GDP คือ อะไร?
GDP ย่อมาจาก Gross Domestic Product หรือแปลเป็นไทยว่าผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ แปลจากไทยเป็นไทยอีกที คือ การที่นับรายได้ที่เกิดขึ้นจากในประเทศเท่านั้น ไม่ว่าจะสัญชาติใดก็ตาม
GDP หมายถึง มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ BOT จะประมาณการล่วงหน้า และจะทยอยประกาศออกมาให้ประชาชนทั่วไปทราบเป็นรายไตรมาส สามารถเขียนเป็นสมการได้ดังนี้ Y = C + I + G + (X – M) แต่ละตัวมีความหมาย
ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
C = Consumption คือ การบริโภคของภาคเอกชนและประชาชน เป็นการจับจ่ายใช้สอยทั่วไป เช่น ค่าอาหาร สาธาณูปโภค เป็นต้น
I = Investment คือ การลงทุนของภาคเอกชน ในการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ถนนทางเดิน รถไฟฟ้า ฯลฯ
G = Government Spending คือ การใช้จ่ายของรัฐบาล หรือ การลงทุนภาครัฐ ตามนโยบายต่างๆ
X = Export คือ การส่งออก (ขายสินค้าให้กับต่างประเทศ)
M = Import คือ การนำเข้า (รับสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย)
มีสมการด้วยนะ
GDP = C+I+G+(X-M)
C = Consumption หรือการบริโภคของบริษัทและประชาชนทั่วไป โดยดัชนี CPI หรือ Consumer Price Index เป็นตัวชี้วัดประกอบด้วย
I = Investment หรือการลงทุนจากภาคเอกชนในการทำกิจกรรมต่างๆในระบบเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ภาคอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมการเษตร เป็นต้น โดยมีดัชนี MPI หรือ Manufacturing Production Index เป็นตัวชี้วัด
G = Government Spending หรือค่าใช้จ่ายของรัฐบาล/การลงทุนภาครัฐ เช่น การดำเนินนโยบายต่างๆทางด้านคมนาคม เงินเดือนของข้าราชการ แต่ไม่รวมสวัสดิการสังคมนะครับ
X – M = Export ลบด้วย Import คือจะต้องตัวเลขการส่งออกลบด้วยการนำเข้าถึงจะเห็นอัตราการบริโภคสุดท้ายที่แท้จริง
GDP มีการเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ระบบเศรษฐกิจต้องมีการหมุนเเวียนของรายได้และรายจ่ายของภาคครัวเรือน, ภาคธุรกิจ, ภาครัฐทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งหมายความถึงการที่ประชาชนมีงานทำมีรายได้นำมาใช้จ่ายในตลาดสินค้าและบริการ, จ่ายภาษีให้ภาครัฐ, หากมีเงินเหลือก็ออมในสถาบันการเงินหรือลงทุนในธุรกิจ,ตลาดหลักทรัพย์, ซื้อหุ้นและกองทุนต่างๆ ภาคธุรกิจมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการโดยการนำเงินลงทุนจากสถาบันการเงินมาผลิตสินค้าและบริการ จ่ายดอกเบี้ย จ่ายค่าแรงจ่ายตลาดปัจจัยการผลิต อีกทั้งจ่ายภาษีรายได้/มูลค่าเพิ่มให้แก่ภาครัฐ ขณะที่ภาครัฐมีรายได้จากภาษีต่างๆ รัฐจะนำมาใช้จ่ายในการสร้างสาธารณูปโภค, การสนับสนุนการส่งเสริมการควบคุมให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจทำการสร้างรายได้เป็น “รายได้ประชาชาติ” และสามารถวัดเป็น “ผลผลิตมวลรวมของประชาชาติ” หรือกล่าวง่ายๆว่า GDP Gross Domestic Product ซึ่งเป็นตัวเลขที่รวบรวมมาจากผลผลิตของภาคครัวเรือน ภาครัฐและภาคธุรกิจทั้งประเทศ แน่นอนมันเป็นการวัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆด้วย
GDP สำคัญต่อนักลงทุนอย่างไร?
เมื่อตัวเลข GDP Gross Domestic Product ติดลบ เป็นการบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศนั้นหยุดชะงัก ชะลอตัว หรือไม่เป็นไปตามที่ธนาคารกลางประมาณการ นั้นอาจหมายรวมถึงการจ้างงานอาจจะต่ำกว่าคาด การลงทุนภาคอุตสาหกรรมลดลง แม้กระทั่งการบริโภคของประชาชนลดลง ตัวเลข GDP ที่ติดลบนี้ จะทำให้นักลงทุนเกิดการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินไปลงทุนในตลาดหรือระบบเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพมากกว่า สิ่งที่ตามมาเมื่อระบบเศรษฐกิจขาดสภาพคล่องทำให้รัฐจะต้องนำงบประมาณส่วนหนึ่งมาพยุงเศรษฐกิจเอาไว้ ทำให้ตราชั่งงบประมาณเกิดโน้มเอียงไปทางหนึ่ง เช่น ภาคเกษตรตกต่ำ รัฐต้องเข้าไปแทรกแซงราคาเพื่อให้ภาคเกษตรอยู่รอด แต่ภาคการผลิตต้องมีกำไรจากการขายลดลงเนื่องจากเกิดการควบคุมราคาจากภาครัฐ จากกำไรที่ภาคเอกชนเคยได้ที่ลดลง ส่งผลให้ต้องมีการลดการผลิตลงตามผลตอบแทนที่ได้รับ โดยการลดการจ้างงาน จนทำให้เกิดการว่างงานในระบบ เมื่อมีการว่างงานเกิดขึ้น ประชาชนก็จะลดการใช้จ่ายในการบริโภค เป็นต้น แต่หาก GDP เป็นบวกหรือเท่ากับประมาณการเอาไว้ แน่นอนเศรษฐกิจจะดึงดูดเม็ดเงินของนักลงทุนเข้ามาเพิ่มแต่เช่นกัน ก็ต้องระวังเรื่องของอัตราเงินเฟ้อด้วย เพราะจะทำให้ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น เมื่อสินค้าแพงประชาชนก็จะระวังในการจ่าย เช่นกัน
ค่า GDP เป็นบวก / เป็นลบ
ถ้าค่า GDP เป็นบวก แสดงถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการเติบโตขึ้น มีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น แต่สิ่งที่อาจตามมาได้ คือ อัตราเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นได้เช่นกัน เพราะเมื่อคนมีความต้องการซื้อกันมากขึ้น สามารถดันให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นมาได้
ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพ
เวลาที่ยี่ห้อโทรศัพท์มือถือดังๆ ประกาศว่าจะมีรุ่นใหม่ออกมา สื่อออนไลน์ต่างๆ จะพร้อมใจกันออกข่าวเกี่ยวกับโทรศัพท์รุ่นนี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับคนอ่านที่สนใจ และในวันที่ประกาศขายเป็นวันแรก คนจำนวนมากอาจจะแห่กันไปซื้อ จนต้องต่อคิวกันเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นช่วงที่สามารถตั้งราคาสูงได้ เพราะรู้ว่ามีคนต้องการซื้อแน่นอน
ถ้าค่า GDP เป็นลบ แสดงถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวเลง มีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศลดลง เกิดจากกอะไร ขอกลับไปที่ตัวอย่างโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังอีกครั้งค่ะ
ในจังหวะที่โทรศัพท์มือถือรุ่นนั้นเป็นที่ต้องการมาก คนก็จะแห่กันไปต่อแถวซื้อ เพราะอยากได้กลับมาครอบครอง แต่ในโลกความเป็นจริง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีอยู่อย่างจำกัด คนที่ต้องการโทรศัพท์รุ่นนี้ก็มีจำกัดเช่นกัน ดังนั้นพอเลยจุดพีคไป จำนวนคนที่จะซื้อโทรศัพท์รุ่นนี้ก็จะค่อยๆ ลดลงไป รวมถึงราคาสินค้าก็จะลดลงด้วยเช่นกัน
หากเพื่อนๆ สนใจอยากรู้ว่า GDP ของแต่ละประเทศ รวมถึงของไทยในที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://tradingeconomics.com/country-list/gdp-annual-growth-
และ https://www.finnomena.com/getwealthsoon/what-is-gdp