him but he didn’t answer me.
แปลว่า ฉันโทรหาเขา แต่เขาไม่ได้รับสายฉัน
อธิบาย ในประโยคนี้มีการใช้ Called ก่อน ซึ่งแสดงถึงอดีตที่ได้ทำไปแล้วคือการโทรหา แต่เขาไม่ได้รับสายฉันเป็น Negative เราเลยเติม didn’t ตามด้วย Verb ปกติ นั่นก็คือ answer นั่นเอง
โครงสร้าง ของ is / am / are
I |
am |
He / She / It / A cat |
is |
You / We / They / Cats |
are |
โครงสร้าง ของ Was / Were
I / He / She / It / A cat |
was |
You / We / They / Cats |
were |
การใช้ is am are
is am are จะใช้ใน present simple tense และ present continuous tense (ปัจจุบันกาล) และ is am are จะต้องใช้ให้สอดคล้องกับประธานของประโยค ดังนี้ ถ้าใช้ไม่ถูกตามนี้จะผิดหลักภาษาเขา
I |
am |
He, She, It, A cat |
is |
You, We, They, Cats |
are |
อดีตของ am/is/are
ถ้าในประโยคนั้นเป็น verb to be (am/is/are) เราจะใช้ was/were แทน
โครงสร้างของ อดีตของ am/is/are
ยกตัวอย่าง
- Was the weather good when you were on holiday?
แปลว่า อากาศวันนั้นดีใช่ไหม ตอนที่คุณพักผ่อนในวันหยุดของคุณ
อธิบาย ที่ต้องใช้ Was เพราะว่า กล่าวถึงอดีตที่ได้ผ่านมาแล้วตอนวันหยุดของเขา เราไม่สามารถใช้ Is the weather เพื่อพูดถึงอดีตได้ และ you ตามหลังด้วย were ซึ่งเป็นอดีตเช่นกัน ถ้าเราใช้ When you are on holiday อันนี้ผิดนะครับ
- They weren’t able to come because they were so tired.
แปลว่า พวกเขาไม่สามารถมาได้เพราะว่าพวกเขาเหนื่อยมาก
-ขอบคุณข้อมูล https://www.enghero.com/ และ https://www.engconvothailand.com/