Adverbs of frequency (กริยาวิเศษณ์บอกความถี่)
ในภาษาอังกฤษมีการใช้สิ่งที่เรียกว่า Adverbs of frequency (กริยาวิเศษณ์บอกความถี่) เพื่อบอกความบ่อยครั้งในการเกิดเหตุการณ์หรือความถี่ในสิ่งที่เราทำ ปกติแล้วกริยาวิเศษณ์บอกความถี่จะใช้คู่กับประโยคแบบ Present simple tense (รูปกาลปัจจุบัน) เพราะประโยคแบบนี้มักจะใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นกิจวัตรนั่นเอง
คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ที่ใช้กันอยู่ประจำจะมีอยู่ประมาณ 9-10 คำตามตารางที่จะแสดงด้านล่าง ซึ่งก็เป็นคำศัพท์ที่เราอาจจะพบเห็นได้บ่อย ๆ ตามข้อความภาษาอังกฤษ หรือแม้แต่ในเพลงก็มีใช้กันอยู่ทั่วไป ตารางนี้จะเรียงลำดับคำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ตามลำดับความถี่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด โดยจะเปรียบเทียบคร่าว ๆ เป็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์เพื่อให้เข้าใจง่าย
คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ | ระดับความถี่ | ตัวอย่างประโยค |
always (เสมอ) | 100% | He always goes to cinema. (เขาชอบไปโรงหนังเสมอ ๆ) |
usually (เป็นประจำ) | 90% | I usually work at night. (ฉันทำงานตอนกลางคืนเป็นประจำ) |
normally/generally (โดยปกติแล้ว) | 80% | She normally surfs the internet. (โดยปกติแล้วเธอชอบเล่นอินเทอร์เน็ต) |
often / frequently (บ่อย ๆ) | 70% | We often have lunch together. (เรากินมื้อเที่ยงด้วยกันบ่อย ๆ) |
sometimes (บางครั้ง) | 50% | Irene sometimes buys a fabric softener. (ไอรีนจะซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มบ้างเป็นบางครั้ง) |
occasionally (เป็นครั้งคราว) | 30% | They occasionally go to live concerts. (พวกเขาไปดูงานคอนเสิร์ตบ้างเป็นครั้งคราว) |
seldom (นาน ๆ ครั้ง) | 10% | My mother seldom drives a car. (แม่ของฉันนาน ๆ ครั้งจะขับรถ) |
rarely/hardly ever (แทบจะไม่เคย) | 5% | The company rarely experienced troubles. (บริษัทแทบจะไม่ค่อยเจอปัญหา) |
never (ไม่เคย) | 0% | Her cat never go outside. (แมวของเธอไม่เคยออกไปไหนเลย) |
*ตารางด้านบนเป็นสรุปการใช้คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่แบบคร่าว ๆ บางครั้งเราอาจจะเห็นการใช้คำอื่น ๆ นอกเหนือไปจากที่ยกตัวอย่างมา แต่ก็มีความหมายที่ใกล้เคียงและใช้แทนกันได้ เช่น regularly (เป็นประจำ), infrequently (ไม่บ่อย), constantly (เรื่อย ๆ), repeatedly (ซ้ำ ๆ) ฯลฯ
เมื่อเราได้ลองดูการเปรียบเทียบคำกริยาวิเศษณ์ที่ใช้กันบ่อยและตัวอย่างการใช้ในประโยคแล้ว เรามาลองกันดูในเรื่องของตำแหน่งการวาง Adverbs of frequency ในประโยคภาษาอังกฤษบ้าง เพราะอันนี้ก็ถือเป็นกฎทางไวยากรณ์เพื่อการใช้งานอย่างถูกต้อง
-
วาง adverb of frequency ไว้ก่อนคำกริยา (verb) ในประโยค และวางต่อจากประธาน (subject) ของประโยค
ประธาน + adverb of frequency + คำกริยา
ตัวอย่าง I always ride a bicycle. (ฉันขี่จักรยานเสมอ ๆ)
Sunny sometimes goes to shopping. (ซันนี่ไปซื้อของบ้างเป็นบางครั้ง)
-
วาง adverb of frequency ไว้หลังคำกริยาประเภท verb to be (ได้แก่
is, am ,are ,was ,were)
ประธาน + คำกริยา verb to be + adverb of frequency
ตัวอย่าง I am always a careful driver. (ฉันขับรถระวังเสมอ)
They are never betrayed their own friends. (พวกเขาไม่เคยทรยศ
เพื่อนของตัวเอง)
-
ถ้าประโยคมีคำกริยาประเภท auxiliary verb (กริยาช่วย เช่น (have, will, must, might,
could, would, can ฯลฯ) ให้วาง adverb of frequency ไว้หลัง auxiliary verb และ
ก่อนคำกริยาหลัก (main verb) ในประโยค
ประธาน +auxiliary verb+ adverb of frequency + คำกริยาหลัก
ตัวอย่าง Wemightnever see each other again. (เราอาจไม่ได้เจอกันอีก)
Janecansometimes win the race. (เจนแข่งชนะได้ในบางครั้ง)
ถ้าประโยคเป็นรูปปฏิเสธหรือคำถาม ให้วาง adverb of frequency ไว้ก่อนคำกริยาหลัก (main verb)
ตัวอย่าง My mother doesn’t usually go to bed late. (ปกติแม่ไม่ค่อยนอนดึก)
They don’t always join the class, don’t they? (พวกเขาไม่ค่อยมาเข้าเรียนเสมอ
เลยใช่ไหม?)
นอกจากนี้ adverb of frequency ดังต่อไปนี้สามารถนำมาวางไว้ที่หน้าสุดหรือท้ายสุดของประโยคได้ ซึ่งจะเป็นการเน้นความถี่เหล่านั้นให้ชัดเจนขึ้น:
Usually, normally, often, frequently, sometimes, occasionally
ตัวอย่าง Usually, we go to school early in the morning. (ปกติเราไปโรงเรียนแต่
เช้า)
James visits Chinatown occasionally. (เจมส์ไปเที่ยวย่านไชน่าทาวน์
บ้างเป็นครั้งคราว)
อย่างไรก็ตาม adverb of frequency ดังต่อไปนี้ไม่สามารถนำมาใช้ขึ้นต้นประโยคได้:
Always, seldom, rarely, hardly, ever, never.
คำกริยาที่อยู่ต่อท้าย hardly ever กับ never ต้องเป็นรูปบอกเล่า ไม่ใช่รูปปฎิเสธ เพราะสองคำนี้มีความหมายในเชิงปฏิเสธอยู่แล้ว ไม่สามารถใช้ซ้ำซ้อนกันได้
ตัวอย่าง ✓He never say “thank you”. (เขาไม่เคยพูดคำว่าขอบคุณ)
ไม่ใช่
✕ He never not say “thank you”.
✓Tony hardly ever smiles. (โทนี่แทบจะไม่เคยยิ้ม)
ไม่ใช่
✕Tony hardly ever does not smiles.
การจะใช้ adverb of frequency ให้ถูกหลักนั้นก็เหมือนกับการใช้ไวยากรณ์อื่น ๆ ในภาษาอังกฤษ คืออาศัยประสบการณ์และการฝึกฝนจนเราสามารถจำได้โดยอัตโนมัติว่าคำไหนควรจะใช้ในสถานการณ์ใด และวางที่ตำแหน่งไหนประโยค แต่ก็มีหลักการจำแบบคร่าว ๆ ง่าย ๆ อยู่ว่า adverb of frequency นั้นมักจะวางอยู่หน้าคำกริยาหลัก (main verb) ของประโยค (เช่น sit, stand, jump, walk) และวางต่อท้ายคำกริยาประเภท verb to be ทั้งหลาย (is, am, are, was, were)
นอกจาก adverb of frequency ที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ยังมีวลีอื่น ๆ ในภาษาอังกฤษที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อบอกความถี่ของการเกิดเหตุการณ์หรือการกระทำต่าง ๆ ได้เช่นกัน โดยวลีเหล่านี้จะไม่ใช่คำศัพท์เดียวโดด ๆ แบบ adverb of frequency ด้านบน และสามารถวางขึ้นต้นหรือปิดท้ายประโยคได้ แต่ไม่สามารถวางไว้ระหว่างส่วนอื่น ๆ ในประโยคได้
-
Once in a while (นาน ๆ ครั้ง): We travel abroad once in a while. (เราไปเที่ยวต่างประเทศนาน ๆ ครั้ง)
-
Every now and again (เป็นประจำ): Jackson plays video games every now and again. (แจ็คสันชอบเล่นเกมเป็นประจำ)
-
From time to time (บางครั้งบางคราว): From time to time I drink milk. (ฉันดื่มนมบ้างเป็นบางครั้ง)
เรายังสามารถใช้จำหนวนครั้งหรือคำว่า “several”, “many” (หลาย) ตามด้วยคำว่า “times” (ครั้ง) ได้ (แต่ในกรณีที่เราจะบอกว่าหนึ่งหรือสองครั้ง เราจะใช้คำว่า “once” (หนึ่งครั้ง) กับ “twice” (สองครั้ง) แทนคำว่า “one time” กับ “two times”) จากนั้นให้ต่อด้วยคำว่า “a” ต่อด้วยระยะเวลา
-
She reads newspaper once a week. (เธออ่านหนังสือพิมพ์สัปดาห์ละครั้ง)
-
Jessica visits Los Angeles twice a month. (เจสสิก้าไปลอสแองเจลิสเดือนละสองครั้ง)
-
John meets Catherine several times a year. (จอห์นเจอกับแคทเธอรีนปีละหลายครั้ง)
คำว่า “every” + ระยะเวลาก็ยังสามารถนำมาใช้เพื่อบอกว่าเหตุการณ์นั้น ๆ เกิดขึ้น “ทุก ๆ” ช่วงเวลาหนึ่ง ๆ
-
every morning (ทุกเช้า)
-
every day (ทุกวัน)
-
every Tuesday (ทุกวันอังคาร)
-
every week (ทุกสัปดาห์)
-
every month (ทุกเดือน)
เราสามารถเติมตัว “s” ลงไปต่อท้ายชื่อวันในสัปดาห์ (เช่น on Tuesdays) จะมีความหมายว่า “ทุกวันอังคาร” เช่นเดียวกับ every Tuesday
-
We go to the department store on Wednesday (เราไปห้างสรรพสินค้ากันทุกวันพุธ)
-
Scott visits his parents on Sunday (สก็อตต์ไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาทุกวันอาทิตย์)