เรื่องที่คนใช้รถต้องรู้ อายุแบตเตอรี่รถยนต์ใช้ได้กี่ปี
สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้งที่มีราคาแพงกว่าสองชนิดแรกพอสมควรนั้นจะมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและไม่ต้องคอยตรวจเช็กระดับน้ำกลั่นเลย เนื่องจากถูกซีลปิดสนิท มีเพียงรูระบายอากาศเล็ก ๆ กับตาแมวไว้ดูระดับไฟฟ้าของแบตเตอรี่ ซึ่งอยู่ได้ราว ๆ 5 ปี โดยประมาณหรืออาจมากกว่านั้น
อายุงานแบตเตอรี่รถยนต์ที่คุณใช้อยู่นั้น มีอายุสั้น หรือยาวนาน ขนาดไหน เมื่อไหร่ถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยน ถ้าหากทิ้งไว้ปัญหาการสตาร์ทไม่ติดก็อาจจะตามมาได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา
แบตเตอรี่รถยนต์ที่นิยมใช้กันมากที่สุด ก็คงจะเป็น แบตเตอรี่ถยนต์แบบน้ำ หรือแบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก แต่เจ้านี้ก็สามารถทำการแยกย่อยออกไปได้อีก 2 ชนิด ก็คือแบตเตอรี่รถยนต์ที่ต้องหมั่นตรวจสอบ เช็คระดับของน้ำกลั่นภายในตัวแบตเตอรี่รถยนต์เอง เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำกลั่นน้อยเกินไป หากน้อยเกินไปจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของมันต่ำลง เจ้าแบตเตอรี่รถยนต์แบบนี้ มักจะมีราคาที่ถูกกว่าแบบอื่น เพราะต้องการ การดูแลที่มากกว่าแบบอื่นนั้นเอง โดยอย่างน้อย 1 สัปดาห์คุณก็ต้องมานั่งตรวจเช็คน้ำกลั่นแล้ว ซึ่งบางคนมองว่ายุ่งยาก ถึงมันจะมีราคาที่ถูกกว่าก็ตาม
แบบต่อมาก็คือ แบบที่ไม่ต้องดูแลบ่อย หรือ Maintenance Free ซึ่งเจ้าแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดนี้ จะกินน้ำกลั่นน้อยมาก ถึงน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีฝาให้เปิดปิดเพื่อเติมน้ำกลั่นอยู่ อายุการใช้งานของทั้ง 2 แบบที่แยกย่อยมานั้น จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยตั้งแต่ 1.5 -2 ปี แต่สูงสุดไม่เกิน 3 ปี และแน่นอนว่ามันเป็นอายุเฉลี่ย แต่อายุที่แท้จริงมักจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน การดูแลรักษา หากดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์อย่างสม่ำเสมอแล้วล่ะก็ มันอาจจะมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น แต่แน่นอนว่าอายุการใช้งานมันที่มากขึ้น การกักเก็บพลังงานไฟฟ้า หรือประจุไฟฟ้า ของมันก็จะลดลง การเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ลูกใหม่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ลักษณะการใช้งานรถยนต์
หลายๆท่านคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า รถยนต์ที่มีการขับขี่บ่อยๆ แบตเตอรี่จะทนกว่า รถยนต์ที่ไม่ค่อยมีการขับขี่ หรือ ขับรถทางไกล แบตเตอรี่จะทนกว่าขับในบริเวณที่รถติด ซึ่ง เป็นความจริงครับ เพราะ ยิ่งใช้รถบ่อยเท่าใด หรือ ขับรถทางไกล จะทำให้ไดชาร์จทำงานได้เต็มที่ สามารถปั่นกระแสไฟเข้าแบตเตอรี่ได้ดีกว่า ทำให้แบตเตอรี่ มีไฟเต็มตลอดเวลา
การดูแลแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ทุกประเภท ต้องมีการดูแลบ้าง ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่น้ำ แบตเตอรี่ไฮบริด แบตเตอรี่กึ่งแห้ง หรือ แม้แต่แบตเตอรี่แห้ง ก็ตาม โดยแต่ละประเภท มีการดูแลรักษาดังนี้
แบตเตอรี่น้ำ ควร ดูระดับน้ำกลั่นทุก 1 เดือน ไม่ควร ลืมเติมน้ำกลั่น เปิดไฟทิ้งไว้
แบตเตอรี่ไฮบริด ควร ดูระดับน้ำกลั่นทุก 6 เดือน ไม่ควร ลืมเติมน้ำกลั่น เปิดไฟทิ้งไว้
แบตเตอรี่กึ่งแห้ง ควร ดูระดับน้ำกลั่นทุก 12 เดือน ไม่ควร เปิดไฟทิ้งไว้
แบตเตอรี่แห้ง ไม่ควร เปิดไฟทิ้งไว้
แบตเตอรี่ทุกชนิด ให้ระมัดระวังเรื่อง การลืมเปิดไฟทิ้งไว้ ยิ่งลืมบ่อยเท่าไร อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ ก็จะสั้นลงเท่านั้น
แบตเตอรี่ที่มีการดูแลระดับน้ำ โดยเฉพาะ แบตเตอรี่ น้ำ ให้ระวังที่สุดเรื่องการปล่อยให้ระดับน้ำแห้ง เพราะ ถ้าลืม แบตเตอรี่มีโอกาศเสียสูง