COVID-19 เริ่มแพร่ระบาดหนักขึ้นจนถึงตอนนี้ มีอีกหนึ่งคำแนะนำในการป้องกันตัวเองบนโลกโซเชียลนอกเหนือจากการหมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติ Social Distancing นั่นคือ การใช้แสง ยูวี (UV) ในการฆ่าเชื้อ COVID-19 จนทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่าคำแนะนำดังกล่าวใช้ได้จริงหรือไม่ และถ้าเป็นจริงแล้ว การนำเอาสิ่งของต่างๆ ไปตากแดดเพื่อให้แสง UV จากดวงอาทิตย์ฆ่าเชื้อไวรัสมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด รวมถึงข้อสงสัยที่ว่าทำไมถึงไม่มีการทำเครื่องฉายแสง UV โดยธรรมชาติแล้วแสงจากดวงอาทิตย์จะประกอบด้วยแสง UV 3 ชนิด ชนิดแรกคือ ยูวีเอ (UVA) เป็นแสงยูวีที่ส่องมาถึงพื้นผิวโลกมากที่สุด โดยแสง UVA สามารถทะลุผ่านผิวหนังของมนุษย์ นี่จึงเป็นสาเหตุในการทำให้เกิดการสูงวัยของผิวถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่นหรือจุดด่างดำบนผิว ชนิดที่สอง คือ ยูวีบี (UVB) เป็นแสงที่สามารถทำอันตรายต่อดีเอ็นเอในผิวหนังมนุษย์ได้ โดยแสง UV ชนิดนี้เป็นสาเหตุของอาการผิวไหม้หรือแม้แต่การเกิดมะเร็งผิวหนัง ซึ่งผลกระทบจากสองสิ่งนี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องทาครีมกันแดดเวลาอยู่กลางแจ้ง อีกทั้งไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบด้วยว่า UVA
ปัจจุบันยังไม่มีผลการศึกษาที่ชัดเจนที่บ่งชี้ว่าแสง UVC ส่งผลต่อเชื้อไวรัส COVID-19 แต่จากผลการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า แสง UVC สามารถต้านเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดอื่นอย่าง ‘ซาร์ส’ ได้ โดยรังสีนี้ส่งผลต่อโครงสร้างทางพันธุกรรมและยับยั้งไม่ให้ไวรัสทำการก๊อปปี้ตัวเองเพิ่มได้ ด้วยเหตุนี้ แสง UVC
เหตุใดถึงไม่ใช้แสง UVC กับมนุษย์
มันเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยถึงเรื่องนี้ โดย แดน อาร์โนลด์ เจ้าหน้าที่จาก UV Light Technology บริษัทที่จำหน่ายอุปกรณ์ฆ่าเชื้อสำหรับโรงพยาบาล บริษัทยา และโรงงานผลิตอาหารต่างๆ ทั่วสหราชอาณาจักร ได้อธิบายว่า “รังสี UVC เป็นแสงที่อันตรายมาก ซึ่งมนุษย์ไม่ควรสัมผัสมันโดยตรง มองให้เห็นภาพง่ายๆ แสง UVB อาจจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง หรือมากกว่านั้นที่จะเกิดผิวไหม้ แต่สำหรับแสง UVC ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที หากตาของคุณโดนแสง UVC ก็ไม่ต่างอะไรกับการจ้องมองดวงอาทิตย์ในเวลาไม่กี่นาที …
ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://www.gqthailand.com