การหารลงตัว และ สมบัติการหารลงตัว
การหารลงตัว | |||||||
บทนิยาม | กำหนด a, b เป็นจำนวนเต็มใดๆ โดยที่ b ≠ 0 b หาร a ลงตัว ก็ต่อเมื่อ มีจำนวนเต็ม n ที่ทำให้ a = bn และเขียนแทน “b หาร a ลงตัว” ได้ด้วยสัญลักษณ์ b | a |
||||||
จากบทนิยาม ถ้า b หาร a ไม่ลงตัว แสดงว่าไม่มีจำนวนเต็ม n ที่ทำให้ a = bn และ เขียนแทน “b หาร a ไม่ลงตัว” ได้ด้วยสัญลักษณ์ b † a | |||||||
ตัวอย่างเช่น | 3 | 9 เพราะมี n = 3 ที่ทำให้ 9 = 3n | ||||||
-5 | 10 เพราะมี n = -2 ที่ทำให้ 10 = +5n | |||||||
6 | 0 เพราะมี n = 0 ที่ทำให้ 0 = 6n | |||||||
สมบัติการหารลงตัว | |||||||
ทฤษฎีบทที่ 1 | กำหนด a, b, c เป็นจำนวนเต็มใดๆ ถ้า a | b และ b | c แล้วจะได้ a | c |
||||||
ทฤษฎีบทที่ 2 | กำหนด a, b เป็นจำนวนเต็มบวก ถ้า a | b แล้วจะได้ a ≤ b |
||||||
ทฤษฎีบทที่ 3 | กำหนด a, b, c เป็นจำนวนเต็มใดๆ ถ้า a | b และ b | c แล้วจะได้ a | bx + cy เมื่อ x, y เป็นจำนวนเต็มใดๆ |
||||||
การจำแนกจำนวนเต็มบวกโดยใช้สมบัติการหารลงตัว | |||||||
1.จำนวนเฉพาะ (Prime Numbers) | |||||||
บทนิยาม | จำนวนเต็ม p จะเป็นจำนวนเฉพาะ ก็ต่อเมื่อ p ≠ 0, p ≠ 1, p ≠ -1 และถ้ามีจำนวนเต็มที่หาร p ลงตัว จำนวนเต็มนั้นต้องเป็นสมาชิกของ {-1, 1, p, -p} | ||||||
2.จำนวนประกอบ (Composite Numbers) | |||||||
บทนิยาม | จำนวนเต็ม c เป็นจำนวนเต็มบวกที่มากกว่า 1 จะเป็นจำนวนประกอบ ก็ต่อเมื่อ c ไม่ใช่จำนวนเฉพาะ | ||||||
นั่นคือสำหรับจำนวนเต็มบวก c ใดๆ c จะเป็นจำนวนประกอบ ก็ต่อเมื่อ มีจำนวนเต็ม m และ n ที่ต่างจาก c ที่ทำให้ c = mn | |||||||
ตัวอย่างเช่น | |||||||
จำนวนที่หาร 2 ลงตัว ได้แก่ {-1, 1, 2, -2} ∴ 2 เป็นจำนวนเฉพาะ จำนวนที่หาร 3 ลงตัว ได้แก่ {-1, 1, 3, -3} ∴ 3 เป็นจำนวนเฉพาะ จำนวนที่หาร 4 ลงตัว ได้แก่ {-4, -2, -1, 1, 2, 4} ∴ 4 ไม่เป็นจำนวนเฉพาะ |
|||||||
• ขั้นตอนวิธีการหาร |
|||||||
ถ้า a และ b เป็นจำนวนเต็ม โดยที่ b ≠ 0 แล้วจะมี q และ r ซึ่งเป็นจำนวนเต็มที่ทำให้ a = bq + r เมื่อ 0 r |b| นั่นคือ a เป็นตัวตั้งหารด้วย b ได้ผลหารคือ q และเศษ r |
|||||||
ตัวอย่างที่ 1 | กำหนด a = 48, b = 7 จงหา q และ r | ||||||
เขียนให้อยู่ในรูป | a = bq + r | ||||||
48 = 7 × 6 +6 | |||||||
|
q = 6 และ r = 6 | ||||||
• ตัวหารร่วม |
|||||||
ตัวหารร่วม | |||||||
|
|||||||
ตัวหารร่วมมาก | |||||||
|
|||||||
ตัวอย่างเช่น | จงหา ห.ร.ม. ของ 36 และ 48 | ||||||
วิธีทำ | ตัวหารร่วมของ 36 ได้แก่ ±1, ±2, ±3, ±4, ±6, ±9, ±12, ±18, ±36 | ||||||
ตัวหารร่วมของ 48 ได้แก่ ±1, ±2, ±3, ±4, ±6, ±8, ±12, ±16, ±24, ±48 | |||||||
|
ตัวหารร่วมที่เป็นบวกของ 36 และ 48 ได้แก่ 1, 2, 3, 4, 6, 12 | ||||||
|
ตัวหารร่วมที่เป็นบวกของ 36 และ 48 ที่มีค่ามากที่สุด คือ12 | ||||||
นั่นคือ ห.ร.ม. ของ 36 และ 48 คือ 12 |