สำหรับคนอยากเก่งคณิตศาสตร์เรียนที่บ้านได้ด้วยตัวเอง
หากเอ่ยถึงวิชาที่ยากและเกลียดเป็นอันดับต้น ๆ “วิชาคณิตศาสตร์” คือหนึ่งในนั้น แค่คิดถึงตัวเลขเยอะๆ ซึ่งมาพร้อมสูตรมากมาย ที่ชวนให้เบือนหน้าหนี แถมไม่เรียนก็ยิ่งไม่รู้เรื่อง เรียนไม่รู้เรื่องก็เลยพาลไม่อยากเรียน สุดท้ายกลายเป็นวิชาที่ถูกขึ้นบัญชีดำ แต่ทำใจเถอะ ถึงไม่ชอบวิชาเลขขนาดไหน สุดท้ายก็หนีไม่พ้นอยู่ดี เพราะถ้าในการสอบเข้าเพื่อเรียนต่อไม่ว่าจะระดับประถม มัธยม หรือมหาวิทยาลัย
1.
“คิด ถาม จด”
สำหรับกระบวนการ “คิด ถาม จด” ถือเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญที่สุด โดยสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ การตั้งใจเรียนในชั้นเรียน เพราะเราใช้เวลาการเรียนที่โรงเรียนวันละ 6-8 ชั่วโมง หากไม่ใช่เวลาส่วนนี้ให้เต็มที่ เราก็แทบไม่มีเวลาเหลือทบทวนหรือสร้างความเข้าใจในบทเรียนอีกเลย ดังนั้น ตั้งใจเรียนในชั้นเรียน และถามทันที เมื่อมีข้อสงสัย จากนั้น ลองคิดตามและลงมือจดตามความเข้าใจของตนเอง
2.
อย่าไม่มองข้ามนิยามต่าง ๆ ของวิชาเลข
เพราะ “นิยาม” ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญของวิชาคณิตศาสตร์ สูตรทุกสูตรไม่ว่าจะเป็นสูตรมาตรฐานหรือสูตรลัด ต่างคิดขึ้นมาจากนิยามทั้งนั้น หากรู้นิยามแล้ว แม้ไม่มีสูตรเราก็สามารถแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้
3.
อย่าเอาแต่ท่องจำ ต้องเข้าใจสูตรด้วย
อย่าเอาแต่ท่องจำ ต้องเข้าใจสูตรด้วย เพื่อเวลาที่เราไปเจอโจทย์ในข้อยาก ๆ จะได้นึกออกแล้วนำมาปรับใช้ได้อย่างถูกต้อง
อย่าเอาแต่ท่องจำ ต้องเข้าใจสูตรด้วย
หลายคนเรียนคณิตศาสตร์แล้วไม่เข้าใจ เพราะมัวแต่กังวลกับการท่องจำสูตร ซึ่งจริง ๆ แล้วเรื่องหลักที่ต้องให้ความสำคัญก่อนจะเริ่มจำสูตร คือ จะต้องเข้าใจว่า ทฤษฎีบทนี้ใช้เมื่อใด ใช้อย่างไร มีจุดห้ามหรือเงื่อนไขอะไรบ้าง แม้เราไม่อาจทำความเข้าใจสูตรทั้งหมดของคณิตศาสตร์ได้ แต่เราก็ควรที่จะเข้าใจและจดจำสูตรในขั้นพื้นฐานให้ได้บ้าง ? เพื่อเวลาที่เราไปเจอโจทย์ในข้อยาก ๆ จะได้นึกออกแล้วนำมาปรับใช้ได้อย่างถูกต้อง
4.
หมั่นฝึกทำโจทย์บ่อย ๆ
การฝึกทำโจทย์บ่อย ๆ นั้น สามารถใช้ได้ในชีวิตจริงและในวิชาเรียนทุก ๆ วิชา โดยเฉพาะวิชาทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ถ้าหมั่นฝึกฝนบ่อย ๆ จะทำให้สมองได้ฝึกคิดแก้ปัญหาโจทย์ และจำรูปแบบวิธีการแก้โจทย์ปัญหาลักษณะที่เคยทำได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อการสอบมาก เพราะเมื่อต้องลงสนามสอบคณิตศาสตร์จริง ๆ ถ้าเจอโจทย์ลักษณะที่เคยเห็นมาก่อนแล้ว ก็สามารถทำโจทย์ได้อย่างรวดเร็วมาก เราสามารถเอาเวลาที่เหลือไปทุ่มเทกับการแก้โจทย์ข้อที่ไม่เคยเจอมาก่อน
5.
รู้จักการปรับเปลี่ยนวิธีการแก้ไขโจทย์
หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า โจทย์แต่ละข้อนั้น มีวิธีการแก้โจทย์เพื่อหาคำตอบได้หลายวิธี ดังนั้น เวลาเจอโจทย์ลองดูให้ดี และค่อย ๆ คิด เราจะมองเห็นถึงวิธีการที่สามารถแก้โจทย์เลขข้อนั้นเอง แถมอาจจะได้เทคนิคใหม่ ๆ เป็นของตัวเองอีกด้วย
6.
ติวให้เพื่อน
การติวให้เพื่อน ถือเป็นการทบทวนความรู้ของเราอีกรอบ ก่อนนำไปสอบเพื่อน
ติวให้เพื่อน
การติวให้คนอื่น นอกจากจะเป็นการทบทวนความรู้ของเราอีกรอบแล้ว ในระหว่างเรียบเรียงเพื่อนำไปอธิบายให้เพื่อนเข้าใจ สมองของเรายังมีการพัฒนาปรับปรุงสิ่งที่เรียนรู้ไป ให้มีการจัดวางอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้เราเข้าใจความรู้เหล่านั้นลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก
7.
ลองเรียนคณิตศาสตร์ทางอินเทอร์เน็ต
ลองเรียนคณิตศาสตร์ทางอินเทอร์เน็ต อย่างช่อง Youtube หรือสมัครเรียนออนไลน์
ลองเรียนคณิตศาสตร์ทางอินเทอร์เน็ต
อย่างที่ทราบกันดีว่า โลกแห่งการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่ภายในห้องเรียนเท่านั้น ปัจจุบันเราสามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้จากอีกหลากหลายช่องทางผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ด้วยมีเว็บไซต์สำหรับเรียนวิชาคณิตศาสตร์มากมายทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายและฟรี ที่สามารถเรียนจากที่บ้านได้
8.
ปรับทัศนคติต่อวิชาเลขเสียใหม่
เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายคนไม่ประสบความสำเร็จกับการเรียนวิชาเลขเท่าไหร่ ก็เป็นเพราะทัศนคติแง่ลบ ตั้งแง่ตั้งแต่ต้นว่ายาก ไม่ชอบ ไม่รู้เรื่อง ทำให้การเปิดรับ เรียนรู้เป็นไปได้ยาก ดังนั้นต้องเริ่มจากทัศนคติที่ดีเสียก่อน เพราะความจริงแล้วคณิตศาสตร์ไม่ได้ยากอย่างที่คิดและคุณสามารถเรียนรู้ให้เก่งขึ้นได้เช่นเดียวกัน
ขอบคุณแหล้งข้อมูล math-ด้วยตัวเอง https://tueetor.com/