การฝึกเป็นโปรแกรมเมอร์
เอาละครับสำหรับทุกคนที่ทนอ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงคิดแล้วว่ามันคุ้มค่าเหนื่อย หรือไม่ก็นั่งขี้อยู่อยากอ่านอะไรเพลินๆ แต่ไม่ว่าคุณจะอ่านบทความนี้เพราะอะไร ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการเรียนรู้พื้นฐาน
คิดโจทย์
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมถึงต้องมีซอฟแวร์ ก็เพราะคุณมีปัญหาครับ คุณมีความต้องการ คุณมีความ need อะไรซักอย่าง เช่น มีคนทำ lazada เพราะว่ามีคนต้องการขายของ มีคนทำแอพ line man เพราะว่ามีคนขี้เกียจไปซื้อของกินเอง มีคนทำ GRAP, Uber เพราะ Taxi มัน #@$%#$@^ เพราะฉะนั้นคุณลองคิดโจทย์ดูครับ ว่าคุณมีปัญหาอะไร อยากจะแก้ปัญหาอะไร
มีคนทำ lazada เพราะว่ามีคนต้องการขายของ มีคนแอพ lineman เพราะว่ามีคนขี้เกียจไปซื้อของกินเอง
ออกแบบ
หลังจากที่คุณคิดโจทย์ได้แล้ว ให้คุณลองวาดไอเดียของคุณลงในกระดาษ จดบันทึกความต้องการคุณว่าคุณต้องการจะทำอะไรบ้าง ออกแบบฐานข้อมูล ลองคิดฟังชันต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในระบบของเราดูว่าระบบของเราควรจะทำอะไรได้บ้าง ไม่ต้องห่วงไม่มีถูกไม่มีผิด ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไปแล้วใช้ไม่ได้ เพราะถ้ามันใช้ไม่ได้เราก็ออกแบบใหม่ เพิ่มนู่นแก้นี่คุณมีเวลา ทั้งชีวิตเพราะนี่คือการฝึก
การเลือกใช้ภาษา
หลังจากคุณออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลายคนน่าจะมีคำถามว่า แล้วเริ่มต้นหัดเขียนภาษาอะไรดีละผมบอกเลยว่าให้เริ่มจากภาษาที่คุณชอบ ให้เลือกจากภาษาที่คุณรู้สึกว่าเขียนแล้วสนุก เขียนแล้วมีความสุข เขียนแล้วเข้าใจมันครับ เพราะเราทำเพื่อหัด คุณไม่ต้องไปกังวลครับว่าจะหัดเขียนไปแล้วไม่มีประโยชน์ เพราะว่า
- โปรแกรมเมอร์ที่เก่งๆ นั้นไม่ยึดติดกับภาษาครับ แน่นอนว่าแต่ละคนจะมีภาษาที่ตัวเอง Pro ภาษาที่ชอบที่รักหนึ่งภาษา แต่ว่าถ้าให้ไปเขียนภาษาอื่นเขาก็สามารถเขียนได้ครับ
- ทุกภาษาเขียนโปรแกรมในโลกคล้ายๆ กันคือก็มี if – else, loop, ตัวแปร, ฟังชันคล้ายๆกัน ดังนั้นการที่เราสามารถเขียนภาษานึงจนเข้าใจวิธีคิดจนทะลุปรุโปร่งแล้วนั้น เราก็จะสามารถไปเขียนโปรแกรมภาษาอื่นได้ครับ แน่นอนว่าอาจจะต้องเปิด Google ไปด้วยแต่ทุกวันนี้มีโปรแกรมเมอร์คนไหนไม่เปิด Google ตอนทำงานบ้าง?
อย่ากลัว error
แน่นอนครับสิ่งที่โปรแกรมเมอร์มือใหม่กลัวที่สุดคือ error (ถ้ามือเก๋าจะกลัว prod issue 5555) ผลจากการกลัว error คืออะไร ไม่กล้า save
ครับ เขียนโปรแกรมสำหรับบางคนแล้วไม่กล้า save กล้ว compile พอเราไม่กล้า save ไม่กล้า compile ก็ทำให้เราไม่รู้ครับว่าเราทำไปถูกหรือเปล่า ผมบอกเลยครับ เวลาเจอ error ให้ยิ้มแล้วบอกว่าได้เวลาเก็บ exp แล้ว ยิ่ง error ยาก error ยาว error เยอะนี่ยิ่ง exp เยอะครับ ทุกครั้งที่เราจัดการ error ได้หนึ่งตัวเท่ากับเรา level up ไปอีกขั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอ error ที่แก้ไม่ได้เพราะทุกอย่างที่เราทำผมมั่นใจว่ามันมีคนเคยทำมาก่อนเคยเจอปัญหาเดียวกันมาก่อน
ตัวอย่าง สายโปรแกรมเมอร์
- Programmer
- Senior Programmer
- Application Developer
- ios Developer
- Android Developer
- Java Developer
- Front-end Developer
- Test Engineer
- E-Commerce Developer
- VB Developer
- PHP Programmer
- Software Tester
- Software Engineer
- Project Manager
-ขอบคุณข้อมูล https://jobschiangrai.com/