กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดส่งออกของไทยปี 61 แตะ 2.52 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8.09 ล้านล้านบาท ขยายตัว 6.7% และถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของมูลค่าส่งออกที่ไทยเคยทำได้ แม้จะพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 8% หลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ที่ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องจับตาต่อไปในปีนี้
หากไปดูตลาดส่งออกสำคัญของไทย พบว่า ตลาดหลัก 3 อันดับแรก ยังคงเป็นจีน ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้วยมูลค่าส่งออก 9.6 แสนล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาด 11.9% ตามมาด้วยตลาดสหรัฐอเมริกา ที่มีมูลค่าส่งออก 8.98 แสนล้านบาท หรือส่วนแบ่ง 11.1% ญี่ปุ่น มูลค่ส่งออก 7.9 แสนล้านบาท หรือส่วนแบ่ง 9.9% ส่วนเวียดนาม แซงฮ่องกง ขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ของตลาดส่งออกของไทย ด้วยมูลค่า 4.16 แสนล้านบาท หรือส่วนแบ่ง 5.1% ฮ่องกง ตกไปอยู่อันดับ 5 ด้วยมูลค่าส่งออก4 แสนล้านบาท หรือส่วนแบ่ง 5%
ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญของไทย รถยนต์ยังเป็นสินค้าหลักยอดนิยม ด้วยมูลค่าส่งออก 9.28 แสนล้านบาท โดยอัตราการขยายตัวเติบโตไม่มากเพียง 1.5% ตามมาด้วยคอมพิวเตอร์ ที่ยังส่งออกด้วยมูลค่า 6.33 แสนล้านบาท ขยายตัว 1.32% อัญมณี และเครื่องประดับ มีมูลค่าส่งออก 3.83 แสนล้านบาท หดตัวถึง 11.77% จากปีก่อนหน้า ผลิตภัณฑ์ยาง มีมูลค่าส่งออก 3.53 แสนล้านบาท ขยายตัว 1.91% เม็ดพลาสติก มีมูลค่าส่งออก 3.31 แสนล้านบาท ขยายตัวมากถึง 12.78%
ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ยังระบุว่าสินค้าสำคัญที่ขยายตัวได้ในตลาดสหรัฐ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ อัญมณี และเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ส่วนตลาดญี่ปุ่น สินค้าที่ขยายตัวดี คือ สินค้าที่มีมูลค่าและใช้เทคโนโลยีการผลิต เช่น โทรทัศน์และส่วนประกอบ รถยต์และส่วนประกอบ ส่วนตลาดสหภาพยุดรป สินค้าที่ขยายตัวได้ดี คืออัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ ตลาดจีน ที่สินค้าขยายตัวดีคือ เคมีภัณฑ์ และตลาดอาเซียน-5 สินค้าที่ขยายตัว คือเครื่องยนต์สันดาป อัญมณีและเครื่องประดับ
สำหรับการส่งออกปี 62 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายเติบโต 8% แต่ยอมรับว่ายังเผชิญความท้าทายจากความผันผวนและปัจจัยเสียงภายอกน ทั้งข้อพิพาททางการค้า เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญที่มีแนวโน้มชะลอลง ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ระดับต่ำ พร้อมเร่งหาตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพมาทดแทน เพื่อผลักดันการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมาย
แหล่งข้อมูล
https://www.efinancethai.com