โลโกเครื่องหมายไลก์ (Like) ที่ด้านหน้าสำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊กในเมโล พาร์ค ( Melo Park) รัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกแทนที่ด้วยโลโกรูปทรงเครื่องหมายอินฟินิตี้สีน้ำเงิน หลังบริษัทประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “เมตา” มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฟซบุ๊ก ระบุว่า การเปลี่ยนชื่อเป็น “เมตา” ก็เพื่อเป็นการตอกย้ำเป้าหมายของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการสร้าง “ เมตาเวิร์ส” (metaverse)
Mark Zuckerberg ระบุว่าแรกเริ่ม Facebook เป็นแค่หน้าเว็บเท่านั้น แต่เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้เราถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ตอบแชทบนสมาร์ทโฟน ซึ่ง Facebook เองก็มีผลิตภัณฑ์อื่นทั้ง Instagram และ Whatsapp และในอนาคต Mark มองว่าเราจะเชื่อมต่อถึงกันแบบเสมือนจริงมากยิ่งขึ้น เช่น ผ่านโฮโลแกรมหรือแว่น AR หรือในรูปแบบที่ยังนึกไม่ถึง ดังนั้นบริษัทจึงไม่อยากผูกชื่อเอาเข้ากับผลิตภัณฑ์เดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ Mark บอกด้วยว่าโฟกัสหลักของบริษัท Meta จะไม่มี Facebook เป็นศูนย์กลางหรือเป็นโฟกัสหลักอีกต่อไป รวมถึงว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์หรือบริการหลังจากนี้ของ Meta ก็จะค่อยๆ ลดการใช้แอคเคาท์ Facebook ในการล็อกอินลงไปด้วย
Metaverse จึงเป็นอาจไม่ได้เป็นเพียงวิสัยทัศน์การเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ของบริษัท แต่เป็นโลกในอนาคตที่ Mark พยายามจะสร้างและทำให้มันเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา เหมือนกับที่เขาทำสำเร็จมาแล้วกับ Facebook
บริษัทจะให้ความสำคัญกับ เมทาเวิร์ส (Metaverse) เป็นลำดับแรก
พร้อมกับได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ เช่น แว่น AR , oculus รุ่น high end และการให้บริการ VR ที่กำลังพัฒนาในอนาคต ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในช่วง 5 ปีข้างหน้าด้วย
สำหรับ เมทาเวิร์ส (metaverse) คือ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality-VR) ในแบบที่ล้ำสมัยขึ้นไปอีก
บางคนอาจคิดว่า เมทาเวิร์ส คือ อนาคตแห่งโลกอินเตอร์เน็ต อาจจะเหมือนกับสมาร์ทโฟนในยุคสมัยใหม่เปรียบเทียบกับโทรศัพท์มือถือในยุคทศวรรษ 1980 แทนที่จะอยู่ในคอมพิวเตอร์
ขอบคุณข้อมูล https://brandinside.asia/