อาหารที่ช่วยให้ตับทำงานดีขึ้น เพราะตับเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของ โดยตับทำหน้าที่ผลิตน้ำดี สะสมไกลโคเจน สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย กำจัดสารพิษต่าง ๆ เราควรเน้นทานอาหารที่ช่วยให้ตับทำงานดีขึ้น เช่น ขิง เป็นสมุนไพรมีฤทธิ์ในการต่อต้านการอักเสบดีมาก โดยมันจะสามารถช่วยตับในการกำจัดสารพิษที่ก่อตัวขึ้นในร่างกาย และยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดีขึ้น หรือสาหร่าย เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยในการทำงานของตับ และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระด้วย อีกทั้งยังช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย เน้นทานผักใบเขียว เพราะช่วยทำให้ตับสะอาด และเพิ่มกากในลำไส้ ทำให้ลดปัญหาท้องผูก และช่วยระบบขับถ่าย
1.ไม่ทานอาหารมัน
ด้วยภาวะเร่งรีบในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารฟาสฟู้ดจึงเป็นสิ่งที่หาซื้อทานง่าย แต่เราควรเน้นอาหารที่มาจากการต้ม แกง เท่านั้น เพราะอาหารทอดต่าง ๆ จะมีไขมันสูง หรือเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรี่สูง เพราะจะทำให้มีโอกาสเกิดภาวะไขมันพอกตับได้
2.พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อน ๆ ทราบไหมค่ะว่า เวลาช่วงไหนที่ตับทำงานดีที่สุดในร่างกาย คำตอบก็คือ ช่วงเวลา 22.00 – 02.00น. ถือเป็นช่วงเวลาที่ตับเริ่มจ่ายความร้อน ออกมาทำให้เลือดไม่เย็นและเกิดความหนืด จึงเป็นเวลาที่เราควรพักผ่อนนอนหลับ ไม่ควรทำกิจกรรมอื่น หลายท่าน นิยมทานอาหารมื้อดึกมากเป็นพิเศษ ต้องระวังในเรื่องของน้ำย่อยอาหาร และระบบย่อยอาหารที่จะส่งไขมันกลับไปพอกที่ตับ สะสมนานวันเข้าจะกลายเป็น “ไขมันพอกตับ” ในที่สุด
3. ลดความเครียด อารมณ์ดี และมีความสุข
เมื่อเกิดความเครียด ตับของเราก็จะทำงานผิดปกติทำให้ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล(Cortisol) หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนความเครียด สาเหตุทำให้ตับผลิตน้ำตาลกลูโคสมากขึ้น ซึ่งน้ำตาลชนิดนี้ให้พลังงานสูง แม้ว่าจะสามารถดูดซึมกลับได้ แต่มันก็เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานที่จะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่ควรเครียดเพราะส่งผลถึงตับโดยตรง อาจจะเป็นโรคตับได้
4.ห่างไกลเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่
การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับได้ การดื่มเหล้าก็สามารถทำลายตับทำให้ตับอักเสบได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ท้องว่างแล้วดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว จะไม่เพียงแต่ทำลายตับเท่านั้น แต่ยังส่งผลไม่ดีต่อร่างกายอีกมากมาย
5.รับประทานยาให้น้อยลง
ตับเป็นตัวกรองสารพิษ สิ่งใดที่เข้าร่างกายตับจะเป็นตัวบอกว่าสารนั้นมีพิษหรือไม่ ดังนั้นหลีกเลี่ยงหรือลดการทานยาโดยไม่จำเป็นก็ช่วยลดการทำลายตับ และยังช่วยลดการทำงานของไตได้อีกด้วย การทานอาหารครบ 5 หมู่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน สุขภาพแข็งแรง ช่วยลดการทานยาและปริมาณอาหารเสริมต่างๆ ได้
5.อย่าปล่อยให้ร้อนใน
บางครั้งร่างกายอ่อนเพลีย และร้อนใน แนะนำให้ทานยาสมุนไพร จะดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฟ้าทลายโจร ดื่มน้ำใบบัวบก เมื่อหายร้อนใน ควรหยุดทาน ไม่เช่นนั้น ร่างกายจะเย็นเกินไป
และสุดยอดอาหารบำรุงตับ มีอะไรบ้างมีอะไรบ้าง
- เนื้อสัตว์ แนะนำเป็นเนื้อสัตว์ที่มาจากธรรมชาติ ปรุงสุก สะอาด หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูปต่าง ๆ
- กาแฟ มีผลการวิจัยสรุปว่า สามารถช่วยให้ตับมีการทำงานที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเป็นตับแข็งได้ในระดับหนึ่ง และยังช่วยลดการที่เนื้อตับถูกทำลาย ในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับเรื้อรัง เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารแอนตี้ออกซิแดนท์ในร่างกาย และยังช่วยลดการอักเสบของตับได้เป็นอย่างดี
ข้อแนะนำในการทาน : ควรทานอย่างเหมาะสม ไม่เกินวันละ 1-2 แก้ว เช้าและเที่ยง กาแฟที่แนะนำให้ทาน คือ กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาลหรือนม - ชา แบบไม่ผสมนม ผสมน้ำตาล สามารถทานได้ทั้งชาจีน ชาดำ หรือชาเขียว โดยผลการวิจัยระบุว่าการทางชาเป็นประจำ จะทำให้ผลเลือดของตับดีขึ้น การที่ตับถูกทำลายน้อยลง
ข้อแนะนำในการทาน : ควรทานอย่างเหมาะสม วันละ 2-4 แก้ว แต่ไม่ควรทานทั้งชาและกาแฟในวันเดียวกัน - พืชตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ราสเบอร์รี่ สตอเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ กูสเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ เป็นต้น มีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่สูงมาก นอกจากบำรุงตับแล้ว ยังช่วยในการบำรุงสายตา และบำรุงสมอง ช่วยป้องกันความเสี่ยมของเซลล์ตับ และทำให้ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลดลง
- องุ่น และเมล็ดองุ่น หรือผลิตภัณฑ์จากองุ่นที่สกัดออกมาเป็นยา จะช่วยให้ตับทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยป้องกันการเสื่อมสลายของเซลล์ตับ เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยให้ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลดลง ทำให้ไขมันพอกตับ หรืออาการของตับอักเสบทุเลาลง หากทานในรูปแบบของผลไม้ ต้องทานอย่างเหมาะสม เนื่องจากองุ่นเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง
- ผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น มะเขือเทศ กล้วย ฝรั่ง นอกจากบำรุงตับแล้ว ยังมีช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย
- บล็อกโคลี่ เป็นผักที่มีดีท็อกซิฟิเคชั่นเอนไซม์ช่วยในการกำจัดสารพิษในร่างกาย ช่วยลดเซลล์ตับถูกทำลาย ผลของค่าตับดีขึ้น และเนื่องจากบล็อกโคลี่เป็นอาหารที่มีกากใย ก็จะช่วยเรื่องของระบบขับถ่าย และเป็นอาหารที่มีวิตามินที่ดีที่ร่างกายต้องการ
- ถั่ว หรือ ธัญพีช เช่น อัลมอนด์ ถั่วแดง ถั่วเขียว เมล็ดทานตะวัน เมล็ดพืชต่าง ๆ ถือเป็นไขมันดี โปรตีนชั้นดี และมีกากใยที่ดี ช่วยเอนโซม์ของตับ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ตัวตับโดนทำลายน้อยลง ไขมันพอกตับน้อยลง แต่ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป
- ปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล ซึ่งจะมีสารโอเมก้า3 เป็นไขมันดี ที่ช่วยลดการอักเสบต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยให้ค่าตับดีขึ้น
- น้ำมันมะกอก ถือเป็นอีกหนึ่งไขมันดี ช่วยให้ไขมันพอกตับลดลง การทำงานของอินซูลินในร่างกายดีขึ้น อัตราเสี่ยงโรคหัวใจลดลง ช่วยให้ค่าตับดีขึ้น
ข้อแนะนำในการทาน : วันละ 1-2 ช้อนชา ไม่ควรผัดหรือทอดโดยใช้ไฟแรง แนะนำให้ทานกับสลัด หรือใส่ในแกงจืด - ข้าวธัญพีชต่างๆ เช่น ข้าวฟ่าง ข้าวฟ่างสามง่าม ข้าวฟ่างหางหมา ลูกเดือย ข้าวโพดข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์ ข้าวทริทิเคลี และข้าวสาลี นอกจากจะช่วยเรื่องของน้ำหนักตัว ยังช่วยลดการเกิดไขมันพอกตับ และยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอีกด้วย
ชอบคุณข้อมูล https://www.rophekathailand.com/
และ https://www.thebangkokinsight.com/