รู้ไหมว่า Sea Group บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ ก่อตั้งมาได้เพียง 11 ปี
แต่ตอนนี้บริษัทมีมูลค่าถึง 755,800 ล้านบาท
แต่ตอนนี้บริษัทมีมูลค่าถึง 755,800 ล้านบาท
และจากการจัดอันดับความมั่งคั่งของ Forbes
ผู้ก่อตั้งบริษัท คุณ “Forrest Li” รวยเป็นอันดับที่ 13 ของสิงคโปร์
ด้วยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 81,400 ล้านบาท
ก็คือ เขาใช้เวลาเพียง 11 ปี ในการไต่เต้าจากคนธรรมดา มาเป็นเศรษฐีแนวหน้าของประเทศสิงคโปร์..
ผู้ก่อตั้งบริษัท คุณ “Forrest Li” รวยเป็นอันดับที่ 13 ของสิงคโปร์
ด้วยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 81,400 ล้านบาท
ก็คือ เขาใช้เวลาเพียง 11 ปี ในการไต่เต้าจากคนธรรมดา มาเป็นเศรษฐีแนวหน้าของประเทศสิงคโปร์..
แล้ว Sea Group ทำธุรกิจอะไรบ้าง ?
บริษัทดำเนิน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่
-Garena ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ ทั้งบนมือถือและ PC
ตัวอย่างเกมเช่น League of Legends, FIFA Online 4, Point Blank, Blade & Soul และ Arena of Valor (ROV)
-Garena ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ ทั้งบนมือถือและ PC
ตัวอย่างเกมเช่น League of Legends, FIFA Online 4, Point Blank, Blade & Soul และ Arena of Valor (ROV)
-Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
-SeaMoney ให้บริการทางการเงินออนไลน์ ทั้งบริการ E-Wallet, การชำระเงิน, สินเชื่อไมโครไฟแนนซ์
และบริการการเงินดิจิทัลอื่นๆ
ภายใต้แบรนด์ AirPay, ShopeePay, Shopee PayLater และแบรนด์อื่นๆ
และบริการการเงินดิจิทัลอื่นๆ
ภายใต้แบรนด์ AirPay, ShopeePay, Shopee PayLater และแบรนด์อื่นๆ
โดยผู้ก่อตั้งบริษัท คุณ Forrest Li เกิดที่ประเทศจีน ในครอบครัวข้าราชการ
เขาจบการศึกษาด้านวิศวกรรมจาก Shanghai Jiao Tong University
เขาจบการศึกษาด้านวิศวกรรมจาก Shanghai Jiao Tong University
ส่วนตัวคุณ Forrest Li เป็นคนหลงใหลในเกมอย่างมาก
โดยเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
โดยเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
หลังจากเขาจบการศึกษา ก็ได้มาทำงานที่บริษัท Motorola ประเทศจีน
แต่พอทำงานได้สักพัก เขาก็เริ่มคิดว่าการทำงานประจำ ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
แต่พอทำงานได้สักพัก เขาก็เริ่มคิดว่าการทำงานประจำ ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
เขาเคยคิดเล่นๆ ว่า “ถ้าทำงานไปอีก 5 ปี ประวัติการทำงานในเรซูเมของเขาจะมีหน้าตาเป็นยังไง
ซึ่งมันต้องน่าเบื่อมากแน่ๆ”
ซึ่งมันต้องน่าเบื่อมากแน่ๆ”
ประจวบกับช่วงนั้นเศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวอย่างมาก
มองไปทางไหนก็มีแต่ผู้คนทำธุรกิจ และลงทุนกัน
มองไปทางไหนก็มีแต่ผู้คนทำธุรกิจ และลงทุนกัน
คุณ Forrest Li เคยกล่าวไว้ว่า สุนทรพจน์ของสตีฟ จอบส์
ได้สร้างแรงบรรดาลใจอย่างมากให้กับเขา
ถึงขนาดที่เขาต้องกลับมาเปิดฟังจากใน YouTube ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ได้สร้างแรงบรรดาลใจอย่างมากให้กับเขา
ถึงขนาดที่เขาต้องกลับมาเปิดฟังจากใน YouTube ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และมันก็เป็นสิ่งที่ผลักดันเขา ให้กล้าทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่..
เมื่อจบการศึกษาจาก Stanford
คุณ Forrest Li ก็ตัดสินใจเดินทางมาสิงคโปร์ และปักหลักชีวิตอยู่ที่นั่น
คุณ Forrest Li ก็ตัดสินใจเดินทางมาสิงคโปร์ และปักหลักชีวิตอยู่ที่นั่น
และปี ค.ศ. 2009 ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของสตาร์ตอัปด้านเกมออนไลน์ชื่อดังอย่าง Garena
โดยเขาเอาความชอบส่วนตัวมาต่อยอดสร้างเป็นธุรกิจ
โดยเขาเอาความชอบส่วนตัวมาต่อยอดสร้างเป็นธุรกิจ
เมื่อธุรกิจเกมออนไลน์เริ่มเติบโตได้ที่
ต่อมาเขาก็ได้ขยายไลน์ธุรกิจ ไปสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและบริการชำระเงินออนไลน์
ต่อมาเขาก็ได้ขยายไลน์ธุรกิจ ไปสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและบริการชำระเงินออนไลน์
และเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก “Garena” มาเป็น “Sea Group”
เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้สื่อว่า บริษัทไม่ได้ทำธุรกิจเกมเพียงอย่างเดียว
เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้สื่อว่า บริษัทไม่ได้ทำธุรกิจเกมเพียงอย่างเดียว
ลองมาดูผลประกอบการของ Sea Group
ปี 2017 มีรายได้ 13,493 ล้านบาท ขาดทุน 18,259 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 26,941 ล้านบาท ขาดทุน 31,315 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 70,868 ล้านบาท ขาดทุน 47,654 ล้านบาท
ปี 2017 มีรายได้ 13,493 ล้านบาท ขาดทุน 18,259 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 26,941 ล้านบาท ขาดทุน 31,315 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 70,868 ล้านบาท ขาดทุน 47,654 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น
-สื่อบันเทิงดิจิทัล เช่น ขายสินค้าในเกม และการโฆษณา คิดเป็น 52%
-อีคอมเมิร์ซและบริการอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมในการขนส่งสินค้า, ค่าโฆษณาขายสินค้า และบริการทางการเงิน คิดเป็น 38%
-ขายสินค้า เช่น สินค้าที่บริษัทขายเองบนแพลตฟอร์ม คิดเป็น 10%
-สื่อบันเทิงดิจิทัล เช่น ขายสินค้าในเกม และการโฆษณา คิดเป็น 52%
-อีคอมเมิร์ซและบริการอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมในการขนส่งสินค้า, ค่าโฆษณาขายสินค้า และบริการทางการเงิน คิดเป็น 38%
-ขายสินค้า เช่น สินค้าที่บริษัทขายเองบนแพลตฟอร์ม คิดเป็น 10%
จะเห็นได้ว่า แม้รายได้ของบริษัทจะเติบโตแบบติดจรวดทุกปี
แต่บริษัทก็ยังทำกำไรไม่ได้ แถมยังขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แต่บริษัทก็ยังทำกำไรไม่ได้ แถมยังขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะบริษัทใช้โมเดลธุรกิจเช่นเดียวกับสตาร์ตอัปอื่นๆ
โดยยอมขาดทุนมหาศาล ผ่านการอัดฉีดโปรโมชันการตลาดต่างๆ
เพื่อขยายฐานลูกค้าและครองใจลูกค้าให้ได้มากที่สุดก่อน
โดยยอมขาดทุนมหาศาล ผ่านการอัดฉีดโปรโมชันการตลาดต่างๆ
เพื่อขยายฐานลูกค้าและครองใจลูกค้าให้ได้มากที่สุดก่อน
โดย Sea Group ทุ่มค่าใช้จ่ายทางการตลาดและส่งเสริมการขายค่อนข้างมหาศาล
ปี 2017 มีค่าใช้จ่ายอยู่ 13,877 ล้านบาท
ปี 2018 มีค่าใช้จ่ายอยู่ 22,968 ล้านบาท
ปี 2019 มีค่าใช้จ่ายอยู่ 31,585 ล้านบาท
ปี 2017 มีค่าใช้จ่ายอยู่ 13,877 ล้านบาท
ปี 2018 มีค่าใช้จ่ายอยู่ 22,968 ล้านบาท
ปี 2019 มีค่าใช้จ่ายอยู่ 31,585 ล้านบาท
ซึ่งนี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการบริหาร, ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา, ดอกเบี้ยจ่าย
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า กลยุทธ์ “ผลาญเงิน” ในวันนี้ เพื่อหวังไข่ทองคำในอนาคตของบริษัท
จะประสบความสำเร็จ และกลายเป็นจริงมากแค่ไหน
จะประสบความสำเร็จ และกลายเป็นจริงมากแค่ไหน
โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่มีการแข่งขันสูง อยู่บนทะเลเลือด
และคู่แข่งก็ไม่ยอมน้อยหน้า พร้อมกรีดเลือดตัวเองเพื่อคว้าชัยชนะเช่นเดียวกัน..
และคู่แข่งก็ไม่ยอมน้อยหน้า พร้อมกรีดเลือดตัวเองเพื่อคว้าชัยชนะเช่นเดียวกัน..
รู้หรือไม่ คุณ Forrest Li จริงๆ มีชื่อเดิมว่า “Li Xiaodong”
แต่เขาเปลี่ยนชื่อตอนเรียนที่สหรัฐฯ เพื่อให้อาจารย์และเพื่อนในชั้นเรียกชื่อเขาง่ายขึ้น
แต่เขาเปลี่ยนชื่อตอนเรียนที่สหรัฐฯ เพื่อให้อาจารย์และเพื่อนในชั้นเรียกชื่อเขาง่ายขึ้น
โดยชื่อใหม่นี้ เขาเอามาจากภาพยนตร์เรื่อง “Forrest Gump” ที่เขาชื่นชอบในวัยเด็ก
เพราะสื่อถึงความมุ่งมั่นกับสิ่งที่ทำ และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค..
เพราะสื่อถึงความมุ่งมั่นกับสิ่งที่ทำ และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค..
อ้างอิง :
https://www.seagroup.com/products/garena
https://www.bloomberg.com/…/a-billionaire-forged-in-free-fi…
https://en.wikipedia.org/wiki/Forrest_Li
https://www.seagroup.com/products/garena
https://www.bloomberg.com/…/a-billionaire-forged-in-free-fi…
https://en.wikipedia.org/wiki/Forrest_Li
https://techsauce.co/…/new-billionaire-from-singapore-group…