acebook Account ทั้ง 4 ประเภทนี้นะครับ หลายคนยังมีความเข้าใจผิดกันอยู่ วันนี้ผมอยากจะมาอธิบายทั้ง 4 แบบ และก็หวังว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับทุกท่านไปบริหารจัดการตัวเพจ ตัว Account โฆษณา แล้วก็ตัว Account ที่เราจะใช้ในการทำเกี่ยวกับธุรกิจโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะบน Facebook อย่างเข้าใจ และไม่ติดขัด สามารถบริหารจัดการร่วมกับทีมงานหรือว่า Agency หรือว่า Partner ขอท่านได้ด้วย
4 ประเภทนี้มีอะไรบ้าง
- Facebook Profile หรือว่า เพจสำหรับบุคคล
- Facebook Fanpage หรือว่า เพจสำหรับธุรกิจ
- Facebook Ad Account หรือว่า บัญชีสำหรับทำโฆษณา
- Facebook Business Manager หรือว่า บัญชีสำหรับจัดการตัวธุรกิจ
4 ตัวนี้มันต่างกันยังไง
- Facebook Profile หรือว่า เพจสำหรับบุคคล เพจสำหรับบุคคลพูดง่ายๆ ก็คือโปรไฟล์ที่เราใช้เป็นส่วนตัวของเรา ลักษณะที่สำคัญของ Facebook ส่วนตัว ก็คือสามารถ Add friend กันได้ และในขณะเดียวกันเราก็สามารถไป Follow บุคคลคนนั้นที่เขาอาจจะมีโควต้าที่จะรับเราเป็นเพื่อน เช่น สมมุติเราอาจอยากไปติดตามนักธุรกิจ หรือนักการตลาดสักคนนึงแต่ว่าเนื่องจาก Facebook โปรไฟล์มันสามารถแอดเฟรนได้สูงสุดแค่ 5,000 คนเท่านั้น
- Facebook Fanpage หรือว่า เพจสำหรับธุรกิจ ใช้สำหรับในการสร้างเป็นตัวตนบนโลกโซียลมีเดียของธุรกิจของเรา เช่น เรามีร้านอาหารญี่ปุ่ญ เรามีร้านตัดผม เรามีร้านเสริมสวย เรามีธุรกิจ เรามีสินค้า เรามีแบรนด์ เรามีตัวตนของเราที่เราอยากจะเอาตัวตนของที่เราจะเอาตัวเองมาเป็นแบรนด์ เราก็จะไปเปิด Facebook Fanpage ซึ่งลักษณะของ Facebook Fanpage ทุกๆ ฟังก์ชั่นของมันก็จะเอื้อกับการทำธุรกิจ เช่น มีเรื่องของการกำหนดโลเคชั่นของธุรกิจของเรา คนอื่นสามารถมาเช็คอินในตัวธุรกิจของเราในบริเวณโลเคชั่นของเราได้ คนอื่นสามารถที่จะมารีวิวของเรา ให้คะแนนความพึงพอใจ ให้ดาวที่ Facebook Fanpage ของเราได้ เราสามารถจะ Add ร้านค้าหรือว่า Shop ลงไปใน Facebook Fanpage ซึ่งใน Shop เราสามารถ Add สินค้าลงไปเป็นแคตตาล็อก เป็นหมวดหมู่ได้ เช่น เป็นหมวดกระเป๋า หมวดตุ่มหู หมวดกางเกง หมวดกระโปรง สามารถจัดหมวดได้ และจะสามารถใส่ภาพ วิดีโอ ข้อความ สำหรับอธิบายได้ สามารถทำเป็นกึ่งๆ Ecommerce Website บน Facebook Fanpage ของเราได้เลย
- Facebook Ad Account หรือว่า บัญชีสำหรับทำโฆษณา แปลว่า หลายๆท่านที่เป็นมือใหม่ในการยิงโฆษณาบน Facebook ชอบกดที่หน้า Fanpage ที่มันขึ้นมาให้กด Boot แล้วก็กดต้องนั้นเลย จะบอกว่าการยิงโฆษณาตรงนั้นเราจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์โฆษณาที่เหมือนกับบัญชีสำหรับทำโฆษณาโดยเฉพาะ ก็คือ Facebook Ad Account เราจะใช้อะไรไม่ได้หลายตัวด้วยกัน ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการสร้างยอดขาย และสร้างแบรนด์ Awareness ซึ่งมีผลอย่างยิ่งสำหรับการทำการตลาดบน Facebook ดังนั้นสำหรับใครที่คิดจะทำ จะหากินกับช่องทางบน Facebook อย่างจริงจัง แนะนำให้ใช่ Facebook Ad Account เรียนรู้ให้เข้าใจ เราจะได้สามารถรีดประสิทธิภาพสูงสุดการทำโฆษณา Facebook ออกมาได้ พยายามค่อยๆ ศึกษา และหลีกเหลี่ยงการยิงโฆษณาที่หน้า Fanpage
- Facebook Business Manager หรือว่า บัญชีสำหรับจัดการตัวธุรกิจ จริงๆ แล้วมันเกิดขึ้นมาเพื่อ Support Agency หมายความว่า Facebook Business Manager จริงๆ แล้วสมมุติ Agency ใช้ ผมจะมีลูกค้าของผมเป็นหลายร้อย หลายพันเจ้าอยู่ในบัญชีของผม ทีนี้คุณก็ลองคิดภาพดูถ้าผมเป็นคนธรรมดา ผมจะลำบากขนาดไหน ถ้าผมต้องเข้าๆ ออกๆ บัญชีของลูกค้าพันเจ้า ร้อยเจ้าต่อวัน เพื่อเข้าไปจัดการดูแล เพื่อไปดูรีพอต เพื่อไปดูสถิติอะไรต่างๆ คำตอบก็คือมันคงจะวุ่นวายมากเลย ที่นี้มันก็เลยมี Business Manager ขึ้นมา Business Manager เวลาเข้าก็เข้าที่ Facebook Business Manager สามารถที่จะเอา Facebook Profile, Facebook Fanpage, Facebook Ad Account กี่อันก็ได้ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองกับ Facebook ที่เขาดูแล Agency ก็แปลว่าถ้าเข้า Facebook Business Manager อันเดียวก็สามารถดู Profile , Fanpage, Ad Account ของหลายๆ คน และสามารถที่จะจัดการได้ว่าคนนี้ให้ดูได้เฉพาะ Fanpage 1,2,3 คนนี้ให้ดู Ad Account 2,3,4 สามารถเอาคนเข้าออกได้ตลอดเวลา สามารถเอา Fanpage เข้า Fanpage ออก สามารถเอา Ad Account ออกได้ตลอดเวลา สรุป Facebook Business Manager เหมาะกับคนที่ต้องดูแล Fanpage มากกว่า 1 Fanpage ก็คือ 2 Fanpage ขึ้นไป และก็ดูแล Ad Account ตั้งแต่ 2 Ad Account ขึ้นไป ควรจะสมัคแบบ Business Manager
ขอบคุณแหล่งข้อมูล http://www.pakorn.in.th