อัตราการเต้นของหัวใจเท่าไรถึงจะดี
โดยปกติแล้วในช่วงเวลาพักผ่อน หัวใจของคนเราจะมีอัตราการเต้นอยู่ที่ 72 ครั้งต่อนาที หรือประมาณ 60-80 ครั้งต่อนาที ส่วนในทารกและเด็กเล็กจะมีอัตราชีพจรอยู่ที่ 90-140 ครั้งต่อนาที แต่สำหรับนักกีฬาที่ถูกฝึกเป็นเวลานาน หรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำก็อาจจะมีอัตราการเต้นของหัวใจเพียง 30-50 ครั้งต่อนาที ซึ่งผู้ใหญ่ไม่ควรจะมีอัตราการเต้นของหัวใจเกิน 100 ครั้งต่อนาที เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่แสดงว่าคุณกำลังมีปัญหาสุขภาพ โดยมีการศึกษาในประเทศเดนมาร์กที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Heart ที่ทำการศึกษากับชายวัยกลางคนกว่า 3,000 คน เป็นเวลา 16 ปี พบว่าผู้ที่มีอัตราการเต้นมากกว่า 90 ครั้งต่อนาทีมีโอกาสที่จะเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่มีอัตราการเต้นของหัวใจช้ากว่าถึง 3 เท่า
วิธีการวัดชีพจร
ชีพจรคืออัตราที่หลอดเลือดหดและขยายตัวตามจังหวะการเต้นของหัวใจสามารถวัดได้หลายที่ในร่างกาย เช่น บริเวณข้อมือทางด้านนิ้วหัวแม่มือ ขมับ มุมกระดูกขากรรไกรล่าง ข้าง ๆคอ ข้อพับแขน ขาหนีบ บริเวณขาพับ และบนหลังเท้าทางนิ้วหัวแม่เท้า โดยเราสามารถสังเกตได้ว่าบริเวณนั้นใช่บริเวณที่วัดชีพจรได้หรือไม่จากการจับดู จะรู้สึกว่ามีเส้นหยุ่น ๆ แน่น ๆ ส่วนวิธีการจับชีพจรมีดังนี้
วางปลายนิ้วมือ 2 นิ้วได้แก่ นิ้วชี้กับนิ้วกลาง เบา ๆ ที่บริเวณเส้นชีพจร และไม่ควรใช้นิ้วหัวแม่มือ เพราะว่าชีพจรบริเวณนิ้วหัวแม่มือของเรานั้นเต้นแรง อาจจะทำให้เกิดความสับสนได้
นับจำนวนชีพจรที่จับได้ไปพร้อมกับการจับเวลาโดย วิธีการคำนวณชีพจรมี 3 วิธี ได้แก่
– การคำนวณแบบเร็ว ซึ่งจะนับจำนวนชีพจรที่เต้นภายในเวลา 10 วินาที แล้วคูณด้วย 6 ตัวอย่างเช่น ในเวลา 10 วินาที นับชีพจรได้ทั้งหมด 12 ครั้ง ให้นำมาคูณ 6 ก็จะได้เป็น 12 x 6 = 72 ครั้งต่อนาที
– การจับชีพจนแบบละเอียด แบบ 30 วินาที แล้วคูณด้วย 2 หรือ ตัวอย่างเช่น ในเวลา 30 วินาที นับชีพจรได้ 35 ครั้ง ให้นำมาคูณ 2 ก็จะได้เป็น 35 x 2 = 70 ครั้งต่อนาที
– การจับชีพจนแบบละเอียด แบบ 60 วินาที วิธีนี้สามารถนำจำนวนที่นับได้มาใช้ได้เลยโดยไม่ต้องคำนวณใด ๆ เพราะเป็นการจับชีพจรครบ 1 นาที
ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://health.kapook.com