ตั้งแต่ ยุคศตวรรษที่ 21 โลกเชื่อมต่อถึงกันได้ง่ายดายด้วยเทคโนโลยี และภาษาอังกฤษก็ช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างกันทำได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงต้องให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษของลูกมากเป็นพิเศษ โดยนอกจากจะให้เรียนจากสถาบันที่ไว้วางใจแล้ว บริติช เคานซิล แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่สวมบทบาทโค้ชคอยช่วยฝึกทักษะภาษาอังกฤษให้กับลูกที่บ้าน
เราสามารถเริ่มฝึกภาษาอังกฤษที่บ้านกับลูกรัก ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
1. นำภาษาอังกฤษจากโลกออนไลน์มาเป็นเครื่องมือช่วยสร้างความสนุกให้กับการเรียน เพราะเด็กยุคศตวรรษที่ 21 ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีจะให้ความสนใจกับโลกออนไลน์มากเป็นพิเศษ ดังนั้นการนำสิ่งที่อยู่ในโลกออนไลน์มาปรับใช้กับการฝึกภาษาอังกฤษที่บ้าน จะช่วยดึงดูดความสนใจให้เด็กรู้สึกสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น แอนิเมชั่น บทเพลงสำหรับเด็ก เกม การ์ตูน หรือภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับวัย
2. กำหนดช่วงเวลาเรียนภาษาอังกฤษของครอบครัว โดยอาจเรียกกันในครอบครัวว่า ‘English Time’ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกช่วงเวลาที่เด็ก ๆ มีความตื่นตัว และรู้สึกสบาย ๆ พร้อมจะเรียนรู้ ไม่ควรเป็นช่วงเวลาที่ง่วงหรือหิว เนื่องจากน้อง ๆ มักมีสมาธิกับการเรียนในช่วงเวลาจำกัด จึงควรใช้เวลาเรียนไม่เกิน 10-15 นาทีต่อวัน และควรปรับเปลี่ยนหัวข้อการเรียนรู้อยู่เสมอเพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย เช่น เรียนการพูดที่ใช้ในชีวิตประจำวัน, ท่องศัพท์ด้วยการจับคู่คำศัพท์กับภาพต่าง ๆ กิจกรรมเล่านิทาน หรือ story telling เป็นต้น
3. นำเรื่องที่เด็กสนใจมาเป็นหัวข้อหลักในการเรียนภาษาอังกฤษ เช่น ถ้าเด็ก ๆ ชอบสุนัขมากเป็นพิเศษ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถหยิบหนังสือเรื่อง ‘ The Hundred and One Dalmatians’ มาอ่านให้เด็ก ๆ ฟังก่อนนอน หรือไม่ก็เปิดภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เด็ก ๆ ดูในวันหยุด และเมื่อถึงช่วง ‘English Time’ ก็อาจจะสอนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับน้องหมาเพิ่มเติม หรือเชื่อมโยงไปถึงคำศัพท์ที่เกี่ยวกับการดูแลน้องหมา การเลือกสอนในสิ่งที่เด็ก ๆ ให้ความสนใจก่อนเป็นอันดับแรกจะช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษไม่น่าเบื่อ และสนุกสนาน ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่บริติช เคานซิล ใช้ในการการเรียนการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเรียนมากที่สุด
4. ใช้อุปกรณ์และท่าทางประกอบการฝึกภาษาอังกฤษที่บ้าน ซึ่งเด็กจะรู้สึกสนุกสนานกับการเรียน และเกิดการจดจำได้ดีกว่า เช่น ถ้าพูดถึงคำศัพท์ Spoon แล้วยื่นช้อนให้ถือไว้ในมือ เด็กจะจดจำคำ ๆ นี้ได้แม่นยำ เพราะเกิดการเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว หรือถ้าพูดคำว่า ‘Goodbye’ แล้วทำท่าโบกมือพร้อมทำสีหน้าประกอบ เด็ก ๆ จะเข้าใจคำศัพท์ผ่านท่าทางที่แสดงออกของคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างรวดเร็ว
5. อย่าเน้นไวยกรณ์มากเกินไป ถ้าเด็ก ๆ ใช้ไวยกรณ์ผิดควรแก้ไขเป็นบางจุดที่คิดว่าสำคัญ แต่ไม่ควรแก้ไขทุกครั้งที่ผิดพลาด การฝึกภาษาที่ดีควรเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ แล้วค่อย ๆ แก้ไข ให้ใช้วิธีทวนการออกเสียงคำหรือประโยคบ่อย ๆ จนเด็กเกิดการเรียนรู้ตามธรรมชาติ ซึ่งดีกว่าการเน้นเรื่องไวยกรณ์จนเด็กขาดความมั่นใจ กระทั่งไม่กล้าใช้ภาษาอังกฤษไปเลย
6. หาโอกาสใช้ภาษาอังกฤษอยู่เสมอ วิธีนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ มีโอกาสได้เพิ่มเติมคำศัพท์ใหม่ ๆ และฝึกฝนการใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเป็นการเรียนที่สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ เช่น เมื่อพาเด็ก ๆ ไปเดินเล่นสวนสาธารณะ หรือสวนสัตว์ ให้ใช้โอกาสนี้เพิ่มคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์ แมลง หรือต้นไม้ไปด้วย หรืออาจจะชี้ชวนให้ดูนั่นนี่ เพื่อกระตุ้นความสนใจ และให้มีการตั้งคำถาม ที่จะเกิดการโต้ตอบทางภาษาแบบง่าย ๆ ซึ่งนับเป็นการเสริมพัฒนาการทางภาษาที่ได้ผลดีมาก
ขอบคุณข้อมูล https://www.britishcouncil.or.th/