Netflix เป็นผู้นำเนื้อหาดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 1997
Netflix คือผู้นำบริการสตรีมมิงความบันเทิงระดับโลกที่มีสมาชิกจ่ายเงินรับชม 183 ล้านคนในจำนวนกว่า 190 ประเทศ มีผู้ชมซีรีส์ สารคดี และภาพยนตร์หลากหลายแนวและในหลายภาษา
เขาเคยถูกปรับจากการคืนวิดีโอภาพยนตร์ล่าช้าเป็นเงิน 40 ดอลลาร์สหรัฐ (1,200 บาท) โดยเขาเช่าภาพยนตร์เรื่อง Apollo 13 จากร้าน Blockbuster ซึ่งเป็นร้านให้เช่าวิดีโอที่ใหญ่สุดในสหรัฐอเมริกา
ปี 1999 Netflix เปิดบริการให้เช่า DVD แบบเสียค่าสมาชิกรายเดือน
แต่แล้วฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ
ในปีต่อมา Netflix ก็ต้องเผชิญกับปัญหาด้านการเงินครั้งใหญ่จากวิกฤติฟองสบู่ดอตคอม
คุณ Reed น่าจะเห็นว่าการขายบริษัท น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าแข่งขันกับบริษัทที่ใหญ่กว่าตัวเอง
แต่ผู้บริหาร Blockbuster กลับปฏิเสธข้อเสนอนี้ โดยมองว่ามีมูลค่าแพงเกินไป..
นั่นทำให้คุณ Reed โกรธมาก และประกาศว่าจะโค่น Blockbuster ให้ได้
Blockbuster กังวลกับการเติบโตของ Netflix ผู้บริหารจึงจัดตั้งทีมงานพิเศษกลุ่มหนึ่งให้สร้างเว็บไซต์สำหรับแข่งกับ Netflix โดยเฉพาะ

ปี 2007 Netflix เปิดให้บริการ Online Streaming
คู่แข่งรายนั้นคือ HBO บริษัทลูกของ AT&T ผู้เป็นเจ้าของสตูดิโอ Warner Bros.
เริ่มแรกนั้น Netflix พยายามขอซื้อ Content ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ HBO มาฉายบน Platform ของตัวเอง แต่ถูก HBO ปฏิเสธ
เขาเคยถูกปรับจากการคืนวิดีโอภาพยนตร์ล่าช้าเป็นเงิน 40 ดอลลาร์สหรัฐ (1,200 บาท) โดยเขาเช่าภาพยนตร์เรื่อง Apollo 13 จากร้าน Blockbuster ซึ่งเป็นร้านให้เช่าวิดีโอที่ใหญ่สุดในสหรัฐอเมริกา
ปี 1999 Netflix เปิดบริการให้เช่า DVD แบบเสียค่าสมาชิกรายเดือน
แต่แล้วฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ
ในปีต่อมา Netflix ก็ต้องเผชิญกับปัญหาด้านการเงินครั้งใหญ่จากวิกฤติฟองสบู่ดอตคอม
คุณ Reed น่าจะเห็นว่าการขายบริษัท น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าแข่งขันกับบริษัทที่ใหญ่กว่าตัวเอง
แต่ผู้บริหาร Blockbuster กลับปฏิเสธข้อเสนอนี้ โดยมองว่ามีมูลค่าแพงเกินไป..
นั่นทำให้คุณ Reed โกรธมาก และประกาศว่าจะโค่น Blockbuster ให้ได้
Blockbuster กังวลกับการเติบโตของ Netflix ผู้บริหารจึงจัดตั้งทีมงานพิเศษกลุ่มหนึ่งให้สร้างเว็บไซต์สำหรับแข่งกับ Netflix โดยเฉพาะ

ปี 2007 Netflix เปิดให้บริการ Online Streaming
คู่แข่งรายนั้นคือ HBO บริษัทลูกของ AT&T ผู้เป็นเจ้าของสตูดิโอ Warner Bros.
เริ่มแรกนั้น Netflix พยายามขอซื้อ Content ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ HBO มาฉายบน Platform ของตัวเอง แต่ถูก HBO ปฏิเสธ
แต่จำนวนชั่วโมงที่ลูกค้ารับชม Original Content กลับอยู่ที่ 37%
ในขณะที่จำนวนชั่วโมงที่ลูกค้ารับชม Content ของบริษัทอื่นในแพลตฟอร์ม Netflix สูงถึง 63%
1. ซีรีส์ The Office เจ้าของคือ NBCUniversal
2. ซีรีส์ Friends เจ้าของคือ Warner Bros.
3. ซีรีส์ Grey’s Anatomy เจ้าของคือ ABC ซึ่งเป็นฟรีทีวีอันดับ 3 ในสหรัฐอเมริกา และเป็นบริษัทลูกของ Disney
ประวัติ Reed Hastings ผู้ก่อตั้ง Netflix ผู้ให้บริการ VDO Steaming Online ที่มียอดสมาชิกกว่า 100 ล้านคน
ผลงานความสำเร็จและรางวัลที่ได้รับ
Reed Hastings นอกจากจะเป็น CEO ของ Netflix แล้ว เขายังเป็นหนึ่งในกรรมการบอร์ดของบริษัท Microsoft ระหว่างปี 2007 – 2012 อีกทั้งยังเป็นกรรมการบอร์ดของ Facebook ตั้งแต่ 2011 มาจนถึงปัจจุบัน
โดยในปี 2014 เขาถูกเสนอชื่อให้เข้ารับรางวัล The Henry Crown Leadership Award ซึ่งรางวัลนี้ ในแต่ละปีจะมอบให้แก่ผู้ที่พิจารณาแล้วว่ามีผลงานเป็นที่โดดเด่น ประสบความสำเร็จอย่างสูงในหน้าที่การงาน ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมีมาตรฐานในการบริหารจัดการ ความมีเกียรติยศและศักดิ์ศรี ความมุมานะและขยันหมั่นเพียร มีจิตสำนึกรับผิดชอบและอุทิศตนเพื่อสังคม อันเป็นคุณลักษณะของ Reed Hastings ซึ่งสมควรแล้วที่เขาจะได้รับรางวัลนี้
ในส่วนชีวิตครอบครัวของ Hasting นั้น เขาได้แต่งงานกับ Patrician Ann Quillin มีลูกด้วยกัน 2 คน และในปี 2018 มีรายได้อยู่ที่ 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 1 แสนล้านบาท
ส่วนงานด้านการอุทิศตนเพื่อประโยชน์ของสังคม Hastings ได้อุทิศตนและสละเวลาเพื่อช่วยเหลืองานด้านการศึกษา โดยในปี 2006 เขาได้บริจาคเงินทุนประเดิมในการจัดตั้ง Beacon Education Network เพื่อเปิดโรงเรียนในความอุปถัมภ์ใน Santa Cruz County จำนวน 1 ล้านเหรียญฯ (หรือราว ๆ กว่า 30 ล้านบาท)
Reed Hastings (รีด เฮสติ้งส์) เศรษฐีอันดับ อันดับ 504 Reed Hastings
– ตำแหน่ง CEO & Co-Founder
– ธุรกิจที่สร้างชื่อเสียง Netflix
– จำนวนเงินรวม 1.2 แสนล้านบาท (4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
———————-
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
———————-
References
-https://www.forbes.com/sites/greatspeculations/2019/07/19/netflixs-original-content-strategy-is-failing/#2e67eeff3607
-https://brandriddle.com/netflix-history/
-https://www.insidehook.com/daily_brief/tv-home-theater/netflix-once-tried-to-buy-blockbuster-for-50-million