ภาษาจีนในยุคปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่าเป็นภาษาที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว แต่ละคนต่างพากันเรียนภาษาจีนกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาหรือผู้ใหญ่วัยทำงาน เพราะอะไร จากสถิติในปัจจุบันมีคนที่ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาสื่อสารรวมทั้งภาษาแม่มากกว่า 1.3 พันล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากๆ ถือได้ว่าภาษาจีนกลายเป็นภาษาที่ผู้คนใช้มากที่สุดในโลกแซงหน้าภาษาอังกฤษไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย เห็นแบบนี้แล้ว ใครยังไม่เตรียมตัวเรียนภาษาจีนในยุคสมัยนี้ ถือว่าตกเทรนเป็นอย่างมาก
1. ภาษาจีนเพื่อธุรกิจการโรงแรม
ผู้เรียนจะได้เรียนรู้คำศัพท์ สำนวนภาษาจีน และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับงานบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม พนักงานในแผนกต่างๆ ของโรงแรม จะได้รับทักษะการสนทนา สื่อสารจากสถานการณ์จำลอง
2. ภาษาจีนเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว
ผู้เรียนจะได้เรียนรู้คำศัพท์ สำนวนภาษาจีน และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับงานบริการต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยว เช่น การสอบถามข้อมูล การจองตั๋งเครื่องบิน บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก อาหาร การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีทักษะการสนทนา การสื่อสาร โดยการฝึกฝนจากสถานการณ์จำลอง
3. ภาษาจีนเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจและการค้า
ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทักษะการใช้ภาษาจีนเพื่อติดต่อสื่อสารทางด้านธุรกิจในโอกาสต่างๆ โดยจะเน้นทักษะการสื่อสารระหว่างฝ่ายต่างๆ ในองค์กร และการสื่อสารระหว่างองค์กร การเจรจาทางธุรกิจ การสอบถามและการต่อรองราคา การสั่งสินค้า การกำหนดเงื่อนไขการส่งสินค้า และวิธีการชำระเงิน
4. ภาษาจีนเพื่องานโรงพยาบาล
ผู้เรียนจะได้เรียนรู้คำศัพท์ สำนวนภาษาจีนที่จำเป็นสำหรับงานภายในโรงพยาบาล ได้แก่ ศัพท์ทางการแพทย์ คำศัพท์เฉพาะของโรค การอธิบายลักษณะอาการเจ็บป่วยและวิธีการรักษาพยาบาล การใช้ภาษาจีนสื่อสารในแผนกลงทะเบียนผู้ป่วย แผนกจ่ายยา แผนกการเงิน รวมถึงทักษะการสนทนา สื่อสารระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการของโรงพยาบาล
5. ภาษาจีนสำหรับมัคคุเทศก์
ผู้เรียนจะได้เรียนรู้บทบาท หน้าที่และคุณลักษณะของมัคคุเทศก์ คำศัพท์ สำนวนภาษาจีนและความรู้เบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับงานมัคคุเทศก์ ได้แก่ เทคนิค และวิธีการนำเที่ยว ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ในภาคกลางของประเทศไทย ผู้เรียนจะได้รับการฝึกปฏิบัติเป็นมัคคุเทศก์ในสถานการณ์จำลอง
6. ภาษาจีนโลจิสติกส์
ผู้เรียนจะได้เรียนรู้คำศัพท์ สำนวนภาษาจีน เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เทคโนโลยีโลจิสติกส์ เงื่อนไขและเอกสารที่ต้องใช้ในธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ พิธีการศุลกากร การตลาด ภาษาจีนสำหรับชิปปิ้ง เป็นต้น
และ
7.ล่าม
อาชีพล่ามถือว่าเป็นอาชีพยอดฮิตเลยสำหรับการเรียนสายภาษา อาชีพนี้มีความเกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาอย่างตรงสายเป๊ะ เป็นอาชีพที่คอยแปลภาษาจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งให้เข้าใจ พูดได้ง่ายๆว่า ล่ามเป็นตัวกลางสำหรับการสื่อสารสำหรับคนที่ใช้ภาษาต่างกันนั่นเอง ซึ่งตัวล่ามเองนั้นต้องมีความเชี่ยวชาญในระดับของภาษาแม่ของตัวเองและภาษาปลายทางมากอยู่พอสมควร เพราะจะทำให้การแปลภาษานั้นมีความลื่นไหล และใช้คำได้อย่างถูกต้อง ไม่ผิดเพี้ยนจนเกิดความผิดพลาดนำมาซึ่งการทำให้สื่อสารกันไม่เข้าใจ หากผู้ใดต้องการอยากจะประกอบอาชีพล่ามภาษาจีนนั้น ต้องเพิ่มเติมความรู้ในเรื่องสำเนียงของภาษาจีนในแต่ละท้องถิ่นด้วย เพราะแต่ละพื้นที่ของจีนนั้น มีการใช้ภาษาและสำเนียงแตกต่างกัน
8.นักเขียนหรือแปลหนังสือ
การเป็นนักเขียนและนักแปลสำหรับภาษาจีนนั้น จำเป็นต้องใช้ทักษะการเขียนและการอ่านด้านภาษาจีนมากกว่าสายงานอื่นๆ เนื่องจากในสายอาชีพนี้ ต้องมีความแม่นยำและมีความละเอียดสูง ต้องมีศิลปะในการใช้ภาษา จึงเป็นที่มาของคำว่าศิลปศาสตร์ในชื่อปริญญาของสายการเรียนแขนงนี้ เพราะเทียบเท่าได้กับการเป็นจิตรกรที่สร้างสรรค์ผลงานต่างๆออกมา การเป็นนักเขียนหรือนักแปลก็เช่นกัน จำเป็นต้องมีศิลปะในตัวเองในการเขียนอย่างไร หรือแปลอย่างไรให้ผู้อ่านมีอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดตามที่คาดหวัง เช่น การเขียนหรือแปลนิยายสำหรับบางเรื่อง ก็ต้องมาคิดว่าจะใช้ภาษาอย่างไรให้ผู้อ่านได้พรรณนาถึงตัวละครหรือฉากที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ หรือการเขียนหรือแปลหนังสือด้านการตลาดก็ต้องสามารถทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้ เข้าใจง่าย และนำไปใช้ประโยชน์ได้ เป็นต้น
9.ติวเตอร์สอนภาษาจีน
ก่อนที่คนเราจะใช้ภาษาที่สามได้ ส่วนใหญ่พวกเขาเหล่านั้นได้ความรู้จากที่ไหน? นอกจากการทำการศึกษาด้วยตนเองหรือเรียนรู้ด้วยตนเองในต่างประเทศแล้ว พวกเขาก็เลือกที่จะเรียนกับติวเตอร์ทางด้านภาษายังไงล่ะ ติวเตอร์ภาษาจีนในยุคสมัยนี้เป็นอาชีพที่ฮิตเป็นอย่างมาก มองไปทางร้านกาแฟที่ไหนก็ล้วนมีแต่ติวสอนภาษาจีน เพราะแต่ละคนกำลังตื่นตัวกับภาษาจีนในยุคโลกาภิวัฒน์ สถาบันกวดวิชาต่างๆต่างพากันเปิดคอร์สภาษาจีนกันอย่างถ้วนหน้า พ่อแม่ของเด็กๆบางคนก็เลือกที่จะพาลูกไปเรียนภาษาไว้เป็นตัวช่วยทำมาหากินในอนาคต ดังนั้นแล้ว การเป็นติวเตอร์ภาษาจีนถือว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีเลยทีเดียว
10.พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
อาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือที่เรียกกันอย่างคุ้นหูว่าสจ๊วต แอร์โฮสเตท จัดว่าเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันของผู้ที่เรียนทางด้านภาษาอันดับ 1 เลยทีเดียว เพราะอาชีพนี้นั้น จำเป็นต้องใช้ความรู้ทางด้านภาษาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาษาต่างประเทศในการสื่อสารกับผู้โดยสารในเครื่องบิน หรือการใช้ภาษาสำหรับติดต่อสื้อสารภายในองค์กร แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องเพิ่มเติมเข้ามาสำหรับสายงานนี้คือ การมีจิตใจรักในงานบริการ เพราะการเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้น ต้องสามารถคอยบริการในเรื่องต่างๆแก่ลูกค้าของสายการบิน เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายจากสายการบินมากที่สุด ซึ่งอาจต้องพบเจอกับลูกค้าหลายรูปแบบ หรืออาจเจอเข้ากับสถานการณ์คับขัน ก็ต้องมีไหวพริบเพิ่มเข้ามาอีกหน่อยในการแก้ปัญหา แต่โดยรวมแล้ว
11. นักการทูต
อาชีพนักการทูตเป็นอาชีพที่มีขอบข่ายกว้างมาก ในอดีต บทบาทของนักการทูตส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเมือง และมีบทบาทหลักถึงขั้นเป็นตัวตัดสินความอยู่รอดของเอกราชและอธิปไตยของประเทศชาติ แต่ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ บทบาทของนักการทูตปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้ก้าวทันความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น และการที่นานาประเทศต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญขึ้นในนโยบายต่างประเทศ โดยเชื่อมโยงกับปัจจัยทางการเมืองและสังคมมากขึ้น
12.นักธุรกิจหรือนักการตลาดจีน
ในปัจจุบันถ้าถามว่าประกอบอาชีพอะไรได้ผลตอบแทนดีที่สุด แน่นอนว่าอาชีพนักธุรกิจหรือนักการตลาดต้องโผล่ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆอย่างแน่นอน หากยิ่งเป็นนักธุรกิจหรือการตลาดจีนนั้น ก็จะมีผลตอบแทนสูงขึ้นมาอีกเท่าตัวเลย เพราะอะไรนะหรือ? ก็เพราะตอนนี้ตลาดจีนเป็นหนึ่งในเป้าหมายตลาดที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มุ่งหวังนำสินค้าไปทำการตลาด ด้วยจำนวนประชากรและกำลังซื้อ ซึ่งตลาดจีนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะเห็นได้การนำเข้าหรือส่งออกสินค้าต่างๆ ก็จะเน้นการเจาะไปที่ตลาดจีนเป็นส่วนใหญ่
ขอขอบคุณ แหล่งข้อมูล https://www.millideas.net