นกกระจอกเทศมีเหตุผลให้ต้องระวังตัวอยู่เสมอ ถ้าใครที่ยังไม่เคยรู้มาก่อนโดยพื้นฐานแล้วนกกระจอกเทศก็คือไก่ขนาดใหญ่กว่าปกติในถิ่นอาศัยที่มีสิงโต เสือดาว ไฮยีนา หมาป่าแอฟริกา และเสือชีตาห์ ที่หิวโหย และแม้ว่านกกระจอกเทศตัวเต็มวัยจะมีพละกำลังมากเกินกว่าจะตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ เพราะลูกเตะ ของพวกมันอาจทำให้นอาอกระดูกหักและกรงเล็บขนาดใหญ่สองข้างก็สามารถฉีกท้องศัตรูได้ กระนั้น พวกมันก็หนีเก่งกว่าต่อสู้ด้วยฝีเท้าที่ทำความเร็วได้สูงสุดเกือบ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นกตัวผู้มีขนาดโตกว่าตัวเมีย ตัวผู้เมื่อโตเต็มวัยขนตามลำตัวจะเปลี่ยนไปเป็นสีดำ ส่วนขนปีกและขนหางจะเป็นสีขาวสวยงามมาก สำหรับตัวเมียจะมีขนตามตัวสีน้ำตาลเทาอ่อน ปากมีลักษณะแบนและกว้างมาก ดวงตากลมโต หัวเล็ก ศีรษะล้าน มีขนอ่อนบางสีเทา น้ำตาลอ่อนคล้ายสีครีมหรือผลมะอึก คอยาวและมีขนอ่อนเช่นเดียวกับหัว ปีกเล็กไม่สมตัว ขนที่ปีกยาวพอสมควรแต่ก็ไม่ใช่ขนสำหรับการบิน ซึ่งขนปีกมีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น ขาและโคนขาเป็นขาเกลี้ยง ๆ ไม่มีขน นกตัวผู้มีลำคอหย่อนยานกว่าตัวเมีย จึงโป่งคอและทำเสียงร้องเลียนแบบสิงโตได้ นกตัวผู้ 1ตัวจะคุมนกตัวเมียหลายตัว
ลักษณะเท้าของนกกระจอกเทศจะพบว่ามีนิ้วเท้าข้างละ 2 นิ้ว ใต้นิ้วเป็นเนื้ออ่อน ๆ ปลายนิ้วทู่ ๆ ใหญ่ ๆ นิ้วทั้งสองจัดเป็นนิ้วกลางและนิ้วนางเท่านั้น นิ้วที่ใหญ่มากคือนิ้วกลาง ซึ่งเป็นธรรมชาติของสัตว์โลกอย่างหนึ่งคือ สัตว์ที่ไม่ใช้ความเร็วของฝีเท้าจะมีนิ้วครบชุดมือ – เท้าข้างละ 5 นิ้ว หากสัตว์นั้นต้องการความเร็วของฝีเท้าเพื่อวิ่งหนีศัตรู ธรรมชาติก็จะวิวัฒนาการให้นิ้วหายไปทีละนิ้วสองนิ้วจนเหลือแต่เพียงนิ้วเดียว เช่นเท้าของม้า มีเพียงนิ้วเดียวที่เรียกว่ากีบเท้าม้า ขนาดโตเต็มที่สูงประมาณ 2 – 2.5 เมตร น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่จะหนักประมาณ 160 กิโลกรัม มีอายุยืนได้ถึง 65 – 75 ปี หัวเล็ก คอยาว ตาโต ขนตายาว มีขาใหญ่แข็งแรง บินไม่ได้แต่วิ่งได้เร็ว ลูกนกอายุเพียง 2-3 วันก็จะวิ่งได้แล้ว หากินในทุ่งกว้างเป็นฝูงใหญ่ อยู่ร่วมฝูงกับม้าลายและยีราฟ การต่อสู้ป้องกันตัวของนกกระจอกเทศจะกระโดดเตะได้ ระวังตัวสูง จึงหลบหลีกสัตว์กินเนื้อได้ดี ไข่ของนกกระจอกเทศเป็นไข่นกที่ใหญ่ที่สุดในโลก กินพืช, เมล็ดพืช, ผลไม้สุกและสัตว์ตัวเล็ก ๆ โดยใช้ปากงับแล้วกระดกเข้าลำคอ จากนั้นยืดคอให้ตรง ให้อาหารไหลลงไปตามหลอดอาหารในลำคอ นอกจากนั้น ยังชอบกินของแปลกปลอม โดยเฉพาะสิ่งที่สะท้อนแสงได้ เช่น นาฬิกา, ขวดพลาสติกในประเทศ ปัจจุบันนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เศรษฐกิจเหมือนในหลายประเทศ นกกระจอกเทศถูกนำเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในปลายสมัยอยุธยา ในรัชสมัยพระเจ้าเอกทัศ ตามบันทึกในพงศาวดารคำให้การชาวกรุงเก่าระบุว่า ราชทูตชาวอังกฤษนำนกกระจอกเทศพร้อมสิงโตและม้าเทศจากแอฟริกาเข้ามาถวายเป็นบรรณาการ จึงโปรดเกล้าฯ ให้เลี้ยงไว้ในพระราชวัง
อุทยานแห่งชาติทารางีรีทางตอนเหนือของแทนซาเนียเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการชมนกกระจอกเทศ แห่งหนึ่ง พื้นที่ 2,850 ตารางกิโลเมตรประกอบด้วยเนินเขาแห้งแล้งและที่ราบทุ่งหญ้าเลาะเลียบไปตามแม่น้ำทารางีรี ที่นี่เหล่าช้างป่ากระจายตัวเป็นฝูงใหญ่ๆอยู่ด้วยกันกับม้าลายและวิลเดอบีสต์จำนวนนับพันๆตัว นกกระจอกเทศก็พบได้ทั่วไปเช่นกัน แต่เมื่อผมร่วมทีมไปค้นหารังนกกระจอกเทศกับ ฟลอรา จอห์น มากิกี นักนิเวศวิทยาสัตว์ป่าแห่งมหาวิทยาลัยดาเอสซาลาม ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมของนกกระจอกเทศ รังแรกที่เราพบประสบความล้มเหลว
ไข่เก้าฟองกระจัดกระจายเกลื่อนตามพุ่มไม้กินบริเวณกว้างประมาณ 25 เมตร มากิกีสำรวจพื้นที่ ราวกับนักสืบตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรม เธอชี้ให้ดูรอยครูดจางๆ บนพื้นดินตรงที่เคยเป็นรัง และติดกันเป็นโพรงที่ตัวอาร์ดวาร์กเพิ่งขุดใหม่ๆ ไม่ใช่เจ้านี่หรอก เธอคิด ไข่ที่กระจัดกระจายลักษณะนี้น่าจะเป็นผลงานของสัตว์ผู้ล่าที่หิวโซมากกว่า แต่ตัวคงไม่ใหญ่นัก เพราะไข่ทุกฟองยังไม่แตก จะใช่สุนัขจิ้งจอกไหม ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด นกกระจอกเทศเพศผู้และเพศเมียจะใช้ชีวิตต่อไป ดังเช่นที่มันมักทำเมื่อรังถูกรบกวน เป็นไปได้ว่า พวกมันจะทำรังด้วยกันอีกครั้ง
การเลี้ยงนกกระจอกเทศ
อาหารนกกระจอกเทศ
นกกระจอกเทศเป็นสัตว์กินพืช (Herbivorous) กระเพาะจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นกระเพาะบด (Gizzard) เหมือนไก่แต่ไม่มี Crop และกระเพาะพัก (Proventriculus) เหมือนสัตว์เคี้ยวเอื้อง (Ruminant) เช่น โค กระบือ ดังนั้น อาหารของนกกระจอกเทศ จึงเป็นพืช ผัก หญ้า และสัตว์เล็ก ๆ เช่น ลูกกบ จิ้งจก หรือ แมลงต่าง ๆ นอกจากนี้ยังจิกกินก้อนหิน หรือหินเกล็ดเล็ก ๆ เพื่อช่วยในการบดย่อยอาหารที่บริเวณกระเพาะบด สำหรับการเลี้ยงในระบบฟาร์ม อาหารของนกกระจอกเทศมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจะต้องคำนวณให้ตรงตามความต้องการของนกกระจอกเทศอายุต่าง ๆ กันโดยจะต้องมีแร่ธาตุอาหารครบถ้วย และเพียงพอโดยเฉพาะแคลเซียมความต้องการอาหารข้นในแต่ละช่วงอายุสามารถแบ่งออกได้เป็น ดังนี้
นอกจากนี้จะต้องมีหญ้าแห้งหรือหญ้าสดและหินเกล็ดตั้งไว้ให้นกกระจอกเทศจิกกินด้วย
-ขอบคุณข้อมูล https://www.baanjomyut.com/