สินค้าไทยมากมายเป็นที่ติดอกติดใจของนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทย และผู้บริโภคขาวจีนในประเทศจีน ทั้งอาหาร ผลไม้แปรรูป จนไปถึงหยูกยา สินค้าเครื่องสำอาง ความงาม สปา และอื่นๆ
คนแห่ซื้อสินค้าจำเป็นในแพล็ตฟอร์ม e-Commerce ของอาลีบาบา อย่าง Taobao และ TMALL
สองแพล็ตฟอร์มนี้ Data ตัวเลขรวมกันจะมี e-Users เข้ามา shopping กว่า 450-600 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งนับได้ว่าเป็น e-Marketplaces ที่รั้งอันดับ 1 ของ Market share มาตลอดจนปัจจุบัน
ความแตกต่าง Taobao และ TMALL
Taobao จะเป็นการขายแบบ Consumer to Consumer (C2C) คือใครๆ ก็ขายได้ ใม่ต้องเป็นนิติบุคคล คล้ายๆ Shopee
TMALL เป็นการขายแบบ Business to Consumer (B2C) คือเหมือนเอาสินค้าเข้าห้างสรรพสินค้า แต่เป็นแบบห้างออนไลน์ ยกตัวอย่างก็ Central คือต้องจดทะเบียนนิติบุคคล เครื่องหมายการค้า และเอกสารสำคัญอื่นๆ
Alibaba สร้าง TMALL GLOBAL เพื่อให้ผู้บริโภคในกลุ่ม Premium สามารถเข้าถึงสินค้าจากต่างประเทศได้ง่าย และหลากหลาย โดยได้แบ่งสินค้าออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่
1.) กลุ่ม Hi-end เหล่า Brandname ระดับโลก เช่น GUCCI, VIVIEN WESTWOOD และ COACH เป็นต้น
2.) กลุ่มสินค้าเด่นดังในแต่ละประเทศ เช่น สินค้าจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย
3.) กลุ่มที่ TMALL สรรหาสินค้าเอง หรือที่เรียกว่า TMALL Direct Import (TDI) คือ เห็นว่าสินค้าที่มีศักยภาพ จึงนำเข้ามาจัดจำหน่ายเอง บ้างก็จะสต็อคสินค้า เช่น สินค้าหมอนยางพารา เครื่องสำอาง
มาพูดถึง Logistic & Supply chain แบบ cross border กันง่ายๆ ให้เห็นภาพว่า ข้อดีของการเข้าขายใน TMALL คือ สามารถนำสินค้ามาเก็บไว้ที่ Free Zone ในเขตต่างๆ ที่มี 6 แห่งในจีน หรือ Bonded warehouse และสามารถตั้งราคาขายตามที่ต้องการ
-ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://businesstoday.co/