Possessive nouns คือ การทำคำนามให้อยู่ในรูปของการแสดงความเป็นเจ้าของ
1. การใช้ Apostrophe + s (‘s)
เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ (Possession)
Apostrophes ถูกใช้เพื่อระบุการครอบครองสำหรับคำนามโดยเฉพาะ จะไม่ถูกใช้กับคำสรรพนามเด็ดขาด ตัวอย่างการใช้ดังนี้
– The girl‘s bicycle.
Apostrophes ถูกใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของของคำนามเอกพจน์ เช่น
– John‘s car.
– James‘s guitar.
วิธีการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์
มีทั้งหมด 7 วิธีด้วยกัน
1. เติม –s ท้ายคำนามได้เลย
ได้ยินกันบ่อยมากกก เรื่องของการ เติม –s เวลาที่เราต้องการพูดถึงคำนามที่มีมากกว่าหนึ่ง ส่วนมากเราสามารถเติม –s ไปหลังคำนามได้เลย
เช่น ห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง จากเดิมที่ใช้ Mall ก็ให้เติม –s ลงไป เป็น Malls แทน
ตัวอย่าง I heard that Central will renovate three of their shopping malls this year.
ฉันได้ยินมาว่าเซนทรัลจะทำการปรับปรุงห้างสรรพสินค้า 3 แห่งในปีนี้ล่ะ
2. หากคำนามลงท้ายด้วย ch, s, ss, sh, x, และ z ต้องเติม -es ท้ายคำนั้นๆ
Singular | Plural | คำแปล |
bush (บุช) | bushes (บุช-เชส) | พุ่มไม้ |
bus (บัส) | buses (บัส-เซส) | รถเมล์ |
dress (เดรส) | dresses (เดรส-เซส) | ชุดกระโปรง |
church (เชิร์ช) | churches (เชอร์-เชส) | โบสถ์ |
3. คำนามที่ลงท้ายด้วย O แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ เติม –s หรือ เติม –es
– ส่วนมากแล้วคำนามที่ลงท้ายด้วย –o มักจะเติม –s ได้เลย เช่น Studio (สตูดิโอ) เปลี่ยนเป็น studios (สตูดิโอส) , Zoo (ซู) เปลี่ยนเป็น zoos (ซูส)
– บางคำที่ลงท้ายด้วย –o จะต้องเติม –es เช่น
Singular | Plural | คำแปล |
buffalo (บัฟ-ฟา-โลว์) | buffaloes (บัฟ-ฟา-โลว์ส) | ควาย |
domino (ดอ-มิ-โนว์) | dominoes (ดอ-มิ-โนว์ส) | โดมิโน่ |
hero (ฮี-โรว์) | heroes (ฮี-โรว์ส) | ฮีโร่ |
echo (เอ็ค-โคว์) | echoes (เอ็ค-โคว์ส) | เสียงก้อง |
mosquito (มอส-กี-โทว์) | mosquitoes (มอส-กี-โทว์ส) | ยุง |
potato (เพอะ-เท-โทว์) | potatoes (เพอะ-เท-โทว์ส) | มันฝรั่ง |
tomato (โท-เม-โทว์) | tomatoes (โท-เม-โทว์ส) | มะเขือเทศ |
4. คำนามที่ลงท้ายด้วย –y แบ่งเป็น 2 ประเภท คือเติม-s หรือเติม –es
ถ้าหน้า –y เป็นสระ –a, -e, -i, -o, -u คำนามตัวนั้นจะต้องเติม –s เช่น
Singular | Plural | คำแปล |
monkey (มัง-คิ) | monkeys (มัง-คิส์) | ลิง |
birthday (เบิร์ธ-เดย์) | birthdays (เบิร์ธ-เดย์ส) | วันเกิด |
key (คีย์) | keys (คีย์ส) | กุญแจ |
way (เวย์) | ways (เวย์ส) | เส้นทาง |
chimney (ชิม-นีย์) | chimneys (ชิม-นีย์ส) | ปล่องไฟ |
สระในภาษาอังกฤษมีอยู่ 5 ตัว คือ a, e, i, o, u
ถ้าหน้า –y เป็นพยัญชนะ เราต้องตัด y เป็น i แล้วเติม –es เช่น
Singular | Plural | คำแปล |
enemy (เอเน-มิ่) | enemies (เอเนมิ่ส์) | ศัตรู |
berry (เบร์-ริ่) | berries (เบร์ริ่ส์) | ลูกเบอร์รี่ |
duty (ดิว-ทิ่) | duties (ดิว-ทิ่ส์) | หน้าที่ |
spy (สปาย) | spies (สปายส์) | สายลับ |
library (ไล-แบร-ริ่) | libraries (ไล-แบร-ริ่ส์) | ห้องสมุด |
5. คำนามที่ลงท้ายด้วย –f หรือ –fe ให้เปลี่ยนตัว –f หรือ –fe เป็น –v แล้วเติม –es เช่น
Singular | Plural | คำแปล |
life (ไลฟ) | lives (ลายฟส์) | ชีวิต |
shelf (เชลฟ์) | shelves (เชลฟส์) | ชั้นวางของ |
loaf (โลฟ) | loaves (โลฟส์) | ก้อนขนมปัง |
thief (ธีฟ) | thieves (ธีฟส์) | โจร |
wife (ไวฟ) | wives (ไวฟส์) | ภรรยา |
6. คำนามบางคำ เวลาทำให้เป็นพหูพจน์ เราต้องเปลี่ยนรูปคำนั้นทันที
อันนี้เรามักจะพบเห็นกันอยู่บ่อยๆ เช่น
Singular | Plural | คำแปล |
child (ชายลด์) | children (ชิล-เดริน) | เด็ก |
tooth (ทูธ) | teeth (ทีธ) | ฟัน |
foot (ฟุท) | feet (ฟีท) | เท้า |
mouse (เมาส์) | mice (ไมส์) | หนู |
man (แมน) | men (เม็น) | ผู้ชาย |